กรณีการแชร์ข้อมูลว่ารักษาโรคโควิด-19 ได้ โดยการนำยาอะม็อกซีซิลลิน และอะซิโธรมัยซิน ละลายน้ำแล้วดื่ม ทางกรมการแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า เป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากยาอะม็อกซีซิลลินและยาอะซิโธรมัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสได้แต่อย่างใด
วันนี้ (30 ก.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการให้ข้อมูลการรักษาโควิด-19 เรื่อง รักษาโรคโควิด-19 ได้ โดยการนำยาอะม็อกซีซิลลิน และอะซิโธรมัยซิน ละลายน้ำแล้วดื่ม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
กรณีที่มีการแชร์ในสื่อโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับคลิปวิดีโอหรือข้อความแนวคิด “แซ่วี Method” สามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้ โดยการนำยาปฏิชีวนะ 2 ชนิด ได้แก่ อะม็อกซีซิลลิน (Amoxycilin) และอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) ละลายกับน้ำเปล่าแล้วดื่มนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 มีแนวทางการรักษาตามหลักวิชาการที่ถูกต้อง จัดทำโดย คณะทํางานด้านการรักษาพยาบาลและการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ คณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่าง ๆ (คณะกรรมการกํากับดูแลรักษาโควิด-19) ซึ่งสามารถดูได้จากแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2564 ดังลิ้งค์นี้ https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=150…
ซึ่งจากคำกล่าวอ้างในคลิป มีการใช้ยาปฏิชีวนะ ได้แก่ Amoxicillin ซึ่งเป็นยากลุ่มเพนนิซิลิน ซึ่งหลายคนมีอาการแพ้ยากลุ่มนี้ได้ และการป้องกันการติดเชื้อและอาการรุนแรงด้วยการฉีดวัคซีนยังได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคและลดระดับความรุนแรงได้ และการปฏิบัติตนตามแนวทาง DMHTT ยังคงได้ประโยชน์ทั้งกับโรคที่เกิดจากไวรัสโควิดและโรคติดเชื้ออื่น ๆ
นอกจากนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า เป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากอะม็อกซีซิลลิน (Amoxycilin) และอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) เป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสได้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ยาอะม็อกซีซิลลิน จัดอยู่ในกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillin) ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ ทางเดินปัสสาวะ หู คอ จมูก และผิวหนัง เป็นต้น และยาอะซิโธรมัยซินจัดอยู่ในกลุ่มแมคโครไลน์ (Macrolide) ใช้รักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ ทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบ การติดเชื้อที่หูชั้นกลาง การติดเชื้อที่ทางเดินหายใจ เป็นต้น ซึ่งการรักษาโรคด้วยยาปฏิชีวนะจำเป็นต้องได้รับคำแนะนำในการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกร เพราะหากรับประทานยาปฏิชีวนะไม่ถูกวิธีจะทำให้เกิดเชื้อดื้อยา ภายหลังเมื่อป่วยจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อจะมีความทนต่อยามากขึ้น ทำให้ใช้ยาไม่ได้ผลนำไปสู่การเสียชีวิตได้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางด้านสุขภาพ หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือโทรสายด่วน อย. 1556
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เป็นข้อมูลเท็จ เนื่องจากยาอะม็อกซีซิลลินและยาอะซิโธรมัยซินเป็นยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษาโรคหรืออาการที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ไม่สามารถรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสได้แต่อย่างใด อีกทั้งหลายคนมีอาการแพ้ยากลุ่มนี้ และการป้องกันการติดเชื้อและอาการรุนแรงด้วยการฉีดวัคซีนยังได้ประโยชน์ในการป้องกันโรคและลดระดับความรุนแรงได้ และการปฏิบัติตนตามแนวทาง DMHTT ยังคงได้ประโยชน์ทั้งกับโรคที่เกิดจากไวรัสโควิดและโรคติดเชื้ออื่น ๆ
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมการแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข