ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ถึงประเด็นเรื่อง พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บ ของเด็กช่วยให้รอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้นได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขพบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากข้อมูลที่แนะนำว่าพฤติกรรมการดูดนิ้ว และกัดเล็บในเด็ก อาจช่วยป้องกันอาการแพ้ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในวัยผู้ใหญ่ได้ ทางสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บ เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในเด็กปกติโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก และจะค่อย ๆ หายไปหลังอายุ 4 ขวบ แต่ไม่ได้ช่วยให้เด็กรอดพ้นจากโรคภูมิแพ้เมื่อโตขึ้น ควรได้รับการแก้ไขหากยังมีการดูดนิ้ว กัดเล็บในเด็กอายุเกิน 4 ขวบขึ้นไป เพราะจะส่งผลกระทบกับการผิดรูปของฟัน การเกิดบาดแผลที่นิ้ว และเป็นช่องทางในการทำให้เกิดโรคติดเชื้อที่แพร่กระจายผ่านน้ำลายและสารคัดหลั่งต่างๆ ทั้งยังส่งผลกับด้านอารมณ์จิตใจ รวมถึงบุคลิกภาพของเด็กด้วย
ทั้งนี้ เด็กเล็กก็ควรได้รับการแก้ไขโดยการปรับพฤติกรรม ได้แก่ งดการให้ความสนใจการดูดนิ้ว กัดเล็บ และเบี่ยงเบนความสนใจโดยใช้กิจกรรมการเล่นที่ใช้มือ เช่น วาดภาพ ระบายสี พับกระดาษ เป็นต้น หากได้รับการแก้ไขดังกล่าวแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบกุมารแพทย์หรือกุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.childrenhospital.go.th/ หรือโทร Call Center 1415
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : พฤติกรรมการดูดนิ้ว กัดเล็บไม่เกี่ยวข้อง และไม่สามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ที่จะเกิดขึ้นกับเด็กในอนาคตได้