xs
xsm
sm
md
lg

“ต่าย เพ็ญพักตร์” ทำริบบิ้นดำให้ปชช.ที่มากราบพระบรมศพ “พระพันปีหลวง” (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ต่าย เพ็ญพักตร์ - เล็ก ฝันเด่น” ร่วมแจกริบบิ้นดำให้ประชาชน ที่มากราบพระบรมศพ “สมเด็จพระพันปีหลวง” อยู่ตรงจุดหน้าสมาคมภริยาทหารเรือ เผยทำแยกเป็นแบบชายหญิง เพื่อเป็นที่ระลึกและนำไปติดกับชุดอื่นได้ ยกในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระพันปีหลวง เป็นพ่อแม่ของแผ่นดิน เป็นต้นแบบของการทำความดี

เป็นภาพที่ชวนน้ำตาไหล เมื่อประชาชนหลั่งไหลเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กันตั้งแต่เช้า หลังวันนี้ (9 พ.ย. 68) สำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ เป็นวันแรก โดยงานนี้นักแสดงรุ่นใหญ่ “ต่าย เพ็ญพักตร์ ศิริกุล” พร้อมด้วย “เล็ก ฝันเด่น จรรยาธนากร” ก็ได้ทำริบบิ้นสีดำ จำนวน 100 ชิ้น มาแจกให้กับประชาชน อยู่ตรงจุดบริการประชาชน หน้าร้านสมาคมภริยาทหารเรือด้วย

ต่าย : “ก็เป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังประกาศให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ากราบพระศพ เราเลยอยากทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นที่ระลึกให้ประชาชนที่มาค่ะ”

เล็ก : “วันนี้ก็มาถึงตั้งแต่ 8 โมงครึ่ง เพราะเรานัดทีมกันไว้ 9 โมง แต่วันนี้ประชาชนมากันตั้งแต่ตี 5 เราเลยมาสาย แต่ปกติเราอยู่นี่ทุกวันอยู่แล้ว ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ริบบิ้นนี่แม่ต่ายก็ทำมา”

ต่าย : “ยังไม่ค่อยสวยงามค่ะ รีบ มีแยกแบบหญิงชาย ผู้ชายก็จะเรียบๆ ของผู้หญิงก็จะมีมุก เพราะเราคิดว่าผู้ชายเขาคงไม่อยากติดอะไรวาวๆ ติดแล้วก็เก็บเอาไว้ได้ไปติดกับชุดอื่นได้ อันนี้งานรีบ เดี๋ยวจะมีแบบอื่นด้วย วันนี้เอามา 100 ชิ้น อีกสักอาทิตย์หนึ่งเราน่าจะมากันอีกรอบหนึ่ง”

เล็ก : “จุดที่เราอยู่คือหน้าร้านสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นจุดบริการประชาชนของกองทัพเรืออยู่แล้ว ผมก็มาประสานขอใช้พื้นที่ร่วม ก็จะมีน้ำดื่ม ขนมนมเนยต่างๆ มา แต่ทางกองทัพเรือจะบริการประชาชนทุกวัน พวกผมมา ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์”

ดีใจเห็นประชาชนหลั่งไหลเข้ามากราบพระศพตั้งแต่วันแรก
ต่าย : “พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด เขารออยู่แล้ว ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้เข้ามากราบพระศพ วันนี้เป็นวันแรก คิดว่าคนน่าจะเยอะทั้งวัน มีประชาชนเวียนมาเรื่อยๆ เลย ในส่วนของเราก็ยังไม่ได้เข้าไปกราบ ให้ประชาชนต่างจังหวัดก่อน เราอยู่กรุงเทพฯ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก็ดีใจนะ ที่ประชาชนต่างจังหวัดเขาได้เข้ามา”

เล็ก: “ในหลายๆ พื้นที่ที่รู้จักกัน แม้กระทั่งน้องๆ อาสาที่อยู่ต่างจังหวัด เขาก็อยากมาร่วมภารกิจในการดูแลประชาชนที่กรุงเทพฯ เหมือนตอนงานพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 แต่เรื่องเงื่อนไขเวลาต่างๆ เดี๋ยวต้องรอความชัดเจนของสำนักพระราชวัง เช่น วันไหนจะมีพระราชพิธีพิเศษ ประชาชนก็จะเยอะ น้องๆ ก็จะมาช่วยกันเยอะ”

มีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นต้นแบบในการทำความดี
ต่าย : “ใช่ค่ะ ของเรากับเล็กเนี่ย เราทำมานานมาก จากที่ไม่เคยมีข่าวคราวอะไรเลย เราก็ทำมาเรื่อยๆ มีพ่อหลวงเป็นต้นแบบที่แท้จริง”

เล็ก : “ผมเนี่ยอาจจะเป็นรุ่นลูกของแม่ ฉะนั้นแม่จะเห็นพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 9 กับพระพันปีหลวงมายาวนาน แล้วยิ่งเราเป็นดารา ก็ได้เจอได้เฝ้า ได้ใกล้ชิด ได้ทำโครงการพระราชดําริ เช่นเป็นพิธีกร หรือไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่พระองค์ท่านสร้างไว้ ก็ได้ยิน ได้ฟัง ได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้น”

ต่าย : “พอได้เห็นเราก็รู้สึกว่ายิ่งต้องทำ แต่เราก็โชคดีนิดหนึ่งที่อยในวงการบันเทิง แต่ครั้งไหนที่เรามีโอกาสได้ทำ เราก็จะรีบทำกันทันที”

เล็ก : “แต่ในฐานะประชาชนก็สามารถทำได้นะ ไม่ใช่ว่าประชาชนต้องเป็นผู้รับอย่างเดียว ผมก็เป็นประชาชน แต่มีอาชีพเป็นดารา ถอดอาชีพออกผมก็เป็นประชาชน ฉะนั้นถ้าเรามีจิตใจที่ช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะอยู่ในโหมดในของชีวิตได้หมด ผมเห็นคนพิการที่เป็นอาสาสมัคร ไม่ได้บูลลี่นะ แต่เดินขาเป๋ก็ยังมาช่วยเลย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่บอกว่าคำว่าจิตอาสา ไม่จำกัดว่าคุณต้องครบ 32 ประการ หรือต้องเพอร์เฟกต์ ต้องดี ต้องรวย มันไม่เกี่ยว แค่คุณช่วยคนในบ้าน คนในชุมชนแค่นั้นก็ได้ อย่ามองความดีเป็นเรื่องไกลตัวหรือยิ่งใหญ่แล้วค่อยทำ มันทำได้ตลอดครับ”

ดีใจที่เห็นคนออกมาช่วยกันทำจิตอาสา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
ต่าย : “ดีค่ะ ทุกคนมาช่วยกันอย่างนี้ดี เพราะอย่างน้อยข้าราชการ หรือคนที่เขาต้องทำอยู่แล้ว เขาจะได้เบาลง พอมีเรามาช่วยซัปพอร์ต อย่างน้องบุ๋ม (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) ที่จัดซุ้มอาหาร อันนี้ก็ดี”

เล็ก : “คือวันที่เป็นวานพระราชพิธีหรืองานใหญ่ระดับประเทศ ก็จะเห็นพวกเราขึ้นมา แต่ในช่วงภาวะปกติ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ทำนะ เพียงแต่ว่าไม่ได้มีสื่อ เราก็ลงในเฟซบุ๊ก ในเพจของตัวเองเป็นปกติ แต่ถ้าไปย้อนดู ในทุกวันมีเรื่องให้ทำหมด ที่เราออกมาทำ ไม่ได้หิวแสง แต่มันเป็นการทำเพื่อให้ลูกหลานเอาเป็นตัวอย่าง เด็กสมัยนี้ถ้าพูดอย่างเดียวมันไม่เชื่อหรอก ถ้าเราทำให้มันเห็น เดี๋ยวมันจะเป็นไปเอง แล้วเมื่อไหร่ที่เขาได้ลองทำตามเรา เดี๋ยวเสพติดเลย วันนี้ออกไหมๆ ทั้งวันอะ ถึงบอกว่าการกระทำมันดังกว่าคำพูด บางครั้งคำพูดมันดังกว่า แต่แป๊บเดียวมันหายไง”

ต่าย : “คำว่าปิดทองหลังพระ เราเคยเอาไปใช้สมัยน้ำท่วม เรามีเสื้อของเรา ติดคำว่าปิดทองหลังองค์พระปฏิมา แล้วข้าวของที่เอาไปให้กับประชาชน ก็ต้องเหมือนที่เราอยากได้ แล้วคำนี้มันฝังอยู่ในหัวใจ เวลาจะทำอะไรก็ทำจากหัวใจ ไม่จำเป็นต้องมีสื่อ ขอปิดทองอยู่ข้างหลัง ได้เท่าที่พละกำลังเรามี อันนี้ตั้งปณิธานไว้อยู่แล้ว”

เล็ก : “ผมก็ปิดทองหลังพระมาตลอด ในมุมของความรู้สึก มันไม่ใช่วาทกรรม แต่เป็นจิตสำนึก ในเมื่อหน้าพระมีคนทำเยอะแล้ว หลังพระก็มีอะไรให้ทำอีกเยอะมาก หน้าพระ หลังพระ ใต้พระ ทำได้ได้หมด มันไม่ยากเลย”

มองสมเด็จพระพันปีหลวงเป็นแม่ของแผ่นดิน ที่คอยอยู่เคียงข้างพ่อของแผ่นดิน อย่างในหลวงรัชกาลที่ 9
ต่าย : “พูดแบบศัพท์บ้านๆ เรามองว่าพระองค์ท่านเป็นแม่ เป็นภรรยาที่เคียงคู่และซัปพอร์ตทุกอย่าง ท่านพยายามเปิดประตูประเทศไทย ให้ทุกคนรู้ว่าเรามีของดีอะไร อย่างการเอาผ้าไหมไทยไปโชว์ จนทุกคนรู้จัก อันนี้ก็เป็นต้นแบบอย่างหนึ่ง ที่สมเด็จพระพันปีหลวง ทำให้เราระลึกถึงท่าน ความงดงามอันนี้ไม่พูดไม่ได้ พระองค์ท่านงดงามมาก ตั้งแต่สาวจนท่านสิ้นพระชนม์ อันนี้เป็นความปรของผู้หญิง เราปราบปลื้มเวลาพระพันปีเสด็จ”

เล็ก : “ในหลวงรัชกาลที่ 9 บอกว่าพระพันปีหลวง คือรอยยิ้มของพระองค์ และสิ่งที่พระพันปีหลวงทรงทำ ทั้งเรื่องผ้าไทยต่างๆ พระองค์ก็นำเสนอในรูปแบบสุภาพสตรี มีความสวยงาม ในหลวงรัชกาลที่ 9 มีความเข็มแข็ง แต่จะมีดอกไม้ติดไปด้วยตลอด คอยเป็นกำลังใจ ฉะนั้นผมเชื่อว่าในหลายๆ โครงการพระราชดําริ พระพันปีหลวงน่าจะมีส่วน เพราะท่านเป็นคู่ชีวิตกัน ประเทศไทยถึงกลมกล่อมแบบนี้ ในฐานะประชาชนเราก็ต้องสานต่อ ประชาชนตัวเล็กๆ ไม่ได้หมายความว่าจะทำเรื่องยิ่งใหญ่ไม่ได้ สิ่งที่ยิ่งใหญ่คือการได้ทำตามที่เห็นว่าอะไรดีอะไรงาม ดีกว่าแค่คิดแล้วไม่ได้ลงมือทำ ฉะนั้นเมื่อมีต้นแบบที่ดี เราก็เป็นผู้ตามที่ดีได้”






















กำลังโหลดความคิดเห็น