xs
xsm
sm
md
lg

“บิณฑ์-เอกพันธ์” พร้อมสละชีวิต บอกหากเปิดให้ประชาชนจับปืนช่วยรบ ขออาสาเป็นคนแรก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บิณฑ์-เอกพันธ์” ยอมรับน้ำท่วมหาดใหญ่ท่วมสูง 6 เมตรหนักกว่าทุกครั้งที่เคยเจอ ลั่นไม่กลัวตาย พร้อมสละชีวิตเพื่อประชาชน ประกาศกร้าว หากเปิดให้ประชาชนจับปืนช่วยรบ ขออาสาเป็นคนแรก

เป็นคู่พี่น้องจิตอาสาที่เข้าช่วยเหลือประชาชนมานานเป็นสิบปีแล้ว สำหรับสองพี่น้อง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” และ “เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” ที่ล่าสุดกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่หาดใหญ่ ถึงกับออกปากตั้งแต่ช่วยน้ำท่วมมา ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด ต้องใช้ทั้งประสบการณ์และต้องดูสถานการณ์ให้เป็นในการเข้าช่วยเหลือ แม้ตนจะไม่กลัวตาย แต่ถ้าผิดพลาดก็อาจจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนกันไปด้วย

เอกพันธ์ : “ช่วงที่ผ่านมาก็ไปช่วยน้ำท่วมไล่ไปตั้งแต่สุโขทัย พิษณุโลก ภาคเหนือเสร็จก็มาภาคใต้ต่อ มันเป็นระยะยาวนานมาก”

บิณฑ์ : “น้ำท่วมเสร็จ เราก็มาชายแดนต่อ ตอนนี้ก็เคลียร์เรียบร้อย ทางมูลนิธิร่วมกตัญญูก็มีรถพยาบาลไป 10 กว่าคัน มีโรงครัวให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่อยู่แนวหน้า พอเสร็จวันนี้เราก็รวมตัวกันมา เพื่อจะได้เข้าไปพร้อมกัน แต่สำหรับน้ำท่วมครั้งนี้ ถ้าเป็นคนทำงานใหม่ๆ หรือเป็นอาสาใหม่ๆ ยังไงก็ไม่รอด ประสบการณ์ในสิ่งที่เราเคยมีมา เราเคยเรือล่มมาแล้ว เราจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ทุกครั้งที่ไปช่วยน้ำท่วมมา ครั้งนี้ที่หาดใหญ่หนักที่สุดเลย มันไม่ได้ท่วมแค่ 1-2 เมตร แต่มัน 6 เมตร และน้ำมันมาแรงมาก แต่เราไม่บุ่มบ่าม ไม่ประมาทถือว่าดี ไม่ใช่ว่าเราอวดเก่งอยากจะเข้าไปอย่างเดียว เพราะแม้แต่สกู๊ตเตอร์หรือเจ็ตสกีที่แรงๆ ยังเข้าไม่ได้เลย ชีวิตเดียวก็สำคัญ ถ้าเราเข้าไปได้เราไม่ทิ้งไว้แน่นอน ยังไงเราก็ต้องพยายามเอาออกมา

ถามว่าผมกลัวไหม ไม่กลัว แต่ผมจะประเมินสถานการณ์ว่ามันเป็นยังไง ไหวไม่ไหว แต่เราไม่กลัวตายนะ บางคนบอกว่าไม่เห็นเข้าไปช่วยเลย คือเราอยากช่วยทุกคน แต่ต้องดูสถานการณ์ ถ้าเราเสี่ยงเกินไปแล้วเกิดอะไรขึ้นไม่ใช่ว่าเราตายคนเดียว แต่มันจะพาคนอื่นที่ไปกับเราไปกันหมด แต่ที่เรากล้าเอาชีวิตแลก เพราะเราทำงานมา เรารู้เลยว่าการเสียสละทั้งร่างกายและจิตใจให้พี่น้องประชาชน ถ้าเราเสียสละแล้วเราก็พร้อม ถ้าจะเป็นอะไรก็ไม่เป็นไร แลกก็คือต้องแลก เพราะคำว่าเสียสละเพื่อพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเวลา ร่างกายอะไรทุกอย่าง เรายอม ถ้าเราประเมินแล้วว่าได้ แต่ถ้าประเมินแล้วผิดพลาดก็อีกเรื่องนึง แต่ต้องดูสถานการณ์ว่าจะทำยังไงให้เขารอดปลอดภัยที่สุด หลังจากนี้ก็ยังมีไปครับ น่าจะปลายๆ ม.ค. เรามีเตรียมไว้หมดแล้ว ประมาณ 3 พันกว่าครัวเรือน”

พร้อมให้กำลังใจทหารที่กำลังสู้รบที่ชายแดน
บิณฑ์ : “ทุกวันนี้ผมสวดมนต์นะ จะมีพี่น้องทหารหาญอยู่ในใจผมตลอด ขอให้ทุกคนปลอดภัย อย่าให้เป็นอะไร อย่าให้มีข่าวว่าเสียอีก 2 ราย 3 ราย เรารู้สึกหดหู่ทุกครั้ง ก็ขอพระสยามเทวาธิราชและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายคุ้มครองพี่น้องประชาชนที่อยู่ชายแดน คุ้มครองให้ทหารที่อยู่แนวหน้าทุกท่านปลอดภัย”

เอกพันธ์ : “ถ้าเขาอนุญาตให้ประชาชนจับปืนไปช่วยทหาร ว่าใครอยากจะไปช่วยรบที่ชายแดนก็ได้เลย คุณจะไปไหมครับ”

บิณฑ์ : “ผมไปคนแรกเลยครับ ผมขอสมัครไปคนแรกเลย ผมรู้สึกว่าชีวิตนี้ถ้าเราช่วยเหลือประเทศชาติผมรู้สึกว่าสุดยอดแล้ว พร้อมไปลุยกับทหารเลย แต่การที่เราต้องสูญเสียทุกวันนี้ ผมก็เสียใจกับครอบครัวที่สูญเสียนะครับ เราก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใคร ลูกใครใครก็รัก สามีใครใครก็รักและอีกอย่างไม่อยากให้เด็กที่รอพ่อเขากลับบ้านต้องเป็นกำพร้า มันหดหู่ทุกครั้ง สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้ผมว่ายุทธวิธีการรบของเขาไม่ใช่มืออาชีพ เป็นประเทศที่มั่ว ฉะนั้นเราก็ต้องระวังให้มากตามตะเข็บชายแดน เพราะมันยิงสุ่ม เราก็สงสารพี่น้องประชาชน สงสารคนที่ต้องอพยพออกมา แล้วนี่ก็จะปีใหม่ และเศรษฐกิจตอนนี้มันยังไม่มีอะไรดีขึ้นมา ถ้าจัดการได้วันนี้ก็จัดการให้เรียบร้อยไปเลยครับ เพราะตอนนี้มันยิงมั่วหมดเลย”





กำลังโหลดความคิดเห็น