xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปลอม! มีรอยจุดสีขาวบนเล็บ เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อราที่เล็บและร่างกายขาดแร่ธาตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากกรณีมีเผยแพร่ว่ามีรอยจุดสีขาวบนเล็บ เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อราที่เล็บและร่างกายขาดแร่ธาตุ ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า จุดขาวในเล็บเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เล็บ เช่น การกระแทกเล็บกับของแข็ง ส่วนการติดเชื้อราที่เล็บอาจจะทำให้เล็บมีสีขาวแต่ลักษณะจะต่างกัน เพราะเล็บที่เป็นเชื้อราบริเวณที่เล็บขาวจะมีลักษณะเป็นปื้นไม่ได้เป็นจุดเล็กๆ ส่วนการขาดแร่ธาตุไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับเล็บที่มีจุดขาว

วันนี้ (6 พ.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่องมีรอยจุดสีขาวบนเล็บ เป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อราที่เล็บ และร่างกายขาดแร่ธาตุ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าว เป็นข้อมูลเท็จ

กรณีที่มีการแชร์ข้อมูลว่าเมื่อเล็บขาวหรือมีรอยจุดสีขาวบนเล็บ อาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อราที่เล็บหรืออาจเกิดจากการบาดเจ็บที่เล็บร่างกายขาดแร่ธาตุหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด ดังนั้นหากพบอาการเล็บขาวเป็นระยะเวลานานควรเข้าพบคุณหมอเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดและทำการรักษาเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเล็บให้กลับมามีสุขภาพดีดังเดิม ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เล็บเป็นจุดขาวเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะเล็บเป็นสีขาว มักพบบ่อยในเด็กลักษณะอาการคือมีจุดขาวขนาดเล็กประมาณ 1-3 มิลลิเมตร จุดขาวจะเคลื่อนออกไปยังปลายเล็บเมื่อเวลาที่เล็บยาวมากขึ้น สาเหตุมักเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เล็บเช่น การกระแทกเล็บกับของแข็งส่วนการติดเชื้อราที่เล็บอาจจะทำให้เล็บมีสีขาวได้แต่ลักษณะจะต่างกัน เนื่องจากเล็บที่เป็นเชื้อราบริเวณที่เล็บขาวมีลักษณะเป็นปื้นไม่ได้เป็นจุดเล็กๆและเล็บหนาร่วมด้วย มีขุยหรือเล็บเปื่อยยุ่ย ส่วนการขาดแร่ธาตุไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับเล็บมีจุดขาว

อย่างไรก็ตาม ลักษณะของเล็บมีดังนี้
1. เล็บมีลักษณะเป็นเส้นขาวหลายเส้นที่เป็นแนวขวางขนานกับความกว้างของเล็บ (Transverse leukonychia หรือ Mees’ lines) เกิดจากการบาดเจ็บที่เป็นซ้ำๆ, การติดเชื้อ, ยา เช่น ยาเรตินอยด์, โรคทางกายและการสัมผัสกับสารหนู
2. เล็บมีลักษณะเป็นเส้นขาวหลายเส้นที่เป็นแนวขวางขนานกับความกว้างของเล็บแต่กดที่เล็บแล้วสีขาวจางลง (Muehrcke’s lines) ไม่ได้เกิดจากเล็บที่เป็นสีขาวจริงเนื่องจากกดแล้วจางแต่เป็นจากความผิดปกติของพื้นเล็บ เกิดจากภาวะที่ร่างกายมีระดับอัลบูมินในเลือดต่ำกว่าปกติ, กลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ, โรคตับ, โรคขาดสารอาหารและการได้รับยาเคมีบำบัด
3. เล็บมีลักษณะเป็นเส้นขาวเป็นแนวยาวตามความยาวของเล็บ (Longitudinal white lines) พบได้ในผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น Darier disease, Hailey-Hailey disease
เล็บที่มีสีขาว 2 ใน 3 ของเล็บ (Terry’s nails) เวลากดที่เล็บ สีขาวที่เห็นจะจาง ไม่ได้เกิดจากเล็บที่เป็นสีขาวจริงเนื่องจากกดแล้วจางแต่เป็นจากความผิดปกติของพื้นเล็บ พบได้ในคนเป็นโรคเบาหวานโรคตับแข็งและโรคหัวใจวาย
4. เล็บที่มีสีขาวครึ่งเล็บ (Half-and-half nails) เวลากดที่เล็บ สีขาวที่เห็นจะจาง ไม่ได้เกิดจากเล็บที่เป็นสีขาวจริงเนื่องจากกดแล้วจางแต่เป็นจากความผิดปกติของพื้นเล็บ พบได้ในคนที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง
5. เล็บที่มีสีขาวทั้งเล็บ (Total leukonychia) พบในผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมบางอย่าง เช่น มีความผิดปกติของยีนส่วน Phospholipase C, delta-1 (PLCD1)

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : จุดขาวในเล็บ มักเกิดจากการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เล็บ เช่น การกระแทกเล็บกับของแข็ง ส่วนการติดเชื้อราที่เล็บอาจจะทำให้เล็บมีสีขาวได้แต่ลักษณะจะต่างกัน เนื่องจากเล็บที่เป็นเชื้อราบริเวณที่เล็บขาวจะมีลักษณะเป็นปื้น ไม่ได้เป็นจุดเล็ก ๆ ส่วนการขาดแร่ธาตุไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กับเล็บที่มีจุดขาว

หน่วยงานที่ตรวจสอบ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น