กรณีเผยแพร่ข่าวสารโดยระบุว่า ครม. อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชน โดยให้เงินเยียวยาทุกกลุ่ม เดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือนนั้น ทางกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ในปัจจุบันไม่พบมาตรการดังกล่าวตามที่ข่าวอ้างถึง
วันนี้ (15 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการส่งต่อข้อมูลกล่าวถึงเรื่อง ครม. อนุมัติเงินเยียวยาให้ทุกกลุ่ม เดือนละ 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
ในกรณีเผยแพร่ข่าวสารโดยระบุว่า ครม. อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชน โดยให้เงินเยียวยาทุกกลุ่ม เดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน ทางกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลในปัจจุบันไม่พบมาตรการดังกล่าวตามที่ข่าวสารอ้างถึง โดยมาตรการเยียวยาประชาชน มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 มีด้วยกันดังนี้
1. โครงการเราชนะ 32.9 ล้านคน เพิ่มวงเงิน 2,000 บาท (2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท) ใช้จ่ายถึง 30 มิ.ย. 2564
2. โครงการ ม.33 เรารักกัน 9.29 ล้านคน เพิ่มวงเงิน 2,000 บาท (2 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 1,000 บาท) ใช้จ่ายถึง 30 มิ.ย. 2564
3. โครงการคนละครึ่งเฟส 3 จํานวน 31 ล้านคน รัฐสมสบวงเงินให้คนละ 3,000 บาท 2 งวด งวดแรก 1,500 บาท ก.ค.-ก.ย. / งวดสอง 1,500 บาท ต.ค.-ธ.ค. 2564
4. โครงการยิ่งใช้ ยิ่งได้ คาดเข้าร่วม 4 ล้านคน สนับสนุน E-Voucher สูงสุด 7,000 บาท รับ E-Voucher ช่วง ก.ค. – ก.ย. 2564 ใช้จ่ายช่วง ส.ค. – ธ.ค. 2564
5. เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.65 ล้านคน คนละ 200 บาท 6 เดือน ก.ค. – ธ.ค. 2564
6. เพิ่มกําลังซื้อให้ผู้ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ 2.5 ล้านคน โดยเพิ่มวงเงิน 200 บาท 6 เดือน ก.ค. – ธ.ค. 2564
ทั้งนี้ สําหรับมาตรการมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมาตรการเยียวยาประชาชน ซึ่งยังมีมาตรการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น มาตรการภาษี มาตรการสินเชื่อ มาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค ค่าน้ํา ค่า ไฟ ฯลฯ
ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลมาตรการดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.prd.go.th/th หรือโทร. 02-618-2323
บทสรุปของเรื่องนี้ : จากการตรวจสอบข้อมูลในปัจจุบันไม่พบมาตรการดังกล่าวตามที่ข่าวสารอ้างถึง
หน่วยงานที่ตรวจสอบ : กรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี