“วู้ดดี้” โล่งใจกระแสดรามานมวัวซาลงแล้ว แต่เฮิร์ตถูกมองทำคอนเทนต์หิวแสง เผยทำงาน 20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ คนดึงดรามาในอดีตมาทับถม เรียนรู้แล้วจากนี้มีเรื่องไม่สบายใจเคลียร์เลยทันที
เป็นดรามาใหญ่ลามทุ่งกับพิธีกรชื่อดัง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” จากรายการ Woody Avengers ตอน “อาหารที่คิดว่าดี อาจกำลังทำร้ายร่างกาย” ที่ในช่วงสั้นๆ พูดถึงประเด็นเรื่องนม จนกลายเป็นดรามาในสังคมที่รายการถูกมองว่าเป็นการด้อยค่านมวัวไทย แม้วู้ดดี้จะออกมาชี้แจง โพสต์คลิปเต็มแล้ว แต่ดูเหมือนจะยิ่งดรามาหนัก ถูกมองรายการไม่มีความรับผิดชอบต่อคอนเทนต์ที่ทำ ที่งาน Life Expo 2025 วู้ดดี้ ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า…
“ก็รู้สึกโล่งใจ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราก็ตัดสินใจที่จะออกมาชี้แจงและออกมาขอโทษกับเหตุการณ์ เพราะในชีวิตนี้มันก็จะมีหลายครั้งที่มีบางเรื่องทำไมมันเกิดขึ้น แต่พอมานั่งทบทวนเราก็ต้องยอมรับก่อนว่ามันเกิดความผิดพลาดในการกลั่นกรอง และสองคือเจตนาแรกที่ไม่ได้เกี่ยวกับนมเลยใดๆ มันเป็นรายการเกี่ยวกับการกิน การกินของบุคคล 3 คน เอาประสบการณ์การใช้ชีวิตของเขามาถ่ายทอด ซึ่งรายการนั้นเราก็งดออกอากาศไปแล้ว
ซึ่งประเด็นสั้นๆ 2 นาทีเกี่ยวกับเรื่องของนม เกี่ยวกับมุมมองของแต่ละคน กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งจากเรื่องแรกที่มันเป็นเรื่องของแค่อาหารและประวัติของการใช้ชีวิตของคน 3 คน ไม่ได้เป็นรายการเกี่ยวกับนมเลย มันตีออกมาเป็นก้อนเล็กที่เป็นนม แล้วกลายเป็นบริบทนมเป็นอีกเรื่องราวของมันไปเรื่อยเรื่อยในแต่ละวัน
จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น เราก็เรียนรู้ก่อนว่า ต่อจากนี้ไปไม่ว่าเราจะคุยแบบไหนก็ตาม หรืออะไรก็ตามที่มันจะพาดพิงหรือส่งผลกระทบ เราก็ต้องมาตั้งคำถามก่อนว่า ในการสนทนาในวันนั้น เชื่อว่าหลายๆ คนที่คุยกันโดยเฉพาะแขกที่มาร่วมรายการ เขาก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปทำร้ายใคร คือการพูดคุยมันไม่ได้เป็นทางการ แต่ว่ารายการมันออกไปสู่สาธารณะ”
ทำงาน 20 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ คนดึงดรามาในอดีตมาทับถม เรียนรู้จากนี้มีเรื่องไม่สบายใจเคลียร์เลยทันที
“สังเกตว่าวู้ดดี้ทำรายการมา 20 ปีในวงการ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่เราซ้อมมาแล้ว เราเชื่อว่าในชีวิตนี้กับดรามาที่เกิดขึ้นเกือบ 10 ปี มันต้องมีการเรียนรู้ พอเกิดเรื่องทุกคนก็จะดึงเรื่องอดีตมาหมด โคเรียคิง โน่นนี่นั่นก็ขุดมาเรื่อยๆ เราก็มานั่งย้อนดูว่า ในวันนั้นที่มันเกิดขึ้นเราอาจจะไม่ได้ชี้แจงอย่างรวดเร็ว เราก็ได้เรียนรู้ว่าถ้ามันมีดรามาในชีวิต เราก็ต้องออกมาเคลียร์ให้จบ เพราะว่าเราไม่อยากให้มันค้างคา
ครั้งนี้มันเกิดขึ้นปุ๊บ ก็เหมือนเราซ้อมหนีไฟมา เราก็ต้องตั้งเป้าก่อนว่าเราพลาดตรงไหน เราก็ต้องชี้แจง เราก็ต้องมีการขอโทษ ออกแถลงให้เรียบร้อย แล้วก็เอาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของนมโดยเฉพาะ ที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำรายการนม มาเป็นคอนเทนท์พิเศษขึ้นมา แล้วให้คนได้มาเคลียร์ว่าตกลงแล้วมันคืออะไร
พอผ่านกระบวนการนี้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องชี้แจงต่อไปว่า จากเดิมเป็นรายการซึ่งไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีการจ้างให้มาพูดอะไรทั้งสิ้น ก็เลยกลายเป็นประเด็นว่าถูกจ้างมาพูด ผมยอมรับเลยว่าวันที่เกิดดรามา ผมไม่เสพสื่อเลย เพราะเรารู้ว่าจิตใจของคนเราแต่ละช่วง ถ้าเราต้องเสพเราต้องอ่าน ผมเป็นคนที่ชอบอ่านชอบดู แล้วเรารู้เล่นโซเชียลอยู่แล้วมันจะอินมาก ผมก็พักอีกประมาณ 1 วันแล้วกลับมาดูอีกรอบนึง โอเคตอนนี้คนก็เริ่มเข้าใจในส่วนนึงแล้ว”
ใช้เวลาทบทวนตัวเอง 1 วัน ตอนนี้มูฟออนจากดรามา เดินหน้าต่อ ส่งต่อคนทำคอนเทนต์ต้องมีการพิจารณาอย่างแท้จริง
“ข้อความที่ส่งมาเป็น 1,000 ให้กำลังใจและเข้าใจ ก็ต้องขอบคุณทุกๆ คนมากๆ กำลังใจของทุกคนส่งมาถึงวู้ดดี้แล้ว ทำให้เรามีกำลังใจการจัดงานไลฟ์เอ็กซ์โปและก็ทำรายการต่อไป และใช้ชีวิต หลังจากนั้นเราก็ถามนะว่าทำยังไงต่อ เราก็คือต้องมูฟออนกับชีวิตไปต่อ
แล้วก็ส่งต่อให้หลายๆ คนว่าต่อจากนี้ไป การทำคอนเทนต์เราก็ต้องมีการพิจารณาอย่างแท้จริงและยิ่งไปกว่านั้นเลยก็คือ ถ้ามีโอกาสเราก็อยากให้ทุกคนรับทราบว่า ทั้งหมดคือการเรียนรู้ของเราในวันนี้ แล้วเราก็ต้องมูฟออนต่อไป ผมให้ตัวเอง 1 วันเต็มในการคุยกับทีม บทเรียนของเรา วิธีการปรับในการถ่ายทำ แม้กระทั่งการกลั่นกรองด้วย สองการใช้ชีวิตต่อไป เราก็ต้องชี้แจง แล้วก็เราก็ต้องแถลง
แล้วก็ต้องให้เวลา อันนี้สำคัญที่สุดเลย เรื่องราวทั้งหมดมันยังตกตะกอนอยู่เลยตอนนี้ ความรู้สึกผมไม่ได้รู้สึกดีครับที่จะทำให้ใครรู้สึกเสียใจ ผมไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในมวลนั้นแล้ว ตั้งแต่ชีวิตเราได้ทำรายการมา เราก็ออกจากมวลของดรามามาโดยตลอดแล้ว เมื่อเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเพราะตัวเราและคอนเทนต์ของเรา เราก็ต้องตื่นขึ้นมาแล้วบอกว่า โอเคเราต้องไปต่อในชีวิต
วันนี้ก็จะบอกว่าเราก็ไปต่อกับชีวิตแล้ว และขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ ขออภัยและขอโทษทุกท่านอีกครั้งนึงที่อาจจะทำให้รู้สึกเฮิร์ตหรือเสียใจไปครับ 3 คนที่มาเรายืนยันว่าไม่มีการไทอินผลิตภัณฑ์ ขอยืนยันตรงนี้นะครับว่ารายการนี้ไม่ได้เกี่ยวกับนมตั้งแต่แรก แต่เสียดายตรงที่ว่าผมปิดรายการไป คือไม่อยากให้มันมีคนต้องทุกข์อีกต่อไปกับเหตุการณ์นั้น”
ยันรายการไม่มีสปอนเซอร์ และไม่ได้ตั้งใจทำเรื่องนมควรจะต้องตัดด้วยซ้ำไป
“อยากจะชี้แจงกันตรงนี้ว่าไม่มีการจ่ายเงิน ไม่มีการสปอนเซอร์ รายการนี้ชื่อว่ารายการวู้ดดี้อเวนเจอร์ เพิ่งเปิดมาเป็นตอนที่ 3 และรายการนี้ไม่ได้เป็นรายการถกเถียง เป็นรายการที่เอาแต่ละมุมมองของชีวิตมาใช้เกี่ยวกับธรรมะ เกี่ยวกับการใช้ชีวิต แต่บังเอิญว่าเทปนั้นเกี่ยวกับเรื่องของอาหาร ไม่ได้ตั้งใจทำเกี่ยวกับนมเลย มันเป็นภาคผนวกที่เราควรจะต้องตัดด้วยซ้ำไป แต่เราไม่ได้ทำ ผมว่านั่นคือปมของเรื่องราวนี้ทั้งหมด”
รู้สึกพลาดที่ปิดคลิปทิ้งไป
“เราคิดว่าเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วกลายเป็นประเด็น การที่เราปิดรายการใหญ่ คนก็จะตีความว่า ถ้าคนเสพข่าวแค่ในฟีดก็จะคิดแล้วว่านี่คือรายการเกี่ยวกับนม คงจะต้องมีเรื่องของนม และสิ่งที่พูดไปมันเป็นบริบทที่พิสูจน์แล้วว่านมไม่โอเค ทั้งๆ ที่หลายวันต่อมาเราต้องมานั่งทำคอนเทนต์เพิ่มเติม เราก็เห็นว่ามันมีมาตรฐานอยู่ทั่วโลก แต่คุณสามารถเลือกได้
ข้อดีของเหตุการณ์นี้คือ คนจะดูฉลาก คนจะศึกษาจากเดิมที่หยิบนมเข้าปาก ตอนนี้ก็คือนมมันมาจากไหนอะไรยังไง ผมว่ามันชวนคิด เพราะว่าระหว่างเหตุการณ์นี้คนเข้ามาถามบอกผมก็ขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ฉันเข้าใจมากขึ้นว่าฉันต้องตระหนัก ขอบคุณเหตุการณ์นี้ที่ทำให้ฉันต้องตั้งคำถามว่าฉันต้องเอาอะไรเข้าปาก ไม่ใช่แค่เรื่องของนม แต่ในเวลาเดียวกัน คนที่เป็นสื่อก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์นี้ เพราะว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ในวงการนี้มานานขนาดไหนก็ต้องมีวันนั้นที่คุณจะผิดและพลาด
และผมพลาดไปอีกที่ลบคลิปออก ตอนนั้นมันร้อนมากต้องยอมรับ แล้วทุกคนรอบข้างบอกเลยว่าไม่ไหวแล้ว มันโดนถล่มหนักมาก ถ้าเกิดยังปล่อยคลิปไป ผมก็ยอมรับว่าผมก็สงสารคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และการมีคอนเทนต์อยู่ตรงนั้น ผมคิดว่าเราก็ต้องรับผิดชอบ ผมคิดว่าผมรับผิดชอบกับแขกรับเชิญของผม ไม่อยากให้ใครโดนถล่มไปมากกว่านี้ก็เลยพอร์ชไว้ก่อน
อันนี้แค่เรื่องเดียวนะ แต่อย่าลืมว่าเทปนั้นมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวกับชีวิตเขา ซึ่งมันอาจจะส่งผลกระทบต่อมวลใดๆ มันก็จะมีเรื่องของน้ำอัดลม ควรกินหรือไม่ควรกิน มันไปอีก 10 หัวข้อด้วยกัน อยู่ในเทปนั้นหมด แล้วมันเป็นเรื่องส่วนตัวของชีวิตเขา ประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคน คือขนาดเชฟทักษ์ (นุติ หุตะสิงห) เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านโภชนาการ แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์จริงๆ เรื่องราวทั้งหมดที่มันเกิดขึ้น ผมว่ามันมีเหตุผล และทุกคนก็ได้เรียนรู้แล้วก็มูฟออน”
ยังไม่ใช่ดรามาใหญ่สุดในชีวิต
“เรียกว่าเป็นดรามาหนักสุดในชีวิตไหมก็ไม่ แต่บางทีก็ถามตัวเองว่า…หรือเปล่า เพราะว่าเจอใครเขาก็ถามว่าโอเคไหม เรื่องราวผ่านหรือยัง คือ 3 วันที่ผ่านมา ไม่มีคนไหนที่มาหาผมแล้วไม่กอด แล้วก็บอกว่ารับทราบเรื่องนี้ หรือแม้กระทั่งเพื่อนจากต่างประเทศก็โทร.มา
และผมว่ามันกระทบและส่งผลเกี่ยวข้องกับหลายๆ คน เพราะว่านมเราดื่มนมอยู่แล้ว และสองคืออุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งการบริโภคมันเป็นเรื่องที่ทุกคนตอนนี้ตื่นตัวและให้ความสนใจ และเวลาที่มันมีวู้ดดี้เข้าไปเกี่ยวข้อง มันก็จะไปในกระบวนการของมัน ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในดรามาที่ใหญ่ แต่ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในชีวิต”
แต่เฮิร์ตถูกมองทำคอนเทนต์หิวแสง
“คอนเทนต์หิวแสงเรารู้สึกเฮิร์ตครับ เวลาที่หลายคนบอกว่าเป็นคอนเทนต์หิวแสง ซึ่งผมไม่ได้มีเจตนาตรงนั้น แต่เราทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าเมื่อคนตัดสินใจที่จะพูดแล้ว และนี่คือบทเรียนของผมในวันนี้ กับการที่อยู่ในสื่อ อยู่ในแสง ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ในแสง บางทีมันจะร้อน บางทีมันจะไหม้คุณก็ต้องยังยืนอยู่ตรงนี้ แต่คุณก็จะได้เรียนรู้และปรับปรุงตัวเองในแต่ละวัน ยังไงมากกว่าที่จะอยู่ตรงนี้ได้เรื่อยๅ
ผมมีแต่พลังบวกที่จะมอบให้ แต่บางพลังที่มันออกไป มันอาจจะดูเป็นหิวแสง ผมก็ต้องยอมรับให้ได้ถ้าคนจะคิดแบบนั้น ผมมาฟังคอมเมนต์แล้วผมรู้สึกว่า เอ๊ะ… เราหิวแสงจริงหรือเปล่า หนึ่งก็คือเราทำงานในแสง มันจำเป็นต้องหิว เวลาที่มันจำเป็นต้องนำเสนอ เพราะว่าถ้าเกิดคุณทำคอนเทนต์แล้วไม่อยู่ในแสง มันก็ไม่สามารถไปต่อ แต่ถ้าทำคอนเทนต์แล้วทำให้คนรู้สึกไม่ดีในแสง ผมว่าอันนั้นไม่ใช่ผมแน่นอน
แล้วคุณต้องแยกแยะให้ถูกก่อนว่า การอยู่ในสื่อ ทำคอนเทนต์ออกไป แต่เจตนาของคอนเทนต์นั้นไม่ได้ต้องการให้คนมาดรามาใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือเจตนาของวู้ดดี้ อยากจะบอกความในใจ”


