“ดาด้า” เผยตัดสินใจจะแจ้งความ “นานา” ไม่ได้อยากเอาผิด แค่อยากได้เงินคืน เตรียมทำสัญญาผ่อนชำระ ถ้าผิดนัดจะเป็นคดีอาญา รับผิดหวังเสียใจ แต่ไม่ได้แค้น จากนี้พูดอะไรมาต้องเช็ก กลับไปเชื่อใจคงยาก โอดหลังรู้ความจริง ร้องไห้ไป 3 วัน ยิ่งกว่าอกหัก ดีใจด้วยได้ประกันตัว จะได้ให้ออกมาใช้หนี้ ได้โอกาสมาแล้วต้องทำให้ดี ให้ทุกคนเห็นความตั้งใจ เชื่อถ้าไม่โกหกแต่แรก เพื่อนๆ ก็พร้อมช่วย
หลังออกตัวล้อฟรี จนมารู้ความจริงว่าโดนต้มจนเปื่อย ล่าสุดวันนี้ (5 ธ.ค.) “ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล” ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงเรื่องของเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด อย่าง “นานา ไรบีนา” ผ่านรายการโหนกระแส พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังจบรายการ ว่าตอนนี้ตัดสินใจจะแจ้งความบ้างแล้ว และหลังบอกนานาว่าจะมาออกโหนกระแส เจ้าตัวก็ได้มีการขอพื้นที่ในการนำงาน และขอโอกาสชดใช้หนี้ คล้ายกับจะสื่อว่าอย่าพูดหมด
“ที่ตัดสินใจว่าจะแจ้งความ คืออันนี้มันเป็นในเรื่องของกระบวนการทางกฎหมาย พอวันหนึ่งเราได้มีทนาย แล้วได้ปรึกษาทนาย ทนายก็แนะนำว่ายังไงมันเป็นเรื่องของทางกฎหมายปกติ ด้าก็ได้คุยกับทางนานาแล้ว แล้วก็ได้แจ้งกับนานาทราบ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการทำสัญญากัน ว่านานาเป็นหนี้ด้าเท่าไหร่ มีกรอบชำระหนี้ยังไงบ้าง อันนี้อยู่ในรายละเอียดที่กำลังร่างสัญญากันอยู่”
“นานา” ยอมนับในข้อสัญญา ถ้าผิดนัดชำระจะกลายเป็นคดีอาญา
“เขาก็โอเคยอมรับ คือในกรอบของด้า จะเป็นคดีแพ่ง แต่ถ้าวันหนึ่งเขาผิดสัญญาชำระ ก็สามารถเป็นอาญาได้ เป็นเรื่องของทางกฎหมายที่ทนายเขาทำให้ด้า ถามว่าด้าอยากให้เขาชำระเท่าไหร่ อันนี้รายละเอียดต้องดู ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจา เพราะเมื่อกี้นานาเพิ่งโทร.หาด้าก่อนเข้ารายการโหนกระแส เรื่องของกรอบชำระหนี้ ว่าจะไหวที่เดือนเท่าไหร่ กี่ปี เรายังไม่ได้ลงรายละเอียดค่ะ ด้ายังไม่ได้มีตัวเลขในใจ เดี๋ยวหลังจากนี้ถึงจะได้เจรจากันอีกที ว่าเขาไหวที่เท่าไร ชำระคืนในระยะเวลากี่ปีหรือยังไงบ้าง”
ตัดสินใจแจ้งความ ไม่ได้ต้องการเอาผิด แค่อยากได้เงินคืน
“คือด้าปักธงว่าด้าไม่ได้เอาผิดอะไรเขา ด้าอยากได้เงินคืนเท่านั้นเอง แล้วสิ่งที่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับแล้ว ว่าเขาก็โกหกด้าเขาก็ขอโทษ แล้วเมื่อเช้าเขาก็โทร.มาขอโทษครั้งหนึ่ง ซึ่งตรงนี้มันเคลียร์กันแล้วเรียบร้อย ว่าที่ผ่านมายังไม่ได้เคลียร์เรื่องของการชำระหนี้ ว่าจะต้องจ่ายเท่าไหร่ยังไง ซึ่งอันนี้วันนี้จะต้องคุยกับนานาอีกครั้งหนึ่ง”
ยอดเงิน 3 ล้าน ไม่ได้คิดดอกเบี้ย
“3 ล้านบาท ไม่ได้คิดดอกกับนานาเลย เพราะว่าในพาร์ทของด้า มันเป็นการซื้อหุ้นบริษัทของเขา อย่างเราเองเราก็เพิ่งรู้ว่าหุ้นบริษัทนี้ที่เราลงเงินไป มันไม่ได้ไปอยู่ในบริษัท มันเอาไปใช้ในเรื่องส่วนตัวของเขา”
คุยกันแบบตัดเรื่องความโกรธ แค่อยากให้ชำระหนี้
“ก็คุยกันแบบไม่ได้มีอารมณ์โกรธหรืออะไรนะคะ จริงๆ แล้วตัดเรื่องความโกรธอะไรไป เราพยายามให้เขาได้มีที่ยืนในการออกมาทำงานและชำระหนี้เท่านั้นเอง ธงของด้าไม่ได้ต้องการเอาผิดอะไร แค่ให้เขาชำระหนี้เท่านั้นเอง”
เผย “นานา” ยอมรับว่าเครียด
“ล่าสุดวันนี้น้ำเสียงก็ความเครียดเขาก็ยอมรับว่าเขาเครียด แต่ไม่ได้คุยเรื่องส่วนตัวอื่นๆ เลยค่ะ เพราะด้าก็รีบมาที่ช่อง 3 แล้วเมื่อคืนได้มีโอกาสคุยกับทนายฝั่งด้า ว่าด้าจะทำแบบนี้ 1-2-3-4 นานาโอเคไหม”
“นานา” ขอพื้นที่ในการทำงาน และขอโอกาสชดใช้หนี้ หลังบอกว่าจะมาออกรายการ “โหนกระแส”
“เขาบอกว่าให้เขามีพื้นที่ในการทำงาน มีโอกาสได้ทำงาน และชดใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้หลายๆ คนด้วย (เราตีความหมายคำว่ามีพื้นที่นี้ยังไง คืออย่าพูดหมดหรือยังไง?) ก็คงประมาณนั้นแหละ คือเราให้โอกาสเขา เพราะธงของด้าคืออยากได้เงินคืน ถ้าจะไปทำร้ายเขาทั้งหมดเลย มันก็ไม่จำเป็น (แสดงว่าเราก็ยังไม่พูดทั้งหมด ยังเซฟเพื่อน รักเพื่อนอยู่?) (หัวเราะ) ก็ประมาณนั้นค่ะ”
ยอมรับผิดหวังและเสียใจ แต่จะไปแค้น ไปเกลียด ก็ทำอะไรไม่ได้
“แน่นอน มันผิดหวังแหละเพราะว่ารู้จักกันมา 30 ปีเราโตมาด้วยกันผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน แต่วันหนึ่งสิ่งที่เพื่อนพูดกับเรามาเป็นเรื่องโกหก แน่นอนแหละทุกคนเสียใจ แต่เมื่อมันทำไปแล้ว เกิดไปแล้ว เราจะมาตีโพยตีพาย จะไปโกรธ ไปแค้น ไปเกลียด มันก็ทำอะไรไม่ได้ ก็แก้ปัญหาดีกว่า หลังจากนี้เรามูฟออน เพื่อนเอาเงินเราไปใช้แบบผิดวัตถุประสงค์ เราก็ต้องการเงินคืน เขาก็ใช้หนี้เราจบแค่นี้เอง”
ดีใจกับ “นานา” ที่ได้ประกันตัว จะได้ออกมาทำงาน หาเงินใช้หนี้
“ก็ดีใจกับเพื่อนถ้าเกิดได้โอกาสประกันตัวเขาจะได้โอกาสกลับมาทำงานแล้วก็ใช้หนี้ แต่ใจจริงอยากให้เขาได้มีโอกาสได้พื้นที่ในการทำงานและใช้หนี้มากกว่า (มีบางคนที่คัดค้านการประกันตัว เรามองมุมนี้ยังไง?) อันนี้เป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับด้ามองว่าอยากให้เขาได้มีโอกาสออกมาทำงานชดใช้เจ้าหนี้มากกว่า”
กลับไปเชื่อใจอีกครั้งคงยาก พูดอะไรมาคงต้องไปเช็กก่อน ตอบยากยังมีความเป็นเพื่อนอยู่ไหม
“โอ…ยากแล้ว (หัวเราะ) ต่อไปนี้ถ้านานาพูดอะไร อาจจะต้องเช็กอีกทีหนึ่ง ว่ามันเรื่องจริงหรือเรื่องโกหกอันนี้สำหรับด้านะ ส่วนคนมองว่าโดนหลายดอกแล้วตอนนี้ยังมีความเป็นเพื่อนอยู่ไหม มันตอบยาก ตอนนี้มันตอบไม่ได้ ความเป็นเพื่อนยังไงมันก็ยังเป็นเพื่อนแหละ แต่หลังจากนี้มันจะสนิทกันเหมือนเดิมไหม มันยากแล้วแหละ มันยังตอบไม่ได้เต็มปากว่ายังไง แต่มันก็ยาก”
ยอมรับกินหญ้าจริง หลังมีแฮชแท็ก #สงสารดาด้า
“เห็นว่าดาด้ากินหญ้า (หัวเราะ) ก็ยอมรับที่ผ่านมาก็กินหญ้าจริง แต่หลังจากนี้ต่อไปนี้สิ่งที่เขาพูดก็ต้องย้อนถามคนอื่นก่อนว่ามันจริงไหมก็ต้องสืบหน่อย ดอกที่สามไม่มีแล้วพอแล้ว 2 ดอกพอแล้ว”
ตอนรู้ว่า “นานา” โกหก ร้องไห้ไป 3 วัน ยิ่งกว่าอกหัก
“ครั้งแรกนะ ตอนที่รู้ว่านานาโกหก แล้วรู้เรื่องที่เพื่อนเอาเงินเราไปด้วย ก็ร้องไห้ไป 3 วัน ยอมรับ นี่จริงๆ เป็นคนเข้มแข็งมากนะ ร้องไห้ไป 3 วัน จนน้องสาวบอกว่าร้องไห้เยอะกว่าตอนอกหักอีก มันเป็นความเป็นเพื่อนน่ะ พอวันหนึ่งกับการที่สิ่งที่เขาพูดใส่หูเรามาตลอด มันกลายเป็นเรื่องโกหก ไม่ใช่เรื่องจริง ก็ตกใจ”
เข้าใจ “ทนายสายหยุด เพ็งบุญชู” ทำหน้าที่ในฐานะทนายของ “นานา”
“คือจริงๆ ในพาร์ตของข้อกฎหมาย หน้าที่ของทนายสายหยุด เขาก็ทำในฐานะทนายของนานานะคะ แต่ว่าอีกฝั่งหนึ่ง เขาก็มองว่ามันเป็นการลงทุน สำหรับด้าอันนี้ก็อยู่ในการตัดสินของศาลเลย ด้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตรงนี้ แต่พาร์ตด้าจะเป็นอีกพาร์ตหนึ่ง ของการที่เราซื้อหุ้นบริษัทเขา คือด้าว่าในมุมด้าเอง ก็ยอมรับว่าตกใจในส่วนของด้า การที่เราไว้ใจเพื่อนการที่เราซื้อหุ้นบริษัทเขาแล้วผลกลับมาคือ หนึ่ง เอกสารเป็นเอกสารที่ไม่จริง สอง เป็นการซื้อหุ้นทิพย์ ถ้าในพาร์ตเราเราก็รู้สึกตกใจ แล้วก็ไม่เคยรู้เลยว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้จนกระทั่งมีข่าวออกมา จนเราไปเช็กว่าตกลงแล้วมันไม่ใช่เรื่องจริง ด้าว่าผู้เสียหายฝั่งโน้น เขาก็คงรู้สึกเหมือนกันกับด้านี่แหละ”
เชื่อ “นานา” น่าจะพูดความจริงกับ “ทนายสายหยุด” ไม่งั้นคงว่าความให้ไม่ได้
“ในพาร์ทของลูกความและทนายความเขาก็ต้องพูดความจริงทั้งหมดถูกไหมคะ ไม่อย่างนั้นทนายความก็คงว่าความให้เขาไม่ได้ ในมุมของด้านะ อย่างที่ทนายสายหยุดบอก รวมถึงวันที่ด้าได้เข้าไปเคลียร์กับนานา เขาก็ยอมรับว่าเขาทำจริง เขาผิดจริง เขาก็ยอมรับทุกอย่าง ที่เขาโกหกเพื่อนหรือทำอะไรต่อเพื่อนหลายๆ คน เขาก็ยอมรับว่าเขาผิดจริง”
บอกสังคมให้โอกาสแค่ไหน ก็ต้องอยู่ตรงนั้นเพื่อใช้หนี้ให้ได้
“ด้าว่าสังคมให้โอกาสเขาแค่ไหน เขาก็ต้องยืนตรงนั้นแหละ ง่ายๆ ให้โอกาสเขามีที่ยืนแค่ไหน ถึงแม้จะเป็นพื้นที่เล็กๆ เขาก็ต้องยืนและอยู่ตรงนั้นก็ต้องทำงานใช้หนี้”
ยังไม่ได้เจอ ไม่ได้คุยกับ “เวย์ ไทเทเนียม” แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้ว
“ด้าก็ไม่เจอ ด้ายังไม่ได้คุยอะไรกับเวย์เลย พื้นฐานด้าสนิทกับนานา และเวลาสนิทกัน ตลอดเวลาที่รู้จักนานามาหรือเวย์อก็ไม่ค่อยได้คุยกับเวย์เลย ส่วนใหญ่เรานัดเจอกับนานากินข้าวอัปเดตชีวิตอก็จะเจอกับนานา นานๆ จะเจอกับเวย์ทีในการมีงานใหญ่ๆ ถึงได้เจอเวย์เท่านั้นเอง”
เรามองเรื่องนี้ยังไงบ้างจากข้อมูลที่ออกมาทั้งที่ข้าวโพดให้สัมภาษณ์มองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็คือเอาไปเปย์สามี?
“(หัวเราะ) เอ่อ…ก็ตามนั้นเลย จริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าเงินมันไปไหน ทุกวันนี้หลายๆ คนก็ยังเป็นคำถามในรายการ ทุกคนก็ถามว่าเงินไปไหน จากที่ดูรายการโหนกระแส ทนายสายหยุดเขาก็เป็นคนบอกเอง ว่า จริงๆ แล้วเงินมันไม่ได้ไปไหน มันอยู่ในดอกเบี้ยเงินกู้ 80 เปอร์เซ็นต์ ใช้จ่ายส่วนตัว 20 เปอร์เซ็นต์ จากเนื้อหารายการ ซึ่งอันนั้นก็ต้องตามทนายเขาค่ะ”
เท่าที่รู้จักกันมา เพื่อนเป็นคนรักครอบครัวมาก ดูแลครอบครัวอย่างดี
“เขาก็เป็นคนรักครอบครัวมากๆ คือเราสนิทกับนานาเราก็รู้ว่าที่ผ่านมาเขาดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่”
ไม่ได้โทร.หากันเหมือนเดิมแล้ว คุยแค่เรื่องการผ่อนชำระหนี้
“อืม…ตอนนี้ไม่ถึงขนาดนั้น ตอนนี้การคุยกับนานาคือคุยในเรื่องเรื่องของการวางกรอบชำระหนี้ว่าเขาจะชดใช้เราได้กี่เดือนยังไงบ้าง คุยกันแบบนี้ แต่การอัปเดตชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้ว ถอยออกมาก่อน คือถามว่าเป็นเพื่อนไหมเป็นเพื่อน แต่ถ้าจะให้เพื่อนสนิทไหมคงไม่ ถอยออกมาใหม่ดีกว่า”
รู้เพื่อนๆ หลายคนเป็นห่วง แต่ส่วนตัวไม่ได้แค้นฝังหุ่น แค่กลับไปสนิทเหมือนเดิมคงยาก
“ใช่ๆ คือตอนนี้เชื่อไหม ว่ามันไม่ได้มีความโกรธหรือเกลียดนานา ก็ยังยืนยันคำเดิมนะ ความเป็นเพื่อนไอ้เรื่องโกรธเกลียดไม่มี หรือจะแค้นฝังหุ่นเขา เกลียดเขาไปเลย ไม่มี อะไรมันเกิดขึ้นแล้วมันแก้ไขไม่ได้ ในเมื่อเขามาขอโทษและยอมรับว่าสิ่งที่เขาทำมันผิด โกหกเรา เราเคลียร์ เราจบ แต่หลังจากนี้จะให้ไปสนิทเหมือนเดิมมันยาก มันอาจจะยากนิดหนึ่งค่ะ”
ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนอื่น นอกจาก “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ต่างคนต่างเสียใจ
“ไม่ได้คุยค่ะ ไม่ได้คุยเลย มีแค่เจนี่ ที่ตอนด้าเพิ่งรู้ว่าโดนหลอกไป 3 ล้าน ก็ได้มีการส่งข้อความคุยกับเจนี่ เจนี่ก็บอกว่าเสียใจเหมือนกัน คุยกันนิดๆ แค่นั้น เราก็ไม่ได้อัปเดตกันอีกเลย”
ฝากถึง “นานา” มีโอกาสแล้วต้องทำให้ดี แสดงให้ทุกคนเห็น ว่าจะตั้งใจทำงานชดใช้หนี้
“คือก็วันนี้ได้ประกันตัวแล้ว ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่นานาจะได้ยืนในที่ของเขาที่พอจะยืนได้ แล้วก็ทำงานชดใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ทั้งหลาย อันนี้อยากให้เขาหลังจากนี้ไม่โกหกเพื่อนอีก หรือว่ามีปัญหาอะไรทางที่ดี ด้าว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย การโกหกสุดท้ายมันก็เนี่ย บทเรียนมันก็เห็นอยู่ ว่าสุดท้ายไม่มีใครโกหกไปตลอดรอดฝั่งได้ ความจริงมันก็คือความจริง ถ้าเกิดเมื่อก่อนย้อนกลับไปถ้านานามีปัญหาอะไรแล้วเดินเข้ามาบอกเพื่อน ด้าว่าเพื่อนหลายคนยินดีที่จะช่วยเหลือเขา แต่ว่าเขาเลือกที่จะโกหกเพื่อน อันนี้ก็เป็นผลลัพธ์ที่เขาจะต้องได้รับ
ณ ตอนนี้ปัญหาเหล่านี้มันเกิดขึ้น ที่ยืนในสังคมอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาอาจจะมีพื้นที่นิดๆ ในการยืนเขาก็ต้องอยู่ตรงนั้นแหละ แล้วก็ในการทำงาน ก็ตั้งใจและให้เพื่อนได้เห็น ว่าไอ้สิ่งที่เขาทำผิดไปหลังจากนี้ เขาจะมีการชดใช้ให้กับเพื่อนจริงๆ มีความตั้งใจจริงๆ ไม่ผิดสำหรับเพื่อน ด้าว่าหลังจากนี้เขาอาจจะมีโอกาส ที่มีพื้นที่ในการยืนมากขึ้น”


