กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลว่าวัคซีนไฟเซอร์ส่วนหนึ่งถูกส่งไป จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ระบาดหนัก ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ยังอยู่ในขั้นตอนของบริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะเริ่มส่งได้ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ อีกทั้งก็อยู่ในระหว่างการจัดสรรให้ 5 กลุ่มเป้าหมายตามมติที่ประชุม ซึ่งในนั้นไม่มีจังหวัดบุรีรัมย์
วันนี้ (4 ส.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวสารถึงประเด็นเรื่อง วัคซีนไฟเซอร์ส่วนหนึ่งถูกส่งไป จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ระบาดหนัก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
ในกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องวัคซีน โดยระบุว่าวัคซีนไฟเซอร์ส่วนหนึ่งถูกส่งไป จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่ระบาดหนัก ทางกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ใช่ความจริง เนื่องจากขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ยังอยู่ในขั้นตอนของบริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะเริ่มส่งได้ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ อีกทั้งก็อยู่ในระหว่างการจัดสรรให้ 5 กลุ่มเป้าหมายตามมติที่ประชุม ซึ่งในนั้นไม่มีจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ดังนี้
– 7 แสนโดส เพื่อใช้กระตุ้นเข็ม 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์
– 645,000 โดส เพื่อกลุ่มเสี่ยง (ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วย 7 โรคและสตรีมีครรภ์) 608 ชาวไทยใน 13 จังหวัด
– 1.5 แสนโดส เพื่อกลุ่มเสี่ยง 607 ชาวต่างชาติ และผู้ที่ต้องได้รับวัคซีนก่อนไปต่างประเทศ เช่นนักเรียน นักศึกษา
– 5,000 โดส เพื่อศึกษาวิจัยและตอบโต้การระบาด
ทั้งนี้การจัดการจะปรับตามสถานการณ์การระบาด
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และวิธีการป้องกันตนเอง สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ddc.moph.go.th หรือโทร. 1422
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ขณะนี้วัคซีนไฟเซอร์ยังอยู่ในขั้นตอนของบริษัทจัดทำระบบตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะเริ่มส่งได้ในวันที่ 5 สิงหาคมนี้ อีกทั้งก็อยู่ในระหว่างการจัดสรรให้ 5 กลุ่มเป้าหมายตามมติที่ประชุม ซึ่งในนั้นไม่มีจังหวัดบุรีรัมย์
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข