กรณีข้อมูลชวนเชื่อประเทศไทยติดหนี้สาธารณะจำนวน 78 ล้านล้านบาท ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้ชี้แจงว่า ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 หนี้สาธารณะของไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านล้านบาท โดยประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปี 2564 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60
วันนี้ (29 พ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏถึงเรื่องประเทศไทยติดหนี้สาธารณะจำนวน 78 ล้านล้านบาท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากการเผยแพร่ข้อความถึงประเด็นเรื่อง ปัจจุบันประเทศไทยติดหนี้สาธารณะจำนวนถึง 78 ล้านล้านบาท ทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ปรากฏในข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 หนี้สาธารณะมีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เท่ากับ ร้อยละ 49.34 ประกอบด้วย หนี้รัฐบาล จำนวน 6.73 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ จำนวน 795,980 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ทำธุรกิจในภาคการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 309,472 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 7,821 ล้านบาท ทั้งนี้ หนี้ที่เป็นภาระต่องบประมาณโดยตรง มีจำนวน 6.27 ล้านล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 39.40 ของ GDP สำหรับหนี้ที่ไม่เป็นภาระต่องบประมาณ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐจะเป็นผู้รับภาระการชำระหนี้ โดยมีแหล่งรายได้อื่นที่ไม่ใช่งบประมาณมาชำระหนี้ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงการคลังได้บริหารจัดการหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด โดยประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปี 2564 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลัง ซึ่งกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.pdmo.go.th หรือโทร. 02-265 -8060
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 หนี้สาธารณะมีจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านล้านบาท โดยประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ปี 2564 ยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังซึ่งกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60