การดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับอัตราการเกิดพังผืดในตับที่ลดลง 35% ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งได้ และจากผลการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟ 3 ถ้วย/วัน มีความเสี่ยงเกิดไขมันพอกตับน้อยกว่าการดื่มกาแฟ 2 ถ้วย/วัน ดังนั้นการดื่มกาแฟเป็นประจำมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงต่อไขมันพอกตับ
วันนี้ (27 ก.พ.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ประเด็นเรื่องดื่มกาแฟดำ ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคตับแข็ง และช่วยป้องกันการเกิดไขมันพอกในตับ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
กาแฟดำอุดมด้วยโฟลิฟีนอลที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับอัตราการเกิดพังผืดในตับที่ลดลง 35% ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับแข็งได้ และจากผลการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟ 3 ถ้วย/วัน มีความเสี่ยงเกิดไขมันพอกตับน้อยกว่าการดื่มกาแฟ 2 ถ้วย/วัน ดังนั้นการดื่มกาแฟเป็นประจำมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงต่อไขมันพอกตับ แต่ยังคงต้องศึกษาปัจจัยอื่นทางระบาดวิทยาเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามการดื่มกาแฟปริมาณมากในคราวเดียว อาจทำให้เกิดอาการใจสั่น ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นชั่วขณะ กระสับกระส่าย และนอนไม่หลับ หากวันไหนที่ไม่ได้ดื่มจะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วง ซึม ไม่สดชื่น หรือไม่กระปรี้กระเปร่าได้ ซึ่งใน 1 วันไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 3-4 แก้ว หรือรับคาเฟอีนไม่เกิน 300-400 มก. นอกจากนี้ก็ควรเลือกกาแฟดำแทนกาแฟที่ใส่น้ำตาลและครีมเทียมเป็นประจำ เพราะอาจได้รับพลังงานและไขมันเกิน จะส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือมีภาวะอ้วนได้
ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักโภชนาการ กรมอนามัย สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th/ หรือโทร. 02 590 4332
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักโภชณาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข