xs
xsm
sm
md
lg

“ไปฮ่องกงกินอะไรดี?” แวะชิมคาว ต้องกินหวาน จากสตรีทฟู้ด ยันเมนูสุดว้าวระดับภัตตาคาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



HongKong สวรรค์ของคนชอบมู และชิม ช้อปจบในที่เดียวกัน ซึ่งหลายคนที่เคยได้ไปเกาะแห่งนี้ ถ้าไม่ไปมู ก็ต้องไปช้อป แต่ล่าสุด การท่องเที่ยวฮ่องกง ได้เปิดลายแทง เมนูใหม่ๆ ในตำนาน ที่มาพร้อมเรื่องเล่า ไม่ว่าจะเป็นของหวานจากสตรีทฟู้ด สู่อาหารสุดคลาสสิก ระดับภัตตาคาร เรียกได้ว่าเป็นอะไรใหม่ๆ สำหรับการมาเยือนเกาะนี้ ซึ่งปลายปีนี้ ถ้ายังคิดไม่ออกว่า “ถ้าไปฮ่องกงจะไปกินอะไรดี” วันนี้มีร้านเด็ด เมนูดังในตำนานมาแนะนำ


Ho Wah Restaurant : ชาชางเตง ชานมสไตล์ฮ่องกง

ใครจะไปคิดล่ะ! จากร้านรถเข็นริมถนน จะกลายเป็นชาหนึ่งในวัฒนธรรมของฮ่อง กับร้าน  Ho Wah เป็นหนึ่งในร้านสไตล์ชาชางเตง (Cha Chaan Teng) หรือร้านอาหารเช้าแบบฮ่องกงที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง เปิดให้บริการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1952 ในอดีตเคยเป็นเพียงรถเข็น ที่เร่ขายไปตามถนน Mallory Street ก่อนจะได้ย้ายเข้ามาเปิดเป็นร้านถาวรในตัวอาคาร จากนโยบายการจัดระเบียบเมืองของรัฐบาล และได้ขยายร้านออกมาอีกหนึ่งห้อง ปัจจุบันดำเนินการโดยทายาทรุ่นที่สามคือคุณ Bill Ho ร้านแห่งนี้เสิร์ฟชานมสไตล์ฮ่องกง กาแฟ ทานคู่กับอาหารง่ายๆ เช่น เฟรนช์โทสต์ และ ขนมปังลูกเกดสอดไส้ ‘คายา’ (สังขยาแบบฮ่องกง) และเนยสด

[ชาชางเตง (Cha Chaan Teng) หากแปลตรงตัวคือ ร้านน้ำชา หรือคาเฟ่สไตล์ฮ่องกงซึ่งหลายๆ คนคุ้นเคยจากฉากในภาพยนตร์ฮ่องกง ร้าน ชาชางเตง มักเสิร์ฟเครื่องดื่มและอาหารฟิวชันกวางตุ้งผสมตะวันตก เป็นเมนูที่ทั้งให้พลังงานสูงและมีราคาเข้าถึงง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนทำงานที่ต้องเร่งรีบในฮ่องกง อย่าง ชานมสไตล์ฮ่องกง,ชามะนาว,เฟรนช์โทสต์สไตล์ฮ่องกง,ซุปมักกะโรนี,ขนมปังสับปะรด (โบ๋โหลวบัน), ทาร์ตไข่

ชานมของฮ่องกง ใช้ผงชาแทนใบชาเนื่องจากมีราคาถูกกว่า โดยแต่ละร้านจะมีสูตรลับในการผสมผงชาที่แตกต่างกันไป จากนั้นจึงนำชาไปต้ม และชักชาไปมาเพื่อให้ชาสัมผัสกับอากาศ และให้อากาศช่วยขจัดรสขม ซึ่งเคล็ดลับในชักชานี้คือต้องทำให้ผงชาในถุงมีความร้อนอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้าที่ดีแล้ว ก็นำไปชงกับนม โดยชาฮ่องกงจะใช้นมข้นจืด ซึ่งจะให้รสชาติที่กลมกล่อม เข้มกำลังดี ไม่หวานจัด 

ที่อยู่ Shop A, G/F, Comix Home Base, 1-11 Mallory Street, Wan Chai 
Map https://share.google/OgOx37qf6Cm0IAb7Q 


Bakehouse Wan Chai Bakery & Cafe : “ขนมปังซาวโดว์” หนึ่งในความภาคภูมิใจของวงการเบเกอรี่ฮ่องกง

ถัดมาร้านเบเกอรี่ Bakehouse Wan Chai Bakery & Cafe ตั้งอยู่ในย่าน Wan Chai ต้นตำรับเริ่มจากเชฟ Grégoire เติบโตในสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับการฝึกฝนด้านการอบขนมตั้งแต่อายุ 15 ปี เคยทำงานในโรงแรมและร้านอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่ง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับเปลี่ยนและยกระดับวงการเบเกอรี่ของฮ่องกง เชฟ Grégoire ได้เริ่มธุรกิจเบเกอรี่ขายส่ง ซึ่งเชี่ยวชาญการขายส่งขนมปังซาวโดว์แบบทำมือและขนมอบคุณภาพสูงในปี 2013 และอีก 5 ปีหลังจากนั้นก็ได้เปิด Bakehouse ร้านแรกของตัวเองในย่านหว่านไจ๋ ซึ่งเป็นสาขาแรกที่ลูกค้าสามารถนั่งรับประทานในร้านได้ และมีเมนูของคาวแบบมื้อ Brunch ให้บริการ 

ที่อยู่: G/F, 14 Tai Wong Street East, Wanchai, Hong Kong
Map: https://maps.app.goo.gl/YasgyPrdBHZUkcwh9


CulinArt 1862 : ยึดคอนเซ็ปท์วัตถุดิบจากฟาร์มตัวเอง

ร้านอาหารฝรั่งเศสแนวยั่งยืนภายใต้การร่วมมือกับ Towngas (บริษัทผู้จัดจำหน่ายเชื้อเพลิงและพลังงานที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความยั่งยืน) ในย่านคอสเวย์เบย์ แนวคิดหลักของร้านคือการใช้วัตถุดิบจากฟาร์มของตัวเอง และสนับสนุนเกษตรกรในฮ่องกง พร้อมให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในทุกๆ ขั้นตอนการปรุงอาหาร

นอกจากเป็นร้านอาหารแล้ว ยังมีการเปิดคลาสสอนทำอาหารทั้งอาหารจีนและอาหารตะวันตก และเบเกอรี่ ขนมหวาน หลักสูตรการเรียนการสอนเป็นไปตามแนวทางของของรัฐบาลฝรั่งเศส เมื่อจบหลักสูตรจะได้รับใบประกาศจากรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นการรับรอง เพื่อให้นักเรียนที่เรียนจบไปสามารถนำความรู้ไปใช้งานได้จริง

 ที่อยู่: G/F & 1/F, Chinachem Leighton Plaza, 29 Leighton Road, Causeway Bay
Map: https://maps.app.goo.gl/ye5JWjR5hf32RoZA9 


Bowrington Bridge Hotpot : ลวกๆ จุ๋มๆ ปรุงรสน้ำจิ้มตามใจ สไตล์ฮ่องกงวินเทจ

ร้านฮอทพอทสุดเก๋ในฮ่องกง มีกิมมิคเป็นน้ำซุปหลากหลายรสชาติ อาทิ ซุปไก่น้ำมะพร้าว หรือซุปซอสสะเต๊ะ พร้อมเมนูซิกเนเจอร์อย่างลูกชิ้นปลา ร้านนี้ยังมีเมนูเซ็ตเล็กสำหรับให้ลูกค้าที่มาเพียง 2 คน ก็ยังสามารถทานฮอทพอตได้ ในร้านตกแต่งแบบฮ่องกงวินเทจ มีโคมไฟสีแดงที่ใช้ในตลาดสมัยก่อนเป็นพร็อพ และอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่ตกแต่งด้วยข้อความภาษาจีน รวมถึงน้ำจิ้ม ที่เราสามารถปรุงแต่งเองตามใจชอบ ซึ่งก็มีหลากหลายให้ได้ลองชิม รวมไปถึงวัตถุดิบที่สดใหม่ หลากหลายตามใจ รับรองถูกปากคนไทยแน่นอน ซึ่งก็มีเหล่าคนดังจากไทยแวะเวียนมาชิม บวกกับเจ้าของร้านเป็นกันเอง เดินเซอร์วิสพูดคุยกับลูกค้า แนะนำเมนู

ที่อยู่: Shop 1-2, G/F, 414-424 Jaffe Road, Causeway Bay


Lok Hau Fook Restaurant : ลิ้มรสเมนูอาหารจีนแต้จิ๋ว แบบดั้งเดิม
ไม่บินไปถึงแผ่นดินใหญ่ แต่แค่มาฮ่องกงก็สามารถเลือกชิมอาหารจีนแต้จิ๋วแบบดั้งเดิม ที่ร้าน Lok Hau Fook เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1954 เชี่ยวชาญในการทำอาหารแต้จิ๋วคุณภาพเยี่ยม ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคที่ถ่ายทอดความเป็นต้นตำรับได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมนูของร้านมีตั้งแต่เมนูดังและเมนูประจำถิ่นที่หาทานได้ยากในฮ่องกง อาทิ ห่านจานรวม (Goose platter), ปลากะพงแดงทอดราดซีอิ๊ว (Pan-fried snapper with soy sauce), ข้าวผัดผักคะน้ามะกอก (Chinese broccoli and olive vegetable fried rice) รวมไปถึงแพนเค้กเมล่อนแบบแต้จิ๋ว เกี๊ยวไก่ หรือเผือกทอดสไตล์ขนมผักกาดสูตรแต๊จิ๋ว ด้วยประวัติความเป็นมายาวนานและความมุ่งมั่นในการรักษาเอกลักษณ์ของอาหารแต้จิ๋ว Lok Hau Fook ยังคงเป็นร้านในดวงใจของผู้ที่แสวงหารสชาติฉบับดั้งเดิม ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงวันวาน

ที่อยู่: G/F, 1-3 Hau Wong Road, Kowloon City
Map https://maps.app.goo.gl/HxGjBXJrsTzrFx5y7 


Seventh Son Restaurant : จากรุ่นพ่อส่งต่อให้รุ่นลูก เมนูระดับมิชลิน “หมูหัน” ตัวละ 1 หมื่นบาท

Seventh Son Restaurant การันตีด้วยรางวัล มิชลิน 1 ดาว Hong Kong Macau Michelin Guide 2025 เพราะร้านแห่งนี้ตั้งชื่อตามหัวหน้าเชฟ Chui Wai Kwan ซึ่งเป็นลูกชายคนที่เจ็ดของ Chui Fook Chuen ผู้ก่อตั้งสถาบันอาหารกวางตุ้ง Fook Lam Moon เชฟ Chui Wai Kwan เป็นลูกคนเดียวที่ได้ฝึกงานกับพ่อ โดยเริ่มทำงานในร้านอาหารกับพ่อตั้งแต่อายุเพียง 14 ปี ซึ่งเขาได้เรียนรู้การคัดเลือกวัตถุดิบที่ดีที่สุด ฝึกฝนทักษะการใช้มีด และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างสรรค์อาหารที่ยอดเยี่ยม

ในปี 2013 เชฟ Chui Wai Kwan ได้ก้าวออกมาสร้างแบรนด์ร้านอาหารของตัวเอง โดยตั้งใจปรุงอาหารกวางตุ้งเพื่อครองใจลูกค้าทั่วโลก มีเมนูซิกเนเจอร์คือ หมูหันที่สามารถนำมารับประทานได้ทุกส่วนตั้งแต่หนังที่กรอบ เนื้อนุ่มละเอียดละลายในปาก ไปจนถึงซี่โครง  โดยสงวนราคาตกอยู่ที่ราคา 1 หมื่นบาท พร้อมอีกหนึ่งเมนูที่มาถึงแล้วต้องลองก็คือ “ไก่ทอดกรอบ” สูตรลับเฉพาะของทางร้าน

ที่อยู่: 3/F, Wharney Hotel, 57-73 Lockhart Road, Wan Chai
Map https://maps.app.goo.gl/X4vkXu3F1GUDcwGAA


Moonlight Hours : ดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำไปพร้อมกับ “ของหวาน” ที่ปรุงรสด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง

ปิดท้ายก่อนจะหมดวัน กับที่เลานจ์โรงแรม Kowloon Shangri-la Hong Kong ขอนำเสนอช่วงเวลา "Moonlight Hours"  ช่วงเวลาที่คุณจะได้ลิ้มรสขนมและของว่างสไตล์จีน ซึ่งที่เลานจ์จะเสิร์ฟขนมหวานสไตล์จีนและของว่างรสชาติอร่อยมากกว่า 20 รายการในบรรยากาศที่หรูหรา เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 18:30 น. เมนูไฮไลต์ อาทิ พุดดิ้งน้ำขิง สาคูมะม่วงกับส้มโอ และไข่ขาวตุ๋นกับนมสดในมะพร้าวอ่อนทั้งลูกและสมุนไพรจีน ขนมเหล่านี้ผสมผสานวัฒนธรรมอาหารของจีนเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว  โดยใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงในการปรุง

ที่อยู่: Lobby Level, Kowloon Shangri-la Hong Kong, 64 Mody Road, Tsim Sha Tsui East

กำลังโหลดความคิดเห็น