ตามที่มีการแนะนำข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นสุขภาพในสื่อสังคมออนไลน์เรื่องน้ำต้มปูแสม ช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อมูลว่าชาวบ้านใช้ปูแสมรักษาหรือช่วยแก้ไขโรคลมบ้าหมูซึ่งเป็นวิธีของพื้นบ้าน ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ยังไม่มีข้อมูลทั้งในตำรายาการแพทย์แผนไทย และข้อมูลเชิงประจักษ์อื่น ๆ ในปัจจุบันที่สามารถสนับสนุนได้ว่าปูแสมใช้รักษาโรคลมชักหรือลมบ้าหมูได้ ทั้งนี้ผู้ที่เป็นโรคลมชัก ควรได้รับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยมากที่สุด เพราะโรคดังกล่าวเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติจากการทำงานของสมอง
สำหรับสาเหตุของการเกิดโรค มีดังนี้
1.ความผิดปกติของขั้นตอนการสร้างสมองตั้งแต่อยู่ในครรภ์ (congenital anomaly)
2.ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการทำงานหรือโครงสร้างสมอง (genetic
disease)
3.ความผิดปกติหรือภาวะแทรกซ้อน ก่อนคลอด ระหว่างคลอดหรือหลังคลอด
เช่น การติดเชื้อในครรภ์ การขาดออกซิเจนระหว่างคลอด เป็นต้น
4.เกิดจากภูมิต้านทานของตัวเอง (autoimmune disease)
5.การมีก้อนเนื้องอกในสมอง หรือเซลล์ที่เจริญเติบโตเร็วในสมองในบางกลุ่มอาการ
ของโรคบางโรค
6.การติดเชื้อในสมอง รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาจากการติดเชื้อ
7.ไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน
และในปัจจุบันมีวิธีการรักษาโรคลมชักหลายวิธี โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ ๆ คือ
1.การรักษาโดยการใช้ยากันชัก
2.การรักษาโดยวิธีอื่นที่นอกเหนือจากการใช้ยากันชัก เช่น การผ่าตัดสมอง การใส่เครื่องกระตุ้นเส้นประสาทคู่ที่ 10 หรือการให้อาหารแบบคีโตน เป็นต้น
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือประชาชนให้งดแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จไปในช่องทางสื่อโซเชียลต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีข้อมูลทั้งในตำรายาการแพทย์แผนไทย และข้อมูลเชิงประจักษ์อื่น ๆ ในปัจจุบันที่สามารถสนับสนุนได้ว่าปูแสมใช้รักษาโรคลมชักหรือลมบ้าหมูได้