ข่าวบิดเบือน! วิธีแจ้งจับผู้ใช้วิทยุสื่อสารเถื่อน ผ่านสำนักงาน กสทช.

กรณีที่มีผู้แจ้งจับข้าราชการตำรวจรายหนึ่ง และแชร์วิธีการแจ้งจับว่าให้ถ่ายภาพบุคคลขณะใช้วิทยุสื่อสารเถื่อน ทางสำนักงาน กสทช. ได้ชี้แจงว่า มีผู้แจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการตำรวจรายหนึ่งจริง แต่วิธีการตามที่แชร์ เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะการพิสูจน์ว่าเป็นวิทยุสื่อสารเถื่อนหรือไม่นั้น ไม่สามารถดูจากภาพหรือภายนอกได้ ต้องนำเครื่องมาตรวจพิสูจน์ที่สำนักงาน กสทช.

วันนี้ (11 พ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข้อความเผยแพร่ในเรื่อง วิธีแจ้งจับผู้ใช้วิทยุสื่อสาร เถื่อน ผ่านสำนักงาน กสทช. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน

จากกรณีที่มีผู้แจ้งจับข้าราชการตำรวจรายหนึ่ง ที่ระบุว่าใช้วิทยุสื่อสารเถื่อน และได้ให้ข้อมูลวิธีการแจ้งจับว่าให้ ถ่ายภาพวิทยุสื่อสารเถื่อนให้ชัดเจนในขณะที่บุคคลคนนั้น ถือ พก ใช้ ซึ่งต้องถ่ายภาพให้ติดใบหน้าคนใช้เครื่องด้วย ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ออกมาชี้แจงเป็น 2 ประเด็น ได้แก่

1. กรณีที่มีผู้แจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการตำรวจรายหนึ่ง โดยกล่าวหาว่า “มีและใช้เครื่องวิทยุโทรคมนาคมโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” นั้น สำนักงาน กสทช. ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเรื่องจริง

2.ประเด็นวิธีการแจ้งจับเครื่องวิทยุคมนาคมตามที่แชร์นั้น เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย สำนักงาน กสทช. มิได้เป็นผู้กำหนดวิธีการแจ้งจับผู้กระทำผิด เนื่องจากเครื่องวิทยุคมนาคมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบุคคลใดมีและใช้จะมีความผิดตามกฎหมายนั้น ไม่สามารถดูจากภาพถ่ายหรือภายนอกเครื่องวิทยุคมนาคมได้ โดยจะต้องนำเครื่องวิทยุคมนาคมมาตรวจพิสูจน์ที่สำนักงาน กสทช. ก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่าเป็นเครื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.nbtc.go.th หรือโทร 1200

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มีผู้แจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการตำรวจรายหนึ่งจริง แต่วิธีการแจ้งจับตามที่แชร์นั้น เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เพราะการพิสูจน์ว่าเป็นวิทยุสื่อสารเถื่อนหรือไม่นั้น ไม่สามารถดูจากภาพถ่ายหรือภายนอกเครื่องวิทยุคมนาคมได้ ต้องนำเครื่องมาตรวจพิสูจน์ที่สำนักงาน กสทช. และสำนักงาน กสทช. มิได้เป็นผู้กำหนดวิธีการแจ้งจับผู้กระทำความผิด