อาชีพคนบันเทิงถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างนึง เพราะถ้าเทียบในหลักกฎหมายแล้วนั้น ธนาคารไม่ปล่อยกู้นะ เพราะไม่มีที่หลักปักฐานมั่นคง หรือเรียกง่ายๆ ว่าไม่มีสเตทเมนต์มายันหรือมาค้ำประกัน แต่ในทางกลับกันอาชีพนี้ก็สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างความสุขให้กับผู้คน โดยแลกมาจากความสามารถ หน้าตา รวมไปถึงเสน่ห์ของแต่ละบุคคล แต่ท้ายที่สุดทุกคนทุกอาชีพ ทำงานแล้วก็ต้องได้เงินเป็นสัจธรรมที่ทุกคนทราบ แต่ล่าสุดคนบันเทิงต่างทยอยมาโพสต์ตาม “ค่าจ้าง” ที่ตัวเองควรได้ เพราะงานที่ทำก็สำเร็จเสร็จสิ้นไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ก็เป็นคู่จิ้น “ฟรีน-เบค” ที่ด้าน “เบคกี้ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง” ได้เผยในงานแฟนคอนของตัวเองที่ผ่านมาว่า อดีตต้นสังกัดได้ติดเงินตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นจำนวนกว่า 20 ล้านบาท และนี่ก็คือหนึ่งสาเหตุที่ตัดสินใจยุติสัญญา ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับ “ฟรีน สโรชา”ก็ได้ร่อนจดหมายแจงว่าอดีตตันสังกัดเดิมก็ติดเงินตนเองเกือบ 10 ล้านเช่นกัน
ถัดมา “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” ก็ได้โพสต์ทวงเงิน แม้จะไม่ได้แท็กหรือหมายถึงใคร โดยประโยคทวงเงินนั้นคือ “ไม่ได้อยากทวงเงินออกสื่อเลยครับ แต่คงจำเป็นแล้วมั้ง รีบๆ ติดต่อกลับมานะครับ ผมรออยู่รอมานานแล้ว ขอบคุณครับ” ส่วนอีกหนึ่งข้อความ “พี่ครับ รบกวนมาตอบรับทราบ ในแชต Line หน่อยนะครับ เพื่อเป็นหลักฐานว่าพี่จะทำตามข้อตกลงที่ได้คุยกันไว้ ให้ผมรออีกแล้ว ทำไมต้องให้มาตามกันในนี่ด้วย ไม่เข้าใจเลย จริงๆ เจ้าหนี้ที่ feel like ลูกหนี้”
ด้าน “แม่ก้อย ทริกา ธิดาทิตย์”ผู้จัดและนักแสดงรุ่นใหญ่ ก็หมดความอดทน ก็ได้โพสต์ถึง “ผู้จัด” ซีรีส์คนนึงที่ค้างค่าตัวมานาน ทั้งๆ ที่ซีรีส์ก็ได้ปิดกล้อง และออนแอร์ไปแล้ว
“ก้อยได้รับงานแสดงซีรีส์เรื่องหนึ่ง และถ่ายทำตามคิวที่วางไว้ รวมไปถึงซีรีส์เรื่องดังกล่าวมีการออกอากาศแล้ว แต่ได้รับค่าตัวในการแสดง ยังไม่ครบตามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้ทั้งหมด
ซึ่งในระยะเวลาที่ผ่านมา... ก้อยได้ให้เวลาในการแบ่งชำระ แต่ทางผู้จัดท่านนี้ได้มีการเลื่อนชำระหลายต่อหลายครั้ง รวมไปถึงมีการชำระเช็คที่ไม่สามารถขึ้นเงินได้
รวมไปถึงกำหนดระเวลาชำระยอดทั้งหมด
ซึ่งบัดนี้ได้ล่วงเลยมาเป็นระยะ 5-6 เดือนแล้ว
ก้อยขอให้ท่านทำการชำระภายในกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ เพราะในขนาดนี้ ทางฝ่ายบัญชี และฝ่ายกฎหมาย กำลังรวบรวมเอกสารบทสนทนา เพื่อดำเนินคดีต่อไป”
โดยชาวเน็ตได้ชี้เป้าว่าให้ไปวิกิพีเดียก็จะรู้ว่าเรื่องอะไร
ส่วน “มาญ่า ฌนิศชา พิมล์ทอง” นักแสดงช่อง 3 ก็เพิ่งโพสต์ทวงค่าตัว พร้อมอธิบายรายละเอียดว่าค้าง 50,000 แต่ได้คือเพียงบางส่วนแค่ 500 บาท
“มาญ่ามีเรื่องหนึ่งอยากมาอัปเดตให้ทุกคนทราบอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความชัดเจนและโปร่งใสที่สุดนะคะ ญ่าได้แสดงซีรีส์เรื่องหนึ่งซึ่งถ่ายทำจนเสร็จและซีรีส์ได้ออกอากาศไปเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ มาญ่า ยังไม่ได้รับค่าตัวครบตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ (มีปัญหาเรื่องนี้มาได้ 5-6 เดือนแล้วค่ะ
ได้มีการพบเจอกันเพื่อพูดคุยเรื่องการแบ่งชำระเป็น 3 งวดเริ่มตั้งแต่เดือน 10 สิงหา - 30 กันยา
* งวดที่ 1 — ได้รับครบแล้ว
* งวดที่ 2-50,000 บาท (ครบกำหนด 10 กันยายน 2568) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ญ่าได้รับเพียง 500 บาท)
งวดที่ 3 — ครบกำหนด 30 กันยายน 2568 ยังไม่ได้รับเลยค่ะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาญ่าพยายามให้โอกาส ส่งข้อความ ติดตาม และรอการชำระตามที่ตกลงกันด้วย ความสุภาพมาตลอด แต่การชำระถูกเลื่อนมาหลายครั้ง และไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาเลยค่ะ
การได้รับงวดที่ 2 มาเพียง 500 บาท ทั้งที่ยอดที่ตกลงไว้คือ 50,000 บาท ทำให้มาญ่าจำเป็นต้องออกมาแจ้งความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ เพราะตอนนี้ยอดค้างชำระยังมีอยู่จำนวนมาก และเลยกำหนดมาหลายเดือนแล้ว
ญ่าขอให้คู่สัญญาดำเนินการชำระยอดคงค้างทั้งหมด ภายในเวลาที่ได้แจ้งไว้ เนื่องจากขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายกำลังรวบรวมเอกสารตามสัญญา เพื่อเตรียมดำเนินการในขั้นตอนถัดไป หากยังไม่มีความคืบหน้า
มาญ่าอยากย้ำว่า ที่ออกมาโพสต์เพราะต้องการความโปร่งใส และเพื่อรักษาสิทธิของตัวเองในฐานะผู้ทำงานธรรมดาคนหนึ่งค่ะ ไม่ได้ต้องการให้เกิดปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ เลยจริงๆ หวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็ว ที่สุดนะคะ”
ปิดท้ายด้วยผู้กำกับชื่อดัง “อ๊อด บัณฑิต ทองดี”ก็ได้โพสต์ว่า ทำงานมา 32 ปี ก็เพิ่งโดนเบี้ยวเหมือนกัน วอนผู้จัดให้จ่าย พร้อมแนะถ้ายังไม่พร้อม ก็ไม่ควรมาลงทุนในธุรกิจนี้
“ใกล้สิ้นปีเจอเรื่องราวคนวงการบันเทิงโดนเบี้ยวค่าตัวกันหลายคนทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลังโดนกัน ทั่วหน้าทั้งพระเอกชื่อดัง ดาราผู้จัดรุ่นใหญ่ ดารา วัยรุ่นลูกสาวเพื่อน อินฟลูฯ ชื่อดัง
แม้แต่ตัวผมเองที่ทำงานมา 32 ปีก็ยังไม่พ้นวังวน อุบาทว์นี้ อยากบอกบริษัทนิสัยแย่เหล่านั้นว่า ถ้าไม่พร้อมก็อย่ามาลงทุนธุรกิจนี้เลยว่ะ อย่าจับเสือมือเปล่า กำไรจะเอาคนเดียวแต่ขาดทุนที่มงาน ต้องซวยไปด้วยกัน มันแย่มากๆ ของแบบนี้มันถึงกันหมดระวังหมดที่ยืนนะพวกเธอ”


