จากกรณีข่าวลือพ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ทำให้ประเทศไทยมีข้อบังคับการสื่อสารใหม่ ทางกสทช. ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง การใช้งานโทรศัพท์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ยังคงทำได้เหมือนเดิม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อกำหนด ไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ใดในการที่จะเข้าไปแอบดู แอบดัก แอบเก็บ เอาข้อมูลการโทร. การส่งข้อความ หรือการโพสต์ ของประชาชนไปโดยไม่ทำตามขั้นตอน ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีอยู่
วันนี้ (20 ส.ค.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ทำให้ประเทศไทยมีข้อบังคับการสื่อสารใหม่ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
จากกรณีที่มีการแชร์ข้อความว่าในประเทศไทย ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปจะมีข้อบังคับการสื่อสารใหม่ บันทึกการโทรทั้งหมด ตรวจสอบโซเชียลมีเดียทั้งหมด อุปกรณ์จะถูกเชื่อมต่อกับระบบกระทรวง ทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง การใช้งานโทรศัพท์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ยังคงทำได้เหมือนเดิม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อกำหนด ไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ใดในการที่จะเข้าไปแอบดู แอบดัก แอบเก็บ เอาข้อมูลการโทร. การส่งข้อความ หรือการโพสต์ ของประชาชนไปโดยไม่ทำตามขั้นตอน และหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีอยู่ก่อนหน้านี้
ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกสทช. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.nbtc.go.th หรือโทร. 02 6708888
บทสรุปของเรื่องนี้คือ : พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อกำหนด ไม่ได้ให้สิทธิ์ผู้ใดในการแอบดู แอบดัก แอบเก็บ เอาข้อมูลการโทร. การส่งข้อความ หรือการโพสต์ ของประชาชนไปโดยไม่ทำตามขั้นตอน และหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่มีอยู่