xs
xsm
sm
md
lg

“ชมพู่ อารยา” อินจัด เสพข่าววิกฤตน้ำท่วมจนต้องหยุดพัก ส่งกำลังใจน้ำลดแล้วยังต้องเดินหน้าต่อ แม้ยังรู้สึกหนักอึ้งก็ตาม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชมพู่ อารยา” รับอินมาก เสพข่าววิกฤตน้ำท่วมจนต้องหยุดพักการเสพเพราะใจไม่ไหว ไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากบริจาคเงินซัปพอร์ตทีมที่เสียสละลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัย ส่งกำลังใจน้ำลดแล้วยังต้องสู้กันต่อ ชีวิตต้องไปต่อแม้จะหนักอึ้งก็ตาม ยินดีกับแฟนๆ ที่ได้เสื้อ “แอบิเกล” ตอนนี้ sold out แล้ว กำลังตัดสินใจอยู่จะทำเพิ่มไหม

ได้รับเสียงชื่นชมมากมาย สำหรับ “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”ที่บริจาคเงินช่วยเหลือทุกครั้งที่ประเทศไทยเจอกับภาวะวิกฤต กับวิกฤตล่าสุด ชมพู่ก็เป็นแถวแรกๆ เลยที่ร่วมบริจาคเงิน จำนวน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ผ่านมูลนิธิองค์กรทำดี ของ “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” เพื่อสนับสนุนการทำงานของอาสาและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และ ผู้ที่ประสบเหตุการณ์ในครั้งนี้

นอกจากนี้ ด้านสามีอย่าง “น็อต วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์”ได้มอบโคมไฟโซล่าเซลล์ จำนวน 50 โคม และ โคมไฟฉุกเฉิน จำนวน 50 โคม ให้กับทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องภาคใต้ชาวหาดใหญ่ ในนาม บริษัท เรเซอร์การไฟฟ้า ( ประเทศไทย ) จำกัด

วันนี้ (2 ธ.ค.68) ชมพู่ มาร่วมงาน เปิด Shima Park แลนด์มาร์กสุดคาวาอี้แห่งใหม่จากญี่ปุ่น ณ SHIMA Park ก็ได้เปิดใจถึงวิกฤตครั้งนี้ว่าตนในฐานะเป็นผู้เสพข่าวยังรู้สึกหนักอึ้งมากๆ

“ชมก็เหมือนทุกคนแหละ เรานอนเสพข่าวก็ไม่รู้ว่าจะช่วยยังไงได้ เราทำอะไรไม่ได้จริงๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง ก็ติดตามอยู่ประมาณนึงแล้วชมเชื่อว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน คือดูจนถึงจุดที่เรารู้สึกว่าต้องพักเสพ เพราะมันหดหู่เหมือนกันนะยิ่งมีวันที่สถานการณ์พีกๆ มันก็เป็นเรื่องของภัยธรรมชาติ ธรรมชาติก็ยิ่งใหญ่ที่สุด

ตอนที่โอนเงินให้แม่บุ๋ม ก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะ ถามตรงๆ ว่าขาดเหลืออะไร เพราะเรารับฟังข่าวหลายช่องทางเลยอยากจะให้ความช่วยเหลือของเรามันไปแก้ปัญหาได้ตรงจุด เราทำบุญ เราก็อยากรู้เหมือนเวลาทำบุญกับวัด ว่าวัดจะเอาเงินไปสร้างศาลา สร้างโบสถ์ ทำหลังคาหรืออะไรแบบนั้น เราเลยถามแกว่าถ้ามีอะไรที่ขาดเหลือ สำหรับอาสา ก็น่าจะเป็นเรื่องน้ำมัน เรื่องพาหนะ ส่วนช่วงฟื้นฟูก็เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที

จริงๆ คนไทยช่วยเหลือกันเยอะ เราก็ติดตามอยู่ตลอดว่าความช่วยเหลือมันไปถึงตรงไหน แต่วันที่มันพีกๆ เลย ที่เราทุกคนน่าจะรู้สึกร่วมกันมากที่สุดน่าจะเป็นวันที่รู้ว่ามีคนติดอยู่ข้างใน คนรอที่จะออกมา ตอนนั้นมันมีหลายภาคส่วน ทั้งทีมทำถุงยังชีพ อาหาร ความช่วยเหลือต่างๆ ก็หลั่งไหลเข้ามา แต่ความรู้สึกเรา ณ ตอนนั้นชมอยากเป็นส่วนหนึ่งได้เอาคนออกมา คือมันกระทบกับใจเราที่สุดแล้ว มันเกิดความรู้สึกร่วมเหมือนเราดูหนัง แต่นี่มันคือชีวิตจริง (ดูแล้วน้ำตาร่วงเลย?) ดูแล้วมันต้องหยุดดู ต้องพักต้องวางโทรศัพท์ บางทีเราไม่ได้ตั้งใจจะเสพข่าว มันก็ขึ้นมาให้เห็นตลอด”

ไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากบริจาคเงินซัปพอร์ตทีมที่เสียสละลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัย
“ชมว่า เราทำอย่างอื่นไม่ได้ ยังคุยกับพี่บุ๋มเลยว่า พี่บุ๋มบอกไม่ต้องลงพื้นที่ ก็บอกไม่ได้กะจะลงอยู่แล้วพี่ เรารู้ว่าเรามีภาระ มีพันธะของเรา เราก็เลยอยากจะซัปพอร์ตคนที่เสียสละ อย่างพี่บุ๋มเองเขาก็มีครอบครัวเหมือนกัน เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในการซัปพอร์ตเขา ก็บอกว่าไม่ลงแต่ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้เลย ส่วนที่คุณน็อตช่วยเรื่องหลอดไฟ ก็มีคนติดต่อเข้ามาแจ้งความจำนงมา เราก็ทำไป หลังน้ำลงเราก็ซัปพอร์ตอยู่แล้ว คุณย่าจะรู้จักคนเยอะ ก็เป็นสะพานบุญบอกกันไป

ส่งกำลังใจให้สู้กันต่อไปในภาวะน้ำลด ชีวิตยังต้องไปต่อแม้ความจริงจะหนักอึ้งก็ตาม
“หลังจากนี้ก็คงเป็นเรื่องของการฟื้นฟูและเยียวยา ช่วงที่พีกที่สุดได้ผ่านไปแล้ว เราก็ยังเห็นใจทุกคนที่ได้รับผลกระทบ ก็ยังต้องไปต่อนะ มันก็มีความสูญเสียแหละ แต่เราก็ต้องโอเคกับชีวิตที่เหลืออยู่ มันต้องไปต่อ มันก็หนักหนาพอสมควร

ชมให้กำลังใจไม่เก่งเลย เอาเป็นว่าเราในฐานะที่เป็นคนนั่งเสพข่าวอยู่ยังรู้สึกหนักอึ้งเลย แม้ว่าเราจะรู้ว่าเราไม่มีวันเข้าใจเขาได้ 100% เราไม่เข้าใจหรอกถ้าเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นจริงๆ เอาเป็นว่าเราอยู่ตรงนี้ เรายังรู้สึกมันหนัก มันหน่วงในใจ เพราะฉะนั้นก็เข้าใจได้ถึงความรู้สึกของคนที่สูญเสีย คนที่เผชิญอยู่ตรงนั้นจริงๆ ว่ายิ่งกว่าเราไม่รู้กี่เท่า ก็เป็นกำลังใจให้ค่ะ ประเทศไทยเราเจอวิกฤตหลายครั้ง เวลาไม่มีอะไรเราก็มีตีกันบ้างอะไรบ้าง พอเกิดเหตุการณ์ใหญ่ๆ แบบนี้ มันก็จะเห็นน้ำใจพลังของคนไทยให้เห็นกันเสมอ”

ยินดีกับแฟนๆ ที่ได้เสื้อ “แอบิเกล” ไป แจงขายแพงเพราะต้นทุนมาแพงจริงๆ กำลังคิดอยู่จะทำเพิ่มไหมหลังขายหมดเกลี้ยง
“เป็นไอเดียของคุณพ่อ ชมไม่ได้เข้าไปยุ่งมาก เขาทำกับร้านกาแฟที่ยิมคุณพ่อ ก็ไม่รู้แกนึกครึ้มอะไรของแกถึงทำ อาจจะเป็นเพราะว่าชอบใส่เสื้อวง (วงดนตรี) กัน แม่ชอบใส่เสื้อวง แล้วก็เก็บเสื้อวง ส่วนพ่อชอบขโมยเสื้อแม่ไปใส่ ก็มีความชอบแต่ไม่ค่อยซื้อ ใจไม่ถึง แม่ใจถึงกว่าก็เลยทำ

ก็ขอบคุณที่มาต่อแถวซื้อกัน ยินดีกับคนที่ได้ไปทั้งทางออนไลน์และมาต่อแถว ไม่กล้าคิดอะไรมากเลยไม่ได้ทำเยอะ พอเข้าใจว่ามีราคาเหมือนกัน แกก็อธิบายว่าทุนมาแพงจริงๆ แล้วก็ทำยาก ต้องสกรีนทีละตัว นอกจากเสื้อที่มี 4 ลาย ก็จะมีกล่อง มีสติ๊กเกอร์ พวงกุญแจ ก็ sold out แล้ว ส่วนจะทำเพิ่มหรือเปล่าต้องรอติดตามทางช่องทางเขา แกกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะทำเพิ่มดีไหม รูปก็เป็นรูปที่พวกเราถ่ายกันเอง ก็กลัวจะมีปัญหาทีหลัง เป็นรูปลูกเรานะ แต่ไม่กล้าใช้รูปที่คนอื่นถ่าย ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าอาจจะมีลายสายฟ้า-พายุ บางคนก็อยากได้ เสื้อแม่ไม่มีค่ะ”















กำลังโหลดความคิดเห็น