จากที่มีข้อความเผยแพร่ 8 วิธีเปลี่ยนผิวเหลือง เป็นผิวขาวอมชมพู กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง โดยการที่จะเปลี่ยนให้คนที่มีผิวขาวเหลืองเป็นขาวอมชมพูได้นั้น เป็นไปได้ยาก เพราะสิ่งที่ทำให้ผิวมีความแตกต่างกันคือ เม็ดสีหรือเมลานิน ซึ่งจะมีสัดส่วนแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล
วันนี้ (28 ก.พ.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง8 วิธีเปลี่ยนผิวเหลือง ผิวขาวซีด เป็นผิวขาวอมชมพูได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทาง สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีข้อความชวนเชื่อเรื่อง 8 วิธีเปลี่ยนผิวเหลือง ผิวขาวซีด เป็นผิวขาวอมชมพูได้ ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากการที่จะเปลี่ยนให้คนที่มีผิวขาวเหลืองเป็นขาวอมชมพูได้นั้น เป็นไปได้ยาก เพราะสิ่งที่ทำให้ผิวมีความแตกต่างกันคือ เม็ดสีหรือเมลานิน (Melnin) โดยเมลานินจะอยู่บริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า ถูกผลิตขึ้นโดยเมลาโนไซต์ (Melanocyte) จากชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า ก่อนจะถูกส่งขึ้นมาสู่ชั้นบนเป็นทอด ๆ
ซึ่งเมลานินซึ่งถูกผลิตขึ้นมานี้มี 2 ชนิด ได้แก่ ยูเมลานิน (Umelnin) ซึ่งมีสีดำ น้ำตาลเข้ม และฟีโอเมลานิน (Pheomelanin) ซึ่งมีสีแดง เหลือง ทั้งนี้เมลานินทั้งสองชนิดนี้มีสัดส่วนแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล สัดส่วนที่แตกต่างกันไปของเมลานินที่ผลิตออกมาทำให้สีผิวของเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ชาวแอฟริกันหรืออเมริกาใต้หรือผู้ที่มีผิวคล้ำ จะมีสัดส่วนของยูเมลานินมากกว่า ในขณะที่คนผิวขาว เอเซีย จีนหรือยุโรป จะมีสัดส่วนของฟีโอเมลานินมากกว่า ดังนั้นการที่คนเราจะมีผิวขาวเหลือง หรือขาวอมชมหูจึงขึ้นกับสัดส่วนของเมลานินในชั้นผิวหนัง
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th/ หรือโทร 02-5904332
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : การที่จะเปลี่ยนให้คนที่มีผิวขาวเหลืองเป็นขาวอมชมพูได้นั้น เป็นไปได้ยาก เพราะสิ่งที่ทำให้ผิวมีความแตกต่างกันคือ เม็ดสีหรือเมลานิน ซึ่งจะมีสัดส่วนแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข