กรณีการประดิษฐ์เป็นเมนูอาหารจากใบกระท่อมตามประเด็นข้างต้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า การบริโภคใบกระท่อมโดยนำมาชุบแป้งทอดกรอบ เป็นเมนูที่ควรระมัดระวังในการบริโภค เนื่องจากการรับประทานในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดการตกค้างของใบกระท่อมในลำไส้ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และเกิดอันตรายได้
เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยข้อมูลระบุว่า ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฎในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ถึงเรื่อง กินใบกระท่อมทอดกรอบ มีฤทธิ์ทคลายเส้น และทำให้ตื่นตัว ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีการแชร์ข้อมูลวิธีการทำใบกระท่อมชุบแป้งแล้วทอดให้กรอบเพื่อรับประทาน ซึ่งระบุว่าหลังกินจะช่วยให้คลายเส้น และตื่นตัวนั้น ทางกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า การบริโภคใบกระท่อมที่ผ่านมามีหลายรูปแบบ เช่น บดเป็นผง ละลายน้ำดื่ม หรือเคี้ยวใบสด โดยเคี้ยวเหลือแต่กากแล้วคายออก หรือเอาใบมาย่างให้เกรียมและตำให้ละเอียดผสมกับน้ำพริกรับประทานเป็นอาหาร เพื่อให้มีแรงทำงานและสามารถทน ตากแดดอยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเหนื่อย
การใช้ใบกระท่อมควรรูดเอาก้านใบออก เนื่องจากก้านใบและใบกระท่อมไม่สามารถย่อยได้ สามารถตกตะกอนติดค้างในลำไส้เกิดพังพืดหุ้มรอบกากกระท่อมนั้น สำหรับในกรณีการบริโภคใบกระท่อมโดยนำมาชุบแป้งทอดกรอบ เป็นวิธีแบบใหม่ ซึ่งเมนูดังกล่าวเป็นเมนูที่ควรระมัดระวังในการบริโภค เนื่องจากการรับประทานในปริมาณมากหรือบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดการตกค้างของใบกระท่อมในลำไส้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น มึนงง คลื่นไส้อาเจียน หรือทำให้ติดได้ จึงไม่แนะนำให้นำใบกระท่อมมาบริโภคโดยประดิษฐ์เป็นเมนูใหม่ ๆ เพื่อสันทนาการ เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ ผู้ที่มีอาการผิดปกติจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ควรหยุดใช้และรีบพบแพทย์ทันที
โดยสรรพคุณทางยา ใบกระท่อม มีรสขมเฝื่อนเมา ใช้เป็นยาแก้ปวดท้อง แก้บิด ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อย ทำให้นอนหลับ และระงับประสาท ในสูตรยาของหมอพื้นบ้านหรือหมอแผนโบราณ จะนำพืชใบกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาแก้ท้องร่วง เช่น ตำรับยาประสะกระท่อม ชาวมลายูใช้ใบกระท่อมตำพอกแผล และใช้ทั้งใบเผาให้ร้อนวางบนท้องรักษาโรคม้ามโต ตลอดจนใช้กระท่อมเพื่อทดแทนฝิ่นในท้องที่ ซึ่งหาฝิ่นไม่ได้ และบ่อยครั้งมีการใช้ใบกระท่อมเพื่อควบคุมการติดฝิ่น โดยเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.dtam.moph.go.th หรือโทร. 02 5917007
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ไม่แนะนำให้นำใบกระท่อมมาบริโภคโดยประดิษฐ์เป็นเมนูใหม่ ๆ เนื่องจากอาจทำให้เกิดการตกค้างของใบกระท่อมในลำไส้ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและเกิดอันตรายได้
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข