กรมการค้าได้กำหนดสินค้า Car Seat เป็นหนึ่งในสินค้าที่ติดตามดูแล (Watch List) เดือนพ.ค. จะมีการติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด หากมีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผล อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 42 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
วันนี้ (17 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับประเด็นเรื่องพาณิชย์ขึ้นบัญชีคาร์ซีทเข้า Watch List เพื่อป้องกันการปรับราคาเกินควร ฝ่าฝืนติดคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน บาท ทางศูนย์ต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
จากที่พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ได้กำหนดให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย (Car Seat) กรมการค้าภายใน ได้หารือกับห้างค้าปลีกค้าส่งและแพลตฟอร์ม เพื่อติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้า Car Seat ซึ่งจากการหารือดังกล่าว ห้างและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ยืนยันว่าไม่มีการปรับขึ้นราคาจำหน่ายสินค้า Car Seat รวมทั้งมีการจัดโปรโมชั่นลดราคาอย่างต่อเนื่อง และหากผู้ผลิตขอปรับขึ้นราคาจำหน่ายก็จะแจ้งให้กรมฯ ทราบก่อน ส่วนห้างที่ยังไม่มีสินค้า Car Seat วางจำหน่าย ก็รับที่จะไปพิจารณาวางแผนการจำหน่ายต่อไป เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ได้กำหนดให้สินค้า Car Seat เป็นหนึ่งในสินค้าที่ติดตามดูแล (Watch List) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะมีการติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด กรณีที่มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบการฉวยโอกาสในลักษณะดังกล่าวประชาชนสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ที่เว็บไซต์ www.dit.go.th หรือโทรสายด่วน 1569
หน่วยงานที่ตรวจสอบ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์