จากกรณีที่มีข้อความชวนเชื่อเกี่ยวกับเรื่องผู้ส่งเบี้ยประกันสังคมทุกราย สามารถกู้เงินชราภาพของประกันสังคมได้ ทางสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ในเบื้องต้นว่า ผู้ประกันตนจะสามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวสามารถกระทำได้ต่อเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
วันนี้ (13 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อคำแนะนำเรื่องผู้ส่งเบี้ยประกันสังคมทุกราย สามารถกู้เงินชราภาพของประกันสังคมได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
ในกรณีที่มีข้อความชวนเชื่อระบุว่าผู้ส่งเบี้ยประกันสังคมทุกราย สามารถกู้เงินชราภาพของประกันสังคมได้ ทางสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงินมีการกำหนดเงื่อนไขไว้ในเบื้องต้นว่า จะต้องเป็นสถาบันการเงินที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคม โดยในรายละเอียดเงื่อนไขการกู้เงินระหว่างผู้ประกันตน และสถาบันการเงิน เป็นหน้าที่ในส่วนของสถาบันการเงินเป็นผู้กำหนดในขั้นแรก ก่อนที่ผู้ประกันตนจะสามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวกระทำได้ต่อเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ผู้ประกันตนจะสามารถนำเงินสะสมกรณีชราภาพไปเป็นหลักประกันกับสถาบันการเงิน ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าวสามารถกระทำได้ต่อเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้
หน่วยงานที่ตรวจสอบ นักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน