กรณีที่มีข้อความโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ชักชวนลงทุน โดยได้การรับรองจาก ก.ล.ต. ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบเรื่องและชี้แจงว่าเป็นการแอบอ้างใช้ชื่อและโลโก้สำนักงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับการใช้ภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงและข้อความที่สร้างความน่าสนใจในการลงทุนที่สร้าง ผลตอบแทนสูง โดยผู้ที่พบเห็นโฆษณาดังกล่าว อาจหลงเชื่อว่า เป็นข้อมูลที่มาจาก หรือได้รับการรับรองจาก สำนักงาน ก.ล.ต. และอาจเกิดความเสียหายได้
วันนี้ (5 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีโฆษณาบนเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อและโลโก้ ก.ล.ต. รวมทั้งแจ้งว่าได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ชักชวนประชาชนลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสูง หรืออ้างว่าได้รับรองจาก ก.ล.ต. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีข้อความเชิญชวนโดยกล่าวว่าเทรนแห่งอนาคต ปี 2022 สำหรับออนไลน์มือใหม่สร้างกำไรแบบไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ รอดูกราฟ หรืออ้างว่าได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ทาง สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่าข้อความเชิญชวนดังกล่าวเป็นการแอบอ้างใช้ชื่อและโลโก้สำนักงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับการใช้ภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงและข้อความที่สร้างความน่าสนใจในการลงทุนที่สร้าง ผลตอบแทนสูง และมีข้อความที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าสำนักงานให้การรับรอง โดยผู้ที่พบเห็นโฆษณาดังกล่าว อาจหลงเชื่อว่า เป็นข้อมูลที่มาจาก หรือได้รับการรับรองจาก สำนักงาน ก.ล.ต. และอาจเกิดความเสียหายได้
ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถตรวจสอบว่า ผู้ที่ชักชวน/ผู้ให้บริการ ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือไม่ โดยตรวจสอบที่ www.sec.or.th/licensecheck หรือ ติดตั้งแอปพลิเคชัน SEC Check First เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ทันที และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงาน ก.ล.ต. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 1207
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นการแอบอ้างใช้ชื่อและโลโก้สำนักงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกับการใช้ภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงและข้อความที่สร้างความน่าสนใจในการลงทุนที่สร้าง ผลตอบแทนสูง และมีข้อความที่อาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่าสำนักงานให้การรับรอง
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)