คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคมีคำแนะนำการฉีดวัคชีนโควิด 19 เข็มกระตุ้นดังนี้ 1.อายุ 18 ปีขึ้นไปให้ฉีดเข็ม 3 ห่างจากเข็ม 2 3 เดือนขึ้นไปและฉีดเข็ม 4 ห่างจากเข็ม 3 4 เดือนขึ้นไป 2.อายุ 12-17 ปีให้เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็ม 3โดยมีระยะห่างจากเข็ม 2 เป็นเวลา 4-6 เดือนขึ้นไป 3.ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด 19ให้ฉีดวัคซีนหลังติดเชื้อเป็นเวลา 3 เดือน
วันนี้ (27 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่องสธ. ปรับสูตรฉีดวัคซีนโควิด เข็ม 3 ห่าง 3 เดือน และเข็ม 4 ห่าง 4 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุขพบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
กระทรวงสาธารณสุข เผยประสิทธิผลวัคซีนโควิด 19 จากการใช้จริงในจังหวัดเชียงใหม่ พบฉีด 2 เข็มป้องกันติดโอมิครอนไม่ได้ แต่ยังป้องกันเสียชีวิตได้สูง ฉีดเข็ม 3 ป้องกันติดเชื้อ 45-68 ป้องกันเสียชีวิตสูง 98% ส่วนเข็ม 4 ป้องกันติดเชื้อสูง 82% ยังไม่พบการเสียชีวิต เร่งจัดบริการฉีดเข็มกระตุ้นผู้สูงอายุให้ได้ 70% ก่อนสงกรานต์ พร้อมปรับแนวทางฉีดวัคชีนเข็มกระตุ้นเพิ่มเติม อายุ 18 ปีขึ้นไป รับเข็ม 3 ได้หลังฉีด 2 เข็มครบ 3 เดือนในทุกสูตร ส่วนเข็ม 4 ให้เว้น 4 เดือน อายุ 12-17 ปี รับเข็ม 3 ระยะห่าง 4-6 เดือน
ขณะนี้ ประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด 19 ในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเข้าใกล้ 80% ฉีดเข็มสองตามมาเกิน 72% แล้ว แต่ฉีดเข็มสามได้ประมาณ 33% ซึ่งข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-19 มีนาคม 2565 จำนวน 2,464 ราย อายุเฉลี่ย 73 ปี อายุน้อยสุด 3 เดือน อายุมากสุด 107 ปีมีหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย มีโรคประจำตัว 2, 1 35 ราย มากที่สุดคือโรคความดันโลหิตสูง ตามด้วยเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ไตเรื้อรัง มะเร็ง โรคอ้วน และปอดอุดกั้นเรื้อรัง โดยพบว่า 57% ไม่ได้ฉีดวัคซีน อีก 31% ฉีด 2 เข็มเกินกว่า 3 เดือน ทั้งนี้ จากการศึกษาประสิทธิผลของวัคชีนจากการใช้จริงระยะที่มีการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนในพื้นที่เชียงใหม่ โดยคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับคณะทำงานติดตามประสิทธิผลวัคซีนโควิด 19 และคณะทำงานด้านวิชาการ ดำเนินการเก็บข้อมูลช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์ 2565 พบว่า หากฉีด 2 เข็ม ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้ ฉีด 3 เข็มป้องกันติดเชื้อ 45-68% หากฉีด 4 เข็ม ป้องกันติดเชื้อได้ 82% ส่วนการป้องกันการเสียชีวิต หากฉีด 2 เข็มป้องกันได้ 85-93% ฉีด 3 เข็ม ป้องกันได้ 98% ส่วนการฉีด 4 เข็ม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีน 2 เข็ม ไม่ช่วยเรื่องป้องกันการติดเชื้อและประสิทธิภาพป้องกันการเสียชีวิตน้อยลง จึงจำเป็นต้องฉีดเข็มที่ 3 ซึ่งนอกจากป้องกันการเสียชีวิตได้เกือบ 100% ยังลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้ด้วยเป็นการลดโอกาสติดเชื้อตั้งแต่ต้นก็จะไม่ไปถึงการเสียชีวิตได้ ซึ่งคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ประชุมและมีคำแนะนำการฉีดวัคชีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น ดังนี้
1. กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป ให้ฉีดเข็มสามห่างจากเข็มสองตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปในวัคชีนทุกสูตร และฉีดเข็มสี่ห่างจากเข็มสาม ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป โดยหากฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ สามารถเลือกฉีดแบบครึ่งโดสได้ ภายใต้ดุลยพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน
2. กลุ่มอายุ 12-17 ปี ให้เข้ารับวัคซีนชนิด mRNA เป็นเข็มสาม โดยใช้ขนาดโดสมาตรฐาน มีระยะห่างจากเข็มสองเป็นเวลา 4-6 เดือนขึ้นไป สอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
3.ผู้ที่มีประวัติติดเชื้อโควิด 19 มาก่อน ให้ฉีดวัดชีนตามหลักการเดียวกับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อ โดยให้วัคซีนหลังติดเชื้อเป็นเวลา 3 เดือน
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://ops.moph.go.th/public/ หรือโทร. 02 590 1000
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข