กรณีที่มีการโพสต์ภาพ และให้ข้อมูลว่ามัสยิดกลายเป็นสาขาของธนาคารอิสลาม 1,000 แห่งทั่วประเทศ ทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันธนาคารอิสลาม ให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่าน 97 สาขาทั่วประเทศเท่านั้น และแม้ว่าการให้สินเชื่อของธนาคารอิสลาม ลูกค้าไม่เสียดอกเบี้ยเนื่องจากผิดหลักศาสนาอิสลาม แต่ต้องชำระเงินต้นและกำไรตามสัญญา
วันนี้ (8 ม.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง มัสยิดกลายเป็นสาขาของธนาคารอิสลาม 1,000 แห่งทั่วประเทศ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีที่มีการโพสต์ภาพ และให้ข้อมูลว่า มัสยิดกลายเป็นสาขาของธนาคารอิสลาม 1,000 แห่งทั่วประเทศ มีการให้กู้ยืมเงินโดยไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ตามหลักโจรนั้น ทางธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบันธนาคารอิสลาม ให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่าน 97 สาขาทั่วประเทศเท่านั้น สำหรับโครงการผลิตภัณฑ์ชุมชนซื่อสัตย์ ธนาคารอิสลามเป็นผู้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อแก่ผู้ดูแลโครงการที่มัสยิดแต่งตั้ง ซึ่งจะเป็นลูกหนี้ตามสัญญา โดยลูกหนี้หรือผู้ดูแลโครงการดังกล่าว จะนำสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคารอิสลามไปปล่อยสินเชื่อต่อให้แก่สับปุรุษในชุมชนตามความจำเป็นในการดำรงชีพ และลูกหนี้ต้องชำระหนี้คืนแก่ธนาคารอิสลามเป็นรายงวดตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้ และแม้ว่าการให้สินเชื่อของธนาคารอิสลาม ลูกค้าไม่เสียดอกเบี้ยเนื่องจากผิดหลักศาสนาอิสลาม แต่ต้องชำระเงินต้นและกำไรตามสัญญา หากลูกค้าผิดสัญญาธนาคารอิสลามจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สามารถติดตามได้ที่ www.ibank.co.th/th หรือโทร.1302
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันธนาคารอิสลาม ให้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่าน 97 สาขาทั่วประเทศเท่านั้น และแม้ว่าการให้สินเชื่อของธนาคารอิสลาม ลูกค้าไม่เสียดอกเบี้ยเนื่องจากผิดหลักศาสนาอิสลาม แต่ต้องชำระเงินต้นและกำไรตามสัญญา
หน่วยงานที่ตรวจสอบ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย