“ต้าร์อู๋” ไม่ขอตอบโต้อินฟูลฯ เขมรโพสต์แขวนบูลลี่ขยะแขยง ลั่นไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธหรือไปกวนน้ำให้ขุ่น ชี้หากทำเช่นนั้นก็จะไม่ต่างกัน บอกตนไม่ต้องทำอะไร ทุกอย่างก็ได้สนองอีกฝ่ายกลับไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนมีปัญหาชายแดน ไทย-กัมพูชา คราวก่อน ก็มีอินฟูลฯ กัมพูชา ออกมาบูลลี่ “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” และ “โยชิ รินรดา ธุระพันธ์”จนชาวเน็ตไทยเข้าไปถล่มจนโซเชียลปลิวไปแล้วรอบนึง กับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชารอบใหม่ อินฟูลฯ เจ้าเดิมก็กลับมาบูลลี่ดาราไทยอีกแล้ว รอบนี้เป็น “ต้าร์อู๋ พิทยา แซ่ฉั่ว” โดยครั้งนี้อินฟูลฯ คนเดิมบอกว่าเสียดายค่าตั๋วและรู้สึกขยะแขยงต้าร์อู๋ที่ครั้งหนึ่งได้เคยใกล้ชิด ได้ถ่ายรูปร่วมเฟรมบนเวที ทำแฟนคลับต้าร์อู๋เข้าไปถล่มโซเชียลอินฟูลฯ เขมรอย่างรวดเร็ว จนต้องลบโพสต์ทิ้ง กับเรื่องนี้ ต้าร์อู๋ พิทยา เผยว่า….
“ผมว่าสถานการณ์บ้านเมืองเราในตอนนี้มีเหตุข้อพิพาทกันระหว่างเรากับกัมพูชา ในความเป็นจริงมันมีคนที่สูญเสียไม่ว่าจะฝั่งเราหรือฝั่งเขา ก็ไม่ผิดที่ประชาชนแต่ละประเทศจะโกรธ สิ่งสำคัญคือเราได้เห็นว่าเขาโกรธ เขาสูญเสียจริง ฝั่งเราเองก็มีการสูญเสียจริงเหมือนกัน ผมแค่เรียนรู้จากสิ่งที่มันเกิดขึ้น ครั้งนึงเขาเคยเป็นแฟนคลับที่รักเรา วันนี้เขารู้สึกขยะแขยงเรา เราเองส่วนนึงก็เข้าใจด้วยว่ามันเกิดจากการที่เขาได้รับข่าวแบบไหนมา แล้วเขารู้สึกโกรธ
ตัวผมก็คงไม่ไปทำในสิ่งที่เขาทำกับเราแล้วกัน ที่มันเกิดขึ้นอยากให้มองไปที่ความเป็นจริงมากกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชาในเชิงลึก จริงๆ แล้วประชาชนอย่างพวกเราหรือฝั่งกัมพูชาเองก็แค่เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ได้รับผลกระทบ เลยรู้สึกว่าการโกรธของแต่ละคนมันก็เกิดขึ้นได้ ไทยเราเองก็มีคนที่อยู่บริเวณชายแดนที่สูญเสียชีวิตเหมือนกัน รู้สึกโกรธเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละมันไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะมานั่งว่าคนอื่นตัวผมเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เลยไม่อยากจะไปว่าเขา หรือไปตอบโต้กลับ อยากให้เข้าใจมากกว่าว่าจริงๆแล้วมันเกิดอะไรขึ้น”
มองจะไปว่าอีกฝั่งก็ไม่ได้เพราะประเทศเขาก็ได้รับความสูญเสียเช่นกัน
“มันก็กระทบเพราะเขาเคยเป็นแฟนคลับผมแต่ผมจะไปว่าอะไรเขาไหมก็คงไม่ ผมเข้าใจด้วยซ้ำว่าเขาได้รับข้อมูลมาไม่เหมือนกับแบบที่เราได้รับ แล้วก็เข้าใจด้วยว่าเขาเองก็ได้เห็นการสูญเสียทุกๆ วันจากข่าวที่มันอยู่หน้าฟีตเขาว่าทางกัมพูชามีคนสูญเสีย เราเสียใจกับทุกการสูญเสียทั้งฝั่งไทยและกัมพูชา ที่ทำได้ในส่วนของประชาชนคือการทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็วิงวอนให้เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีและรวดเร็วที่สุด”
ไม่มีประโยชน์ที่จะโกรธหรือตอบโต้ เพราะมันจะยิ่งไปกวนน้ำให้ขุ่นขึ้นไปอีก
“ไม่โกรธเลย ผมเป็นคนสาธารณะอยู่แล้ว ผมเจอคำด่า คำบูลลี่ ผมโดนมาเยอะแล้ว ผมเข้าใจและไม่ได้อยากจะไปตอบโต้อะไร มันเหมือนเรายิ่งไปกวนน้ำให้ขุ่นขึ้นไปอีกไปทำให้ข้อผิดพลาดที่แท้จริงมันหายไปกลายเป็นคนมาบูลลี่ใส่กันแทน จริงๆ แล้วปัญหาคืออะไร ต้นตอคืออะไรอยากให้ไปโฟกัสตรงนั้นมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ประชาชนต้องมาทะเลาะกันเอง มันควรเป็นเรื่องที่ต้องกลับไปโฟกัสในจุดแรกว่าจุดเริ่มต้นของมันคืออะไร
ยิ่งถ้าผมไปตอบโต้ ไปบูลลี่กลับด้วยความสนุก มันจะเริ่มเปลี่ยนประเด็นแล้ว คำว่าข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศที่มันเป็นจุดของปัญหาที่แท้จริงมันจะเริ่มหายไป มันจะเริ่มเป็นการบูลลี่กันไปมา ผมรู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ทั้งเราและเขา สุดท้ายยังมีคนที่สูญเสีย ยังมีคนที่ปกป้องสิ่งที่ตัวเองเชื่ออยู่ มันไม่มีประโยชน์ที่ผมจะไปตอบโต้เขา ทำได้คือไม่ทำอะไร เพราะมันเกินขอบเขตของเรา ยิ่งเราไปตอบโต้ ยิ่งเราไปทำให้คนสนุกปาก ยิ่งทำให้คนบูลลี่กันไปมาแล้วมันก็จะไม่จบ
ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าเราไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเหมือนกับกระดาษที่เราก็เห็นแล้วว่ามันตอบสนองเขากลับไปแล้วเรียบร้อย ผมไม่ต้องทำอะไรแล้วด้วยซ้ำ”


