การนำเข้ายาหรือวัคซีนจากต่างประเทศรัฐบาลไม่เคยปิดกั้นเอกชนแต่อย่างใด โดยเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ต้องมายื่นเป็นผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรก่อน จากนั้นจึงยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล เนื่องจากผู้รับอนุญาตนำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
วันนี้ (25 ส.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข่าวสารในสื่อออนไลน์เรื่อง สธ. ไม่ปิดกั้น ให้เอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเข้ายาหรือวัคซีนจากต่างประเทศ ว่า รัฐบาลไม่เคยปิดกั้นภาคเอกชนในการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 สำหรับกรณีเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนโควิด 19 เช่น โรงพยาบาลเอกชน ต้องมายื่นเป็นผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรก่อน จากนั้นจึงยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด 19 อีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล เนื่องจากผู้รับอนุญาตนำเข้าต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อคุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
ซึ่งเอกชนรายใดประสงค์จะนำเข้าวัคซีนโควิด สามารถดำเนินการได้ยื่นขอเป็นผู้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนมาขึ้นทะเบียนได้ที่ อย. เพื่ออำนวยความสะดวกทาง อย.ได้ระดมสรรพกำลังและเร่งดำเนินการพิจารณาประเมิน ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ประสิทธิผลและการบริหารจัดการความเสี่ยงของวัคซีน หากส่งเอกสารครบถ้วนตามที่กำหนดจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 30 วัน
โดยปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติทะเบียนวัคซีนโควิด 19 แล้ว จำนวน 6 รายการ ได้แก่ วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า นำเข้าโดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด, วัคซีนโคโรนาแวค ของบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ไซเอ็นซ์ จำกัด นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม , วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน นำเข้าโดยบริษัท แจนเซ่น ซีแลค จำกัด, วัคซีนโมเดอร์นา นำเข้าโดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด, วัคซีนของซิโนฟาร์ม นำเข้าโดยบริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด และวัคซีนโคเมอร์เนตีของไฟเซอร์ นำเข้าโดย บริษัท ไฟเซอร์ ประเทศไทย จำกัด (ข้อมูล ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2564)
สำหรับผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพหรือวัคซีนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 สามารถรับบริการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน OSSC หมายเลข 02 -5907606 และ 02- 1148181 ,แอปพลิเคชันไลน์ : @OSSC_FDA , อีเมล : OSSC@fda.moph.go.th หรือลงทะเบียนใช้บริการคำปรึกษาออนไลน์ผ่านระบบ E-consult ได้ที่ลิงค์ http://privus.fda.moph.go.th
ดังนั้นเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร. 1422
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข