เพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาวิจัยการผลิตวัคซีนของนักวิจัยไทย ซึ่งนอกจากรัฐฯ จะจัดสรรงบประมาณปกติไปแล้ว เพื่อเป็นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จึงมีมติส่งมอบเงินบริจาคฯ จากภาคประชาชน และภาคเอกชน ในบัญชีเงินบริจาค “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)”
วันนี้ (27 ต.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สปน. เชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินสนับสนุนการพัฒนาวิจัย วัคซีนโควิด19 ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีดำริให้เปิดบัญชีเงินบริจาค บัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” โดยนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ได้บริจาคเริ่มต้นเปิดบัญชีดังกล่าว รวมทั้งมีภาคประชาชนและภาคเอกชนได้ร่วมบริจาคสมทบทุนอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน ในภาพรวมมีเงินสะสม จำนวน 52,220,939.54 บาท โดยมีการใช้จ่ายเงินบริจาคไปแล้ว ดังนี้
1. ช่วยเหลือบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคโควิด19 จำนวน 160 คน เป็นเงิน 6,025,000 บาท
2. สนับสนุนถุงกำลังใจและถุงยังชีพให้แก่กลุ่มเปราะบางผู้ป่วยติดเตียงในกรุงเทพมหานคร จำนวน 6,796 ถุง เป็นเงิน 6,796,000 บาท
สำหรับครั้งนี้เป็นการสนับสนุนการพัฒนาวิจัยการผลิตวัคซีนของนักวิจัยไทย ซึ่งนอกจากรัฐบาลจะมีการจัดสรรงบประมาณปกติในการวิจัยไปแล้ว เพื่อเป็นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน คณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการประชุม ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2564 ได้มีมติเห็นชอบในหลักการส่งมอบเงินบริจาคฯ จากภาคประชาชน และภาคเอกชนโดย บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ในบัญชีเงินบริจาคบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” เพื่อสมทบทุนการพัฒนาวัคซีนของนักวิจัยไทย โดยส่งมอบให้กับหน่วยงานของรัฐ 2 หน่วยงาน ที่มีอำนาจหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด19 รวม 20,100,000 บาท ดังนี้
1. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 15,050,000 บาท (สิบห้าล้านห้าหมื่นบาทถ้วน) เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้รับมอบ มี ศาสตราจารย์.ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศาสตราจารย์ นายแพทย์เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม ผู้อำนวยการบริหารโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด19 ศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมการรับมอบในครั้งนี้ด้วย
2. สถาบันวัคซีนแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5,050,000 บาท (ห้าล้านห้าหมื่นบาทถ้วน) โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จากผู้บริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย รวมมูลค่า 2,960,604 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งกำลังประสบกับภาวะวิกฤตในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณภาคประชาชน และภาคเอกชน ที่ได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุน การวิจัยและพัฒนาวัคซีน แก้ไขปัญหาโรคโควิด 19 และการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ตลอดจนส่งมอบกำลังใจและความห่วงใยให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตในสถานการณ์ปกติ ได้อย่างมีความสุข
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดต้องการร่วมส่งมอบกำลังใจและมีความประสงค์สนับสนุนการช่วยเหลือให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนการจัดถุงยังชีพและอุปกรณ์ป้องกันโควิด19 เพิ่มเติม ขอเชิญชวนร่วมบริจาคเงินได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-13829-0 ชื่อบัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” โดยยอดเงินบริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โทร 0 2283 4318 – 24 และสามารถส่งเอกสารการโอนเงินบริจาคเพื่อขอรับใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนภาษีได้ทาง Application LINE : @987xmnnl
และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.opm.go.th/ หรือโทร. 02 2834000
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี