xs
xsm
sm
md
lg

“พุฒิพงษ์ นาคทอง” ผู้กำกับ 4 king นับ 1 ใหม่กับหนัง “มือปืน” วอนเปิดใจ ขอจบจักรวาลคนเกเรไว้แค่นี้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พุฒิพงษ์ นาคทอง” นับ1 ใหม่ในอาชีพผู้กำกับอีกครั้งกับภาพยนตร์ มือปืน ฝ่าทุกกระแส วอนเปิดใจกันไปชม แม้เรื่องนี้อาจจะลึกหน่อย แต่ตนได้นำทุกคำวิจารณ์มาพัฒนาในเรื่องนี้ทั้งหมด พร้อมบทสรุปสังคมนี้ใครกันที่ร้ายกว่ามือปืน

เรียกว่าเจอบทพิสูจน์ใหม่ที่ท้าทายชีวิตการเป็นผู้กำกับอีกครั้งสำหรับ “พุฒิพงษ์ นาคทอง” ผู้กำกับภาพยนตร์มือทอง 100 ล้าน ทั้ง 4 king และวัยหนุ่ม ปั้นนักแสดงให้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตกมาแล้วก็หลายคน กับผลงานล่าสุด “มือปืน” ที่เรียกว่าเป็นความท้าทายใหม่ๆ ในชีวิตที่แม้จะประสบความสำเร็จมาแล้วมามายแต่เรื่องนี้เรียกว่าเป็นงานหินที่ พุฒิพงษ์ ต้องนับ 1 ใหม่ ทั้งการย้ายค่ายมาร่วมงานกับ M STUDIO เป็นครั้งแรก การถูกปิดกั้นการมองเห็นในโซเชียล สภาพเศรษฐกิจวงการหนังไทยซบเซา และหนังฉายชนกับหนังดัง ทำเอาเจ้าตัวเครียดและกดดัน แต่ก็ขอสู้ไม่ถอย นำมือปืนสู่สายตาคอหนังคนไทยแม้จะเข้าฉายในช่วงเป็นมวยรองก็ตาม

“เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากมือปืนเมืองเพชรเรื่องนี้ก็จะเล่าชีวิตความเป็นมนุษย์ของอาชีพมือปืน เรื่องราวมันก็ต่อจากจักรวาลของเรา คือ เริ่มจากเด็กผู้ชายเกเร เด็กช่าง เกเรก็ติดคุก ยังไม่ทันจะออกจากคุกก็จะมีคนมาจีบให้ไปทำงานด้วยกัน เป็นวัฎจักรวนลูปของสายงานวงการนี้ มันคือวัฎจักรของวงการนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องมาเป็นมือปืนกันทุกคนนะ หลายคนก็เลือกเส้นทางเดินใหม่

อาชีพมือปืนเป็นอาชีพลึกลับ แต่มันก็มันไม่ใช่อาชีพแบบที่ใครๆ คิด เขาก็มีชีวิตเหมือนเราๆ เพียงแต่เขารับจ้าง งานของเขาถ้าไม่มีคนจ้างให้เขาไปทำอะไร หรือบุคคลเหล่านั้นไม่ได้พัวพันอยู่ในวัฎจักรนี้ ดำรงความรัก โลภ โกรธ หลง และยึดมั่นในกฎหมายก็จะไม่มีอาชีพนี้เกิดขึ้นมาเลย จริงๆ แล้วอาชีพมือปืนก็ไม่จำเป็นจะต้องติดคุกมาก่อนเสมอไป

หนังของผมในเรื่องมือปืนจะเป็นหนังที่พาคนดูเดินทางไปกับมือปืนตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้ายของเขา ให้เห็นว่าเขาได้เจอกับอะไรบ้าง แผลในใจของเขา บุญคุณสิ่งที่เขาต้องตอบแทน ครอบครัวต้องเป็นยังไงบ้าง ในเรื่องจะมีการตั้งคำถามด้วยว่าสุดท้ายแล้วใครร้ายกว่ามือปืน ส่วนใหญ่ก็คนที่เราเห็นว่าดีๆ นี่แหละที่ร้ายกว่า มือปืนเขาก็เป็นคนไม่ดีจริงๆ แหละ เขาทำผิดกฎหมาย แต่คนที่คนอื่นมองว่าเขาเป็นคนดี ดำรงในยศตำแหน่งที่สูง มีหน้ามีตาที่มองเข้ามาแล้วเขาคือคนดี แต่เขากลับไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด”

ขอจบจักรวาลคนเกเรที่เรื่อง “มือปืน” จากนี้ขอไปแนวอื่นแล้ว
“มันเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ในทีแรกผมมองว่าหนังไทยเราขาดรสชาติแบบนี้ไปเยอะ 3 เรื่องที่ทำมามันก็ประสบความสำเร็จด้วย มันเลยขยายต่อให้เราทำไปได้อีก จากเด็กเกเร ติดคุก โตมาเป็นผู้ใหญ่ ที่อยู่ในโลกอีกด้านนึง ซึ่งจบจากมือปืนผมก็พอแล้ว มือปืนก็คือดาร์กสุดแล้ว ผมจะไม่ทำอะไรที่ดาร์กไปกว่านี้อีกแล้ว ขอเว้นไปเลยอีกหลายๆ ปี รอให้สังคมเปิดกว้างพอที่จะเล่าเรื่องที่มันลีกกว่านี้ได้อย่างเช่น เรื่องการเมือง ผมก็พร้อมที่จะเล่า”

บังเอิญฉายหนังชนกระแสสังคมทุกเรื่อง แต่เรื่อง “มือปืน” อาจจะลึกหน่อย
“ตอนวัยหนุ่ม ในช่วงที่เราฉายมันก็เป็นจังหวะสังคมที่มีเรื่องราวคนดังติดคุกพอดี มันก็เป็นผลดี ตอนช่วง 4 king ก็เจอกระแสสังคมตอนนั้นพอดี มือปืน ถ้าคนไม่ดูหนังก็อาจจะยังไม่รู้ ซึ่งมันก็คือเรื่องสองบิ๊ก เรื่องสีแหละ มันก็บังเอิญชนจริงๆ ไม่ได้ตั้งแต่ให้ชนกับกระแสสังคม ก็ไม่อยากให้ไปโยงมาก กลัวเหมือนกันครับ มันก็ยังไม่มีผลกระทบมาถึงผมขนาดนั้น มีแต่อยากให้ผมทำหนังเล่าชีวิตตำรวจ อะไรทำนองนั้น ผมก็บอกพี่ๆไปว่าผมถนัดเล่าเรื่องหัวใจโจรมากกว่า

คนชอบถามว่าทำไมผมถึงเข้าเรื่องกลุ่มคนพวกนี้ ผมอยากเล่าในอีกด้านนึงบ้าง คนรู้ว่าด้านมืดมี แมลงสาบ มีสิ่งสกปรก แต่เราได้รู้ได้เห็นไว้บ้างก็ดี จะได้ไม่ต้องเลือกผ่านหรือไปเฉียดมัน ต้องทำยังไงไม่ให้เราไปพลาดเหมือนเขา อยากให้คนได้เห็นและฉุกคิด อย่าไปเดินตามแบบเขาเลย”

ดีใจสังคมเปิดกว้างให้โอกาสคนที่เคยทำผิดพลาดมากขึ้น แต่มันก็เป็นเหรียญสองด้านเช่นกัน ชี้ทุกวันนี้คนใช้คีย์บอร์ดฆ่ากันในโลกโซเชียลแทนปืน
“ผมมองว่าเดี๋ยวนี้คนให้โอกาสกันมากขึ้น ไม่ค่อยได้ซ้ำเติมกันมากแบบก่อนๆ แต่อีกมุมคนคิดได้ก็มีเยอะ คนที่คิดไม่ได้ก็มีเยอะด้วยเหมือนกัน มันก็เกิดจากคนที่ได้รับโอกาสแล้วกลับทำลายโอกาสตัวเอง ทำให้คนมองกลับมาว่าคนพวกนี้ไม่ดี แล้วอาจจะเกิดจากพวกที่เขายังหลงทางด้วย ออกมาแล้วยังจับจุดไม่ถูกว่าจะต้องไปยังไงต่อ แต่สุดท้ายแล้วการให้โอกาสกันก็ยังจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เขาอยากทำดี แต่สังคมบีบมากๆ สุดท้ายเขาก็กลับสู่วัฎจักรเดิม

ในมุมมองผมที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือการตัดสินคนด้วยคีย์บอร์ด ชุดตรรกะความคิดของคนกลุ่มนึง สมัยก่อนมือปืนฆ่าคนด้วยปืน แต่สมัยนี้มือปืนฆ่าคนได้ด้วยคีย์บอร์ดมีเยอะกว่ามาก ทุกวันนี้ไม่ต้องถือปืนมายืนกันก็ได้ แค่ใช้ตัวหนังสือ คำพูดเป็นกระสุนยิงใครคนนั้น”

กดดันตัวเอง น้อมรับทุกคำวิจารณ์มาพัฒนางานตนเอง
“กดดันมากครับเรื่องนี้ กลัวคนดูจะไม่ชอบ จะทำให้เขาผิดหวังกับผลงานชิ้นนี้ อยากให้เขาสนุกมีความสุขกับหนังของผม อะไรที่เขาวิจารณ์แล้วผมปรับได้ผมก็ปรับ อย่างเรื่องมือปืนจะเดินเรื่องเร็วขึ้น หรือเรื่องใช้นักแสดงวนลูบ อันนี้ก็อยากจะชี้แจงว่าหลายๆผู้กำกับก็ใช้นักแสดงซ้ำๆเดิม

ที่ผ่านมาก็มีนักแสดงหลายคนมาขอบคุณที่ยื่นบทให้กับเขา ทำให้เขาเกิด มันก็ไม่ได้เป็นความตั้งใจอะไร คือคนที่จะมาเล่นบทของผมเขาต้องทุ่มเทจริงๆ ผมจึงมักเล่นมวยรอง อะไรที่คนเขาบอกว่าคนนี้ไม่ขาย คนนั้นไม่ขาย คนนั้นหมดไปแล้ว ผมก็มักจะเลือกเล่น เพราะมันไม่กดดัน สบายๆ ไม่ใช่เบอร์ใหญ่ที่เป็นพรีเซนเตอร์เต็มทุก 4แยก มันก็ทำงานง่าย แต่ตอนนี้มันกลายเป็นมากดดันที่ตัวผมเอง ยอดจะถึงไหม ปีนี้ก็ยอมรับว่าวงการหนังยากอยู่เหมือนกัน ผมก็มองว่าเอาตัวงานให้ดีที่สุด ที่เหลือก็ให้คนดูตัดสิน”

หนังในจักรวาลพุฒิพงษ์ที่ผ่านมาแม้จะประสบความสำเร็จในประเทศ แต่สำหรับต่างประเทศอาจจะยัง
“หนังของผมประสบความสำเร็จในประเทศก็จริงแต่พอออกไปนอกประเทศไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรครับ เขาบอกว่าต่างชาติไม่เก็ตความเด็กช่าง ความคนคุกของบ้านเรา ในมุมมองผมจริงๆ แล้วความแก๊งสเตอร์มีทั่วโลกนะครับ แต่อาจจะอยู่ที่การสื่อสารของคนที่เอาไปนำเสนอมากกว่าว่าเขาเอาไปขายคนจุดไหน ยกตัวอย่าง เขาเอาแฮมเบอร์เกอร์ไปขายคนกินลาบ ก็ไม่เก็ตอยู่ดี ก็อยู่ที่เขาไปนำเสนอกับใคร กลุ่มไหน เขาเคยคงยังมองไม่เห็นเรา

ผมอยากไปงานต่างประเทศกับนักแสดงของผมจะตาย พอมันไม่ได้ไปผมก็ไม่ค่อยอยากจะไปหวังนัก อย่างมือปืนเองผมพยายามทำให้แมสที่สุดแล้วเท่าที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์กันมา ก็อยากให้คนไทยดูกันเยอะๆ คือผมเคยผ่านการคาดหวังการไปต่างประเทศมาแล้วตั้งแต่ 4 king มันก็ผิดหวัง เลยไม่อยากจะไปโฟกัสมากเอาที่ไทยเป็นหลักครับ”

ทำหนัง “มือปืน” เหมือนชีวิตการทำงานต้องนับ 1 ใหม่อีกครั้ง แม้จะผ่านความสำเร็จมาแล้ว
“ปกติผมจะทำการตลาดในโซเชียล แต่รอบนี้ก็เป็นความท้าทายใหม่ๆ เพราะคำว่ามือปืนมันเป็นคำต้องห้ามในโซเชียล พวกถึงโซเชียลที่เคยใช้ทำการตลาดก็อยู่กับค่ายเก่า มันก็เป็นอีกโจทย์ยากที่กลุ่มลูกค้าเก่าๆ ก็หายไปเหมือนผมต้องมาเริ่มต้นนับ 1 ใหม่ทั้งหมด ก็บอกตรงๆ ว่าเบลอครับ แต่ก็สู้เต็มที่ ก็เสียดายครับแต่ถ้าผมผ่านตรงนี้มาได้ ผมก็จะมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น แข็งแรงขึ้น

การนับ 1 จากที่เคยเริ่มจาก 0 กับจากที่เคยมี 10 แล้วต้องมาเริ่มนับ 1 ใหม่ มันยากนะครับทางความรู้สึก แต่ผมโชคดีที่ค่าย M STUDIO เขาช่วย เขาเข้าใจและดูแลผมดีมากๆ ทำให้กำลังใจดี หันไปก็มีพี่ๆ ส่งกำลังใจให้ กุมมือไปด้วยกัน ผมก็มีกำลังใจแล้ว ผมเลยรู้สึกว่าไม่เป็นไรถ้ามือปืนจะโดนเฟซบุ็กปิดกั้นก็ไม่เป็นไร เราก็คงต้องหาวิธีใหม่ๆ เรียนรู้ในวิธีใหม่ๆ ตอนแรกผมก็มั่นใจว่าคนคงจะตามผมมา แต่ความเป็นจริงในชั่วโมงนี้มันยากมากเลยครับ ยังไงก็ฝากภาพยนตร์เรื่อง มือปืน ด้วยนะครับ ชมกันที่โรงภาพยนตร์ได้แล้ววันนี้ อยากให้เข้าไปดูกันเยอะๆ สำหรับคนที่ลังเลจะดูดีไหม ดูเถอะครับ นานๆ จะมีหนังแนวนี้มาทีนึง”















กำลังโหลดความคิดเห็น