ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นเหรียญ 1 บาทใช้จ่ายได้ไม่เกินครั้งละ 500 เหรียญ จ่ายเกินกฎหมายกำหนดผู้รับมีสิทธิ์ปฏิเสธได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ตามกฎหมายได้กำหนดให้เหรียญ 1 บาท ใช้ชำระหนี้ได้ในจำนวนคราวละไม่เกิน 500 บาท
ยังมีเรื่องการชำระหนี้ด้วย "เหรียญกษาปณ์" จะสามารถใช้เหรียญชำระหนี้ได้คราวละไม่เกินเท่าไร
- เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 10 บาท
- เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 2 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 1,000 บาท
ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการกำหนดจำนวนเหรียญที่ใช้ชำระแต่ละครั้งตามข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกันซึ่งหากมีการใช้เหรียญชำระหนี้ต่างๆ ในจำนวนที่เกินจากที่กฎหมายกำหนด ผู้รับมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธโดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย
ในกรณีที่ออมเงินไว้เป็นเงินเหรียญจำนวนมาก สามารถ "ฝากเงิน" ที่ธนาคารต่างๆ ก่อนถอนออกมาชำระหนี้ หรือชำระหนี้กับธนาคารได้โดยตรง โดยอาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละธนาคาร นอกการฝากเงินด้วยเหรียญ หรือชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ธนาคารแล้ว ยังมีช่องทางของ "กรมธนารักษ์" https://www.treasury.go.th/th/coin-contact/ หรือโทรศัพท์ติดต่อ : 02-834-8300 ในกรณีที่มีเหรียญจำนวนมาก สามารถติดต่อขอแลกเหรียญได้ที่ สำนักบริหารเงินตรา กรมธนารักษ์
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://www.egov.go.th/th/government-agency/213/ หรือโทร. 02-141 3754