จากข้อความแนะนำทางสื่อออนไลน์ที่กล่าวว่าหากโดนตะขาบกัดให้นำคางคกมาทาที่แผล จะช่วยดูดพิษของตะขาบออกไปได้ ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้ชี้แจงว่าเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง การนำคางคกหรือสิ่งแปลกปลอมมาถูหรือพอกบริเวณที่ถูกตะขาบกัดจะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังได้มากขึ้น หากมีความผิดปกติหรืออาการแพ้รุนแรงเกิดขึ้นหลังถูกตะขาบกัด และขอแนะนำว่าให้รีบไปพบแพทย์ในทันที
วันนี้ (31 ม.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็น ใช้คางคกถูบริเวณที่ตะขาบกัดจะช่วยดูดพิษออกได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากที่มีข้อความแนะนำทางสื่อออนไลน์ที่กล่าวว่าหากโดนตะขาบกัดให้นำคางคกมาทาที่แผล ซึ่งจะช่วยดูดพิษของตะขาบออกไปได้ ทางสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ ได้ชี้แจงว่าเป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง การนำคางคกมารักษาโดยการถูบริเวณแผลนั้น มีความเสี่ยงต่อการเกิดผิวหนังติดเชื้อได้มากขึ้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วพิษของตะขาบจะมีฤทธิ์ทำลายระบบประสาท และจะมีอาการทางผิวหนังที่พบได้บ่อยหลังโดนตะขาบกัด คือ อาการปวด บวม แดง หรือมีเหงื่อออกเฉพาะที่ นอกจากนี้อาจมีเลือดออกในบริเวณที่ถูกกัดได้ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ถูกตะขาบกัดมักเกิดอาการชา ซึ่งเป็นผลที่มาจากพิษของตะขาบ หากไม่ได้รับการดูแลแผลที่ดี อาจจะลุกลามจนเกิดเป็นแผลลึก หรือมีการติดเชื้อตามมาได้ อย่างไรก็ตามในบางกรณีที่พบได้ไม่บ่อยนัก การถูกตะขาบกัดอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงต่อระบบอื่นๆ ในร่างกาย เช่น ภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะกล้ามเนื้อสลาย หรือไตวาย เป็นต้น
ทั้งนี้ การนำคางคกหรือสิ่งแปลกปลอมมาถูหรือพอกบริเวณที่ถูกตะขาบกัดนั้น จะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังได้มากขึ้น หากมีความผิดปกติหรืออาการแพ้รุนแรงเกิดขึ้นหลังถูกตะขาบกัด ขอแนะนำว่าให้ท่านรีบไปพบแพทย์ในทันที
สำหรับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหลังถูกตะขาบกัด ควรทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดก่อน หลังจากนั้นให้ทำตามวิธีต่อไปนี้
1.ประคบด้วยน้ำแข็ง หรือแช่บริเวณที่ถูกกัดในน้ำอุ่นเพื่อลดอาการปวด 2. ใช้ยาแก้ปวดชนิดรับประทานหรือสเปรย์ลดอาการปวด 3. รับประทานยาแก้แพ้กลุ่ม antihistamines 4. ผู้ที่ถูกตะขาบกัดควรได้รับการฉีดวัคซีนบาดทะยัก 5. รับประทานยาฆ่าเชื้อหากพบว่ามีการติดเชื้อที่ผิวหนังร่วมด้วย
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.iod.go.th หรือโทร. 02-354-5222
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง การนำคางคกหรือสิ่งแปลกปลอมมาถูหรือพอกบริเวณที่ถูกตะขาบกัดนั้น จะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังได้มากขึ้น หากมีความผิดปกติหรืออาการแพ้รุนแรงเกิดขึ้นหลังถูกตะขาบกัด ขอแนะนำว่าให้ท่านรีบไปพบแพทย์ในทันที
หน่วยงานที่ตรวจสอบ สถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข