xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวจริง! สิทธิประโยชน์บัตรทอง ใช้ดูแลสุขภาพฟัน รักษา ป้องกัน ทุกกลุ่มวัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บริการทันตกรรม เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ภายใต้กองทุนบัตรทอง โดยสิทธิประโยชน์จะครอบคลุมประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองตั้งแต่บริการทันตกรรมการขูดหินปูน การอุดฟัน และการถอนฟัน โดยเป็นสิทธิประโยชน์ที่ดูแลตั้งแต่กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 0-5 ปี เด็กโตและวัยรุ่นอายุระหว่าง 6-24 ปี วัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 25-59 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

วันนี้ (26 มี.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สิทธิประโยชน์บัตรทอง ใช้ดูแลสุขภาพฟัน รักษา ป้องกัน ทุกกลุ่มวัย ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

บริการทันตกรรม เป็นอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ กองทุนบัตรทอง ซึ่งตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ผ่านมา ได้พัฒนาสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมบริการทันตกรรมที่จำเป็นทั้งหมด เริ่มจากการรักษาทันตกรรม ดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองตั้งแต่การขูดหินปูน การอุดฟัน และการถอนฟัน โดยเป็นสิทธิประโยชน์ที่ดูแลทุกกลุ่มช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเด็กอายุระหว่าง 0-5 ปี เด็กโตและวัยรุ่นอายุระหว่าง 6-24 ปี วัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 25-59 ปี และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป

โดยกลุ่มเด็กอายุ 0-5 ปี จะได้รับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก และการเคลือบฟลูออไรด์, ทาฟลูออไรด์วานิช ต่อมาในกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่นอายุ 6-24 ปี กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25-59 ปี และกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับบริการตรวจสุขภาพช่องปาก การเคลือบฟลูออไรด์ ทาฟลูออไรด์วานิชความเข้มข้นสูงเฉพาะที่เช่นเดียวกัน มีเพียงบริการการเคลือบหลุมร่องฟันสำหรับฟันกรามถาวรซี่ที่ 6, 7, 4 และ 5 ที่จะเป็นสิทธิประโยชน์เฉพาะกลุ่มเด็กโตและวัยรุ่นเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีบริการทันตกรรมที่เพิ่มเติมให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาไม่มีฟันบดเคี้ยวเนื่องจากเป็นไปตามวัย โดย สปสช. จัดสิทธิประโยชน์บริการฟันเทียม ทั้งกรณีใส่ฟันเทียมทั้งปาก และการใส่ฟันเทียมบางส่วนที่ถอดได้ เพื่อผู้สูงอายุไม่มีฟันได้รับการใส่ฟันเทียม เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิต ช่วยให้มีฟันบดเคี้ยวอาหาร ได้รับโภชนากรที่ดี ส่งผลให้ผู้สูงอายุเหล่านี้มีสุขภาพที่ดีขึ้น

อีกทั้งหญิงตั้งครรภ์เป็นอีกกลุ่มประชากรที่สำคัญต้องได้รับการบริการทันตกรรม เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์จะต้องการสารอาหารจึงหิวและกินอาหารบ่อยขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่น้ำตาลหรือเศษอาหารไปเกาะอยู่ตามซอกฟันได้ง่ายขึ้น ประกอบกับในหญิงตั้งครรภ์บางส่วนมีภาวะแพ้ท้องและอาเจียน ทำให้มีกรดออกมาจากกระเพาะอาหารและเศษอาหารที่รับประทานเข้าไปซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด ออกมาติดอยู่ตามซอกฟัน ทำให้เป็นสาเหตุเกิดฟันผุได้ง่ายเช่นกัน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนยังส่งผลต่อเหงือกด้วย ดังนั้น สปสช. ได้จัดสิทธิประโยชน์บริการทันตกรรมในหญิงตั้งครรภ์ ครอบคลุมทั้งการตรวจสุขภาพช่องปาก ขัดและทำความสะอาดฟันในช่วงฝากครรภ์ 1 หรือ 2 ครั้ง ให้กับหญิงที่อายุครรภ์ไม่เกิน 6 เดือน และหากพบฟันผุก็จะได้รับการดูแลตามชุดสิทธิประโยชน์ทันตกรรมด้วย

และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nhso.go.th หรือโทร. 02 1414000

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น