“ดีเจบอย” รุดให้กำลังใจ “นานา” ที่กองปราบ เผยอีกฝ่ายดูวิตกกังวล และเครียดเรื่องลูก ได้กอดปลอบกัน แต่ไม่ได้อัปเดตเรื่องคดี ตกใจทั้งคู่ตำรวจรวบถึงบ้าน เรื่องประกันตัวยังไม่ได้คุย หวังให้มีเรื่องใจดีกับเพื่อนบ้าง รับเป็นห่วง แต่ต้องตามกระบวนการ มีอะไรก็ให้ยอมรับ ทำผิดก็ด่า ก็เตือน แต่ไม่ทิ้ง
จากรณีที่ตำรวจ ปอศ. ได้บุกรวบ “นานา ไรบีนา” เมื่อเช้านี้ ที่บ้านพักย่านพระโขนง ก่อนยึดทรัพย์สินกุมตัวมาสอบสวนเพิ่ม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ล่าสุดพี่ชายคนสนิทอย่าง “ดีเจบอย ฌาฆฤณ ชุ่มนิ่ม” ก็ได้เดินทางเข้ามาที่กองปราบ เพื่อให้กำลังใจเจ้าตัว หลังมีการโทร.หาตั้งแต่เช้า โดยงานนี้ดีเจบอยได้เปิดใจกับสื่อ เผยว่านานาดูวิตกกังวล และเครียดเรื่องลูก ส่วนเรื่องประกันตัวยังไม่ได้คุย เดี๋ยวจะโทร.ถามทนายอีกที
“เมื่อกี้ก็ขึ้นไปให้กำลังใจครับ เพราะนานาโทร.มาตั้งแต่เช้า ก็ไม่ได้ตั้งตัวเหมือนกัน เราก็จัดรายการอยู่ นางก็บอกว่ามาให้นางเห็นหน้าสักหน่อยก็ยังดี ก็ได้คอยกัน ให้กำลังใจนิดหนึ่งครับ นานาบอกว่าเดี๋ยวคงเป็นไปตามกระบวนการ แล้วเขาก็มีทนายของเขาอยู่ ที่คอยดูในเรื่องต่างๆ ในเรื่องคดีวันนี้ยังไม่ได้อัปเดตอะไรกันครับ นางโทร.มาตอนเช้า แค่ต้องการอยากเห็นหน้า นางก็ดูวิตกกังวล”
เผย “นานา” เครียดเรื่องลูกที่สุด ตกใจโดนรวบถึงบ้าน
“ก็น่าจะเป็นน้องๆ ครับ ก่อนหน้านี้มีคุยกันว่าอะไรก็ตามแต่ สิ่งที่เขาให้ความสำคัญที่สุด ก็คือเรื่องของน้องๆ เมื่อคืนไลฟ์ด้วยกันก็นั่งคุยกัน ว่าสรุปแล้วมันเป็นยังไง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวมาแว่วๆ เหมือนกัน ก็คุยกันว่าสรุปพรุ่งนี้จะเป็นยังไง นางก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร ก็แยกกันตอนตี 2 ได้ แต่เอาจริงๆ เมื่อคืนไม่ได้คิดว่าจะถูกจับ ก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์และตกใจพอสมควรเหมือนกัน รวมทั้งตัวผมด้วย เพราะเมื่อคืนที่คุยกัน ก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของผมนะ”
ทำผิดก็ด่า ไม่ได้เข้าข้าง แต่ไม่ได้ทิ้ง
“ผมก็เคลียร์ชัดเจนไปตั้งแต่วันแรกแล้ว ว่าผมไม่ได้เข้าข้าง ผิดก็ว่า ก็ด่า ก็พูดตักเตือนอยู่แล้ว แต่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ในฐานะพี่ชายของเขา ไม่ได้เข้าข้าง แต่ไม่ได้ทิ้ง สุดท้ายแล้วคนเป็นเพื่อนก็ต้องซัปพอร์ตเขา อย่างน้อยๆ ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดตอนนี้ หลายคนก็เห็นว่าเขาหลังชนฝาแล้ว เขาคงอยากหาใครสักคนหนึ่งที่น่าจะอยู่ข้างๆ เขา ในวันที่เขาแย่ที่สุดในชีวิต”
ยันรู้เรื่องพร้อมทุกคน ไม่เคยถูกยืนเงินหรือชวนลงทุน
“ไม่รู้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย รู้พร้อมๆ ทุกคน พร้อมกับดาด้า (วรินดา ดำรงผล) ก่อนดาด้าไม่เกิน 5 ชั่วโมง เขาไม่เคยมาชวนลงทุนอะไรเลยครับ ยืมเงินก็ไม่เคยเลยสักครั้งครับ กับผมจะปรึกษาเรื่องทั่วไป เรื่องส่วนตัวมากกว่า ผมก็รู้ว่าเขาทำธุรกิจร้านตัดผม รู้เหมือนที่สื่อรู้ทุกอย่างครับ รู้เท่านั้นจริงๆ มากกว่านั้นไม่รู้ครับ”
ไม่ก้าวล่วงเรื่องคดี หลังตำรวจเผยพฤติกรรม “นานา” เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
“โห…อันนี้พูดไม่ได้เลยครับ ไม่ทราบเลย ไม่ทราบจริงๆ เรื่องนี้ ในเรื่องของรูปคดีไม่ได้อัปเดตกันเลย ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการให้กำลังใจกันมากกว่า สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง ขาดเหลืออะไรที่พอจะซัปพอร์ตในเรื่องของจิตใจได้บ้าง แต่เรื่องอื่นที่นอกเหนือจากนั้น เรื่องเงิน เรื่องทอง เรื่องธุรกิจ เรื่องคคี ผมไม่ก้าวล่วง”
อีกฝ่ายไม่เคยมาบ่นเรื่องเงินให้ฟัง
“ไม่มีครับ บอกแล้วว่าไม่เคยคุยกันเรื่องเงิน ไม่ได้ถาม ไม่ได้พูดลงดีเทลเรื่องเงินเลยกับตัวผม แต่กับคนอื่นผมไม่ทราบ แต่หลังเป็นข่าวก็มีถาม เขาก็ตอบเหมือนที่ไลฟ์แถลงไป ว่ามีการเอาไปหมุน เอาไปทำธุรกิจ เอาทำไปโน่นนี่ 1 2 3 4 เอาจริงๆ นะตั้งแต่เป็นข่าวมา ผมก็ไม่กล้าถามอะไรมาก เพราะรู้สึกเหมือนเพื่อนกัน พอพูดอะไรลึกลงไป บางทีมันแทงใจดำ หรือเป็นเรื่องที่เขายังไม่พร้อมจะเปิดเผย ผมก็ไม่อยากละลาบละล้วง กลัวจะมีผลกระทบด้านจิตใจ เลยพยายามเลี่ยงๆ ไปมากกว่า”
ยังไม่ได้คุยเรื่องการประกันตัว
“มันเร็วมาก มันช็อกมากเลย เมื่อกี้ก็อยากรู้เรื่องนี้นะ แต่ยังไม่ได้พูดกัน เจอกันนางก็โปเข้ามากอด ว่าขอบคุณมากที่มาให้ได้เห็นหน้า ในวันที่นางก็ตกใจมากเหมือนกัน เรื่องประกันตัวเราก็อยากรู้เหมือนกัน กำลังจะโทร.หาทนาย แต่ก็โดนให้มาสัมภาษณ์ก่อน”
ยอมรับมีเปรยเรื่องธุรกิจมีปัญหา
“มีเปรยๆ มากกว่า ต้องเคลียร์ก่อนว่าในเรื่องธุรกิจ ผมจะไม่ค่อยยุ่ง ไม่แตะตรงนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องให้กำลังใจกัน ส่วนใหญ่เวลาเขาจะทำธุรกิจอะไร ผมคือช้อยส์สุดท้ายที่เขาจะปรึกษาเรื่องนี้ ปกติเขาก็ใช้เงินปกติ ไม่ถึงขนาดฟุ่มเฟือย เขาไม่ได้ลักชูรีไลฟ์จนน่าตกใจ เจอเขาวันแรกที่อยู่ในวงการด้วยกันมา เขาใช้ชีวิตยังไง ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหวือหวา หรือพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ สำหรับผมก็รู้สึกว่าเขาใช้ชีวิตปกติ”
ส่วนตัวไม่รู้มีคนติดต่อซื้อบ้านหรือยัง
“ตอนประกาศทราบครับ แต่เรื่องคนติดต่อยังไม่ทราบ หรือยังไม่มี ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ไม่ได้คุยกับเพื่อนๆ คนอื่น เพราะไม่มีใครติดต่อมา
“หลังจากที่เกิดเหตุ ไม่มีใครติดต่อผมเลยครับ กับพี่เวย์ ไทเทเนียมก็เจอกัน สวนกันนิดหนึ่ง ผมไม่ชอบอะไรที่อีโมชั่นนอล เลยไม่ถามนานาในเรื่องลึกๆ ต่างๆ ที่เป็นข่าวมากมาย ก็ซัปพอร์ตในเรื่องจิตใจ เจอพี่เวย์ก็กอดกันทีหนึ่ง เขาก็บอกว่า Thank you ก็จบแค่นั้น”
เป็นห่วง “นานา” มาก ลุ้นไม่อยากให้เลวร้ายไปกว่านี้
“ห่วงมากครับ แต่ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการ ผิดถูกอะไรก็ว่ากันไปตามนั้น ต้องยอมรับกันไป ก็หวังว่าคงจะมีอะไรใจดีกับนานาบ้าง ในมุมเล็กๆ ก็ยังดี ในฐานะเพื่อนที่อยู่ข้างๆ เขา (ลุ้นช่วยว่าจะไม่เลวร้ายถึงขั้นต้องไป…?) อะไรก็ตามแต่ที่ออกมา ก็แค่พูดว่ายอมรับครับ เมื่อกี้คุยกับพี่สาวนานา ก็บอกกันว่ายอมรับตามนั้น แต่ก็แอบลุ้นและให้กำลังใจตามสิ่งที่เราทำได้ (มองว่าตำรวจใจร้ายเกินไปไหม?) ไม่ครับ ก็ตามขั้นตอนเลยครับ ว่าไงก็ว่ากันไป ก็ตามนั้น เพราะผมไม่ได้มีความคิดเห็นอะไรในเรื่องนี้ครับ”


