กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เปิดตัวภาพยนตร์ เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” ซึ่งเป็นการบูรณาการอุตสาหกรรมอาหาร เข้ากับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เพื่อถ่ายทอดอัตลักษณ์ ความงดงาม และเรื่องราวของอาหารไทยผ่านพลังสร้างสรรค์ในรูปแบบสื่อร่วมสมัย โดยเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนทุกครอบครัว ให้สามารถนำทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่มาต่อยอดเป็นอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งขยายโอกาสไปสู่การพัฒนาในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มอบหมายให้ นางสาวพลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดตัวภาพยนตร์ เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” โดย นางสาวพลอยลภัสร์ กล่าวว่า อุตสาหกรรมอาหารถือเป็นหนึ่งในสาขาอุตสาหกรรมที่สำคัญของคนไทย และเป็นอุตสาหกรรมที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์ที่ทรงพลังที่สุดเพราะอาหารเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ที่โดดเด่นถ่ายทอดออกมาในรูปแบบเมนูอาหารและ
การจัดวางที่สะท้อนถึงเสน่ห์ของความเป็นไทย กระทรวงอุตสาหกรรม จึงเล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารให้เติบโตและต่อยอด ผ่านการพัฒนาทักษะ ยกระดับมาตรฐานอาหารไทย ควบคู่ไปกับการใช้วัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ พร้อมถ่ายทอดผ่านเรื่องราวการดำรงชีวิตของคนไทยซึ่งนับว่าเป็นส่วนสำคัญ ในการเผยแพร่เอกลักษณ์ของอาหารและความเป็นไทย ไปสู่ระดับสากล ผ่านการถ่ายทอดเรื่องราวโดยใช้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เข้ามาเป็นกลไกขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างทักษะที่สำคัญเพื่อนำมาต่อยอดให้เกิดอาชีพสามารถสร้างรายได้ให้พื้นที่ทำให้เกิดความแข็งแรงของชุมชน
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงการเล่าเรื่องอาหารไทยผ่านภาพยนตร์ จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ ทำให้ผู้ชมทั่วโลกมีความรู้สึกกับอาหารไทยได้มากกว่าการโปรโมททั่วไป ผู้ชมอยากลอง อยากค้นหา หรืออยากตามรอย จนนำไปสู่การใช้จ่ายจริง ธุรกิจอย่างร้านอาหาร วัตถุดิบไทย สินค้าอาหาร และคอนเทนต์ต่อยอดต่างๆ ก็สามารถใช้กระแสจากภาพยนตร์ไปขยายตลาดได้ทันที นอกจากนี้ ยังทำให้อาหารไทย มีพื้นที่ในตลาดใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งด้านภาพลักษณ์ของประเทศและโอกาสทางเศรษฐกิจในระยะยาว
นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มีการสร้างและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารไทย ผ่าน 3 กลไกสำคัญ คือ การสร้างสรรค์
และต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การโน้มน้าวเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและการยอมรับ และการเผยแพร่เรื่องราวต่าง ๆ สู่สาธารณะในวงกว้าง ปัจจุบันดีพร้อมได้ดำเนินการพัฒนาเชฟ ซึ่งเปรียบเสมือนทูตวัฒนธรรมในการถ่ายทอดเสน่ห์ของอาหารไทย ผ่านเมนูที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเทคนิคการทำอาหาร เพื่อสร้างสรรค์เมนูใหม่ที่หลอมรวม วัฒนธรรมอันหลากหลายให้เป็นหนึ่งเดียว อีกทั้งยังสร้างและพัฒนาร้านอาหาร ซึ่งเป็นเวทีแห่งการพบปะ และสื่อสารผ่านอาหารแต่ละจานที่ปรุงขึ้นอย่างพิถีพิถัน เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ไทยในทุกมิติ ตั้งแต่รสชาติที่คุ้นเคย ความสวยงามของการจัดวางไปจนถึงเรื่องราวและวัฒนธรรมที่ซ่อนอยู่ในทุกเมนู ตลอดจนการพัฒนาเมนูและผลิตภัณฑ์อาหารไทยและเครื่องดื่ม จากรากฐานท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล โน้มน้าวให้เกิดการนำองค์ความรู้ต่างๆมาต่อยอดให้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มแบบร่วมสมัย และนำมาเผยแพร่เรื่องราว อัตลักษณ์ วัฒนธรรมและเสน่ห์ของความเป็นไทย ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ ให้ออกไปสู่สายตาผู้บริโภคในระดับสากล
นางสาวณัฏฐิญา กล่าวต่อว่า ภาพยนตร์เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” ถูกสร้างขึ้นจากแรงบันดาลใจที่อยากจะนำเสนอ "สำรับไทย" ซึ่งเป็นมากกว่าอาหาร แต่เป็นสัญลักษณ์ของความผูกพัน การส่งต่อ และการปรับตัวของวัฒนธรรม และการคงอยู่ของอัตลักษณ์ไทย ผ่านมุมมองที่สนุกสนาน น่าตื่นเต้น และเชื่อมโยงรากเหง้าทางวัฒนธรรมเข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน โดยใช้การถ่ายทอดเรื่องราวของอาหารไทยผ่านมิติของเรื่องเล่า ความทรงจำ และคุณค่าทางวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังของเมนูอาหาร ซึ่งล้วนเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่ควรค่าแก่การส่งต่อให้แก่คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และภาคภูมิใจ เพื่อร่วมกันสร้าง Thailand as Brand ให้เติบโตไปสู่ระดับสากลอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง “สำรับสลับศตวรรษ My Century” ได้แล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิท ระหว่างวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2568 และสามารถติดตามผ่านช่องทางดิจิทัลหรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ YouTube Facebook TikTok รวมทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอื่นๆ ซึ่งคาดว่าสามารถสร้างให้เกิดการรับรู้ผ่านการรับชมไม่น้อยกว่า 300,000 ครั้งและสร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้ชมไม่น้อยกว่า 500 ครั้ง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยในระดับประเทศ และทำให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงคุณค่าของอาหารไทยและสามารถส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลได้


