“หนุ่ม ศรราม” คัมแบ็กรอบ 20 ปี ปล่อยเพลงใหม่ เซฟโซน เอาใจยุค 90 พร้อมเปิดใจเคลียร์ทุกดรามาร้อน หลังถูกวิจารณ์หุ่นพังหน้าเปลี่ยน ลั่นกินของเหลือลูก และป่วยโรคไต ไม่ใช่เพราะเมาอย่างที่คนคิด
พระเอกตลอดกาลเจ้าพ่อดรามารายวัน “หนุ่ม ศรราม”ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่ในรอบ 20 ปี กลับมาจับไมค์ร้องเพลงเจาะตลาดยุค90 และวัยเจนX ตั้งชื่อเพลง เซฟโซน ลุยแพลตฟอร์มออนไลน์ งานนี้ยังขอเคลียร์เรื่องร้อนๆ ผ่านรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” ช่องเวิร์คพอยท์หมายเลข23 กับพิธีกรตัวแม่ “พี่หนูแหม่ม สุริวิภา” ที่ช่วงหลังเจอคอมเมนต์วิจารณ์หนักหน่วงเรื่องกินแซบ จนหุ่นพังหน้าเปลี่ยน หมดราศีพระเอกตัวพ่อ
ล่าสุดกลับมาทำเพลงอีกครั้งในรอบ20ปี?
“คือผมอธิบายแบบนี้ดีกว่า คนมองว่าเดี๋ยวนี้ละครไม่มีแล้ว เขาเปลี่ยนแพลตฟอร์มเป็นออนไลน์หมดแล้ว ผมเองมีอาชีพเป็นนักแสดง เป็นนักร้องเป็นพิธีกรอันนี้ก็เป็นความถนัดของผม และก็เป็นวิชาชีพของเรา อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ผมทำเรียกว่าเข้ามาอยู่ออนไลน์เหมือนกัน เพียงแต่ว่าผมไม่ใช่ยูทูบเบอร์ ไม่ใช่อินฟลูเอนเซอร์”
แล้วงานละครยังรับอยู่บ้างมั้ย?
“ตอนนี้ไม่มีละคร ส่วนใหญ่จะเป็นซีรีส์ เป็นซีรีส์วาย ซึ่งไม่มีความสามารถที่แสดงได้จริงๆ (หัวเราะ) มีครั้งนึง น้ำฝน กุลณัฐ เขาโทร.มา เขาเป็นผู้จัด โทร.มาบี้เหมือนมีปัญหา โทร.มาจี้ๆ จนเรารับสายถามว่าฝนมีอะไร คือเขาบอกว่าจะทำซีรีส์วายอยากได้รุ่นใหญ่ เขาถามว่าพี่หนุ่มเล่นได้ไหม ถามผมคนแรก ผมก็บอกฝนว่าผมเล่นไม่ได้เลย พี่ไม่เคยรับบทแบบนี้เลย ถ้าสังเกตตั้งแต่หนังสมัยก่อนยุคไฟว์สตาร์แบบยุคสลับร่าง ชายหญิง ต้องบอกว่าเราเล่นไม่ได้ เราไม่มีจริตแบบนั้น หนุ่มไม่สามารถเล่นได้ ก็เลยบอกว่าถ้าเล่นเป็นพ่อของน้องๆ พอได้ ยังโอเคถนัดกว่า”
การกลับมาทำเพลงในรอบ 20 ปีมันแตกต่าง เปลี่ยนไปยังไง?
“ก็เปลี่ยนนะครับ เมื่อก่อนจะทำงานในห้องอัด ออกมาเป็นแผ่นเสียง ซีดีเพลง จนทุกวันนี้เป็นดิจิทัล อัปขึ้นแพลตฟอร์มต่างๆ ก็มีความตื่นเต้นเพราะช่วงหลังเราจะอยู่กับภาพละคร ภาพภาพยนตร์เยอะ อยู่กับภาพความเป็นนักร้องน้อย โชคดีที่ผมมีโอกาสได้แชร์ว่าอยากได้ภาพแบบนี้นะ เพลงแบบนี้ ฟังได้ทั้งยุค 90 ก็ฟังได้ เจน x ก็ฟังได้ เจน z ก็ฟังได้ ศัพท์ก็ทันสมัย”
ดรามาหนักมากว่าหลังๆ ไม่ดูแลตัวเองมีอะไรอยากบอก?
“เกิดจากว่าที่เราอ้วน อย่างที่อธิบายไปช่วงลูกเรียนอนุบาล 3 จะเข้าป.1 ผมอยู่กับเขาทุกวัน ผมบอกแล้วว่าหน้าที่หลักของผมคือพ่อ ผมกินข้าวกับเขา ลูกกินเหลือ ผมเสียดายของครับ บ้านผมไม่ได้ร่ำรวย ผมก็พอกินพอใช้ ผมก็กินของเหลือของลูก บ้านไหนก็ทำ มันไม่ได้แตกต่าง บ้านไหนก็ทำแบบนี้ ผมเวลาลูกผมอยากกินไอติม ผมก็กินไอติมกับลูก ก็คืออ้วน เวลาออกสื่อมันลดความอ้วนไม่ทัน (หัวเราะ)
และที่บอกว่าผมไม่สบาย เป็นโรคไต ผมเป็นโรคไตจริงครับ ผมเคยเกือบเป็นไตวายเฉียบพลัน มันเกิดจากการเป็นตะคริว วันนั้นไปเตะบอลแล้วเหงื่อออกมาก ฉะนั้นต้องกู้ไตโดยด่วน การกู้ไตคือต้องใส่น้ำเกลือข้างละ 2 สาย รวมเป็น 4 สาย เพื่อให้เกิดระบบขับถ่ายเอาน้ำออกมา ผมไม่ได้เป็นโรคไตที่ต้องไปฟอกไตตลอด หรือว่ากินเค็มแล้วหน้าบวม บ้างคนก็พิมพ์มาว่าเลิกดื่มได้แล้ว ทำไมเมาอยู่ตลอด หน้ามันถึงเป็นแบบนี้
ผมเลยจะบอกว่าคุณอย่าคิดว่าผมมีการกระทำเหมือนคุณสิ คือคนที่เห็นผมแต่เด็กจะรู้ว่าผมเป็นผู้ชายไม่ค่อยสำอาง ผมไม่แต่งตัว ผมเป็นนักบอล อยู่บ้านผมก็ใส่เกงบอล ที่เห็นในโซเชียลเอาไว้ใช้ทำงานก็ได้ เอาไว้โพสต์กู๊ดเมมโมรี่ก็ได้ บ้างทีผมก็เล่นกับลูกเล่นกัน พี่เลี้ยงเขาถ่ายเอาไว้ ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นโมเมนต์ที่น่ารักของพ่อลูก”


