xs
xsm
sm
md
lg

“เบลล่า ราณี” แจงดรามาจับผม เป็นนิสัยออโต้รีเช็กตัวเองก่อนเข้ากล้อง ลั่นชื่นชมเป็นสิ่งที่ดีแต่ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบคนอื่นให้ดูแย่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เบลล่า ราณี” ลั่นเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ สำหรับตนกับการถูกวิจารณ์ดรามาจับผมบ่อย ทำเสียบุคลิก บอกเป็นนิสัยออโต้ในการรีเช็กตัวเองก่อนทำงานหน้ากล้อง ต้องดูดีที่สุด ฝากถึงคนที่ชอบคอมเมนต์การชื่นชมกันมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งดูแย่ อีกฝ่ายหนึ่งดูดี โดนแมงป่องต่อยเเป็นเรื่องนานแล้วเพิ่งมาโพสต์

ทำแฟนๆ ตกอกตกใจเมื่อเห็น “เบลล่า ราณี แคมเปน” โพสต์โซเชียลถูกแมงป่องต่อย ขณะถ่ายละครในป่า เรื่องเจ้าคุณพี่กับอีนางคำดวง ที่งานแถลงข่าว งาน ‘NAREE TOUCH OF VELVET’ เบลล่า ได้เล่าถึงเรื่องนี้ว่า….

“คือเบลยังไม่ได้บอกใคร อันนี้มันเกิดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ฉะนั้นตอนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรแล้ว แค่มีเรื่องอยากจะมาเล่าให้ฟัง ระวังภัยสำหรับใครที่ต้องเข้าป่า ของเบลนี้ก็น่าตื่นเต้นอยู่ เพราะแมงป่องเข้ามาอยู่ในโจงกระเบน คือมันอยู่หลังจากช่วงพักกลางวัน เราไปเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานอนกลางวัน ก่อนที่จะถ่ายช่วงบ่าย ซึ่งเราก็นั่งอยู่ที่เก้าอี้ เขาน่าจะเห็นเรานิ่งๆ เดินมาตอนนั้นแหละ พอกำลังจะลุก อยู่ดีๆ รู้สึกเจ็บจึ้กที่ขาแบบที่ไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อน แต่ไม่ได้คิดถึงขั้นแมงป่อง อาจจะเป็นแมลงหรือมด

ก็พยายามคลำหา เลยโดนกัดอีกรอบหนึ่งที่มือ เราที่ไม่มีความรู้ไม่เคยมีประสบการณ์ ก็กังวลว่าโดนกัดสองที่พิษสองเท่าหรือเปล่า โอ้มายก็อด ต้องหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แล้วพุ่งตัวไปโรงพยาบาล ปรากฏว่าไม่แพ้พิษแมงป่อง ได้รับยาแก้ปวดกลับมา เราก็รู้สึกว่าเดี๋ยวละครใกล้จะปิดกล้อง อีกแค่เดือนเดียวเอง ก็ลุยๆ ไปให้จบ เพราะว่าวันนั้นไม่ได้มีฉากกลางคืนก็คิดว่าไหว คนในกองถ่ายตกใจมากค่ะ ที่ตัดสินใจกลับไปกองถ่ายต่อ เพราะไม่งั้นจะต้องกลับมาที่นี่อีกหนึ่งวันมันก็อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกหรือเปล่า ระหว่างถ่ายละครก็ปวดนะคะ พอพักปุ๊บก็ประคบ

โดนตรงข้อมือที่นึง และตรงต้นขาที่นึง มันก็บวม เราก็ประคบไปเรื่อยๆ ตอนที่ไปหาหมอ หมอฉีดยาแก้ปวด ตอนแรกเบลบอกว่าไม่ต้องฉีดยาแก้ปวดก็ได้ เบลไหว แล้วสักพักนึงที่รอเขาทำเอกสาร บอกหมอคะ เบลเริ่มไม่ไหวแล้วค่ะเบลขอรับยาแล้วกัน หมอก็ฉีดยาแก้ปวดให้”

ปล่อยแมงป่องไปตามธรรมชาติ ไม่ได้ตีให้ตาย
“น้องแมงป่องก็มีชีวิตอยู่ เราก็ปล่อยน้องคืนสู่ธรรมชาติ เราเห็นพี่คอสตูมเขาคว้าไว้ได้แล้วเขาก็ตกใจมาก โอ้มายก็อด ไม่เคยโดน เราก็ปล่อยน้องไป ความจริงแล้วที่นั่นเป็นบ้านของเขา เราเป็นผู้ไปรบกวน เป็นครั้งแรกของการถ่ายละครในป่าแล้วเจอแมงป่อง ก็คงระวังมากยิ่งขึ้นค่ะ เราอาจจะประมาทเองที่ปล่อยโจงกระเบนปล่อยชาย

“วิล ชวิณ เจียรวนนท์” ปลอบใจด้วยการส่งรูปอาหารมาให้ดู
ตอนแรกก็ตกใจค่ะ แต่พอสักพักนึงก็ถ่ายรูปอาหารส่งมาให้เป็นการปลอบใจ เขาก็คงคิดว่าจะได้รีแล็กซ์ ซึ่งเราบอกว่า โน (หัวเราะ) ก็รีบบอกตั้งแต่ตอนโน้นเพราะไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง เขาห่วงใยในแบบของเขา”

เป็นอะไรใหม่มากๆ กับดรามาจับผม ชาวเน็ตเตือนทำแบบนี้เสียบุคลิก
“อันนี้เป็นอะไรใหม่มากๆ ที่การจับผมก็สามารถเป็นประเด็นได้ จริงๆ คลิปนั้นพี่พลอยผู้จัดการเป็นคนโพสต์เอง แล้วมันเป็นโมเมนต์ที่เรากำลังเดินไปงาน เรากำลังถามไถ่อัปเดตชีวิตสารทุกข์สุขดิบ แล้วพอใกล้ถึงงานเบลก็เช็กชุดเช็กผมเพื่อให้วินาทีแรกที่ได้เจอกับลูกค้าหรือว่าแฟนๆ จะต้องเป๊ะที่สุด

ซึ่งนิสัยนี้มันก็ติดมาจากที่ทำงานหน้ากล้องอยู่กองถ่ายตลอด มันต้องรีเซ็กตัวเองซึ่งอาจจะติดนิสัยนี้มาโดยไม่รู้ตัว แต่ว่าการทำที่กองถ่ายมันประหยัดเวลาทีมงานมากๆ เลย ทำให้งานเดินได้เร็ว ช่างไม่ต้องมาเข้าชาร์จเราตลอด เห็นคอมเมนต์ก็เข้าใจนะ บางคนก็เป็นห่วง บางคนก็แซวกันขำๆ เบลก็ไม่ได้อะไร”

ฝากถึงคนที่ชอบคอมเมนต์การชื่นชมกันมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งดูแย่ อีกฝ่ายหนึ่งดูดี
“ก็อย่างที่บอกเข้าใจทุกคอมเมนต์ แต่อยากจะฝากเอาไว้นิดนึงแล้วกัน การชื่นชมกันมันก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเรื่องที่น่ารัก แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบอีกคนกับอีกคนหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งดูแย่ อีกฝ่ายหนึ่งดูดี อยากจะให้ทุกคนให้เกียรติกันและกัน (ไม่ได้รู้สึกเกิดความกังวลเหมือนที่เขาวิเคราะห์กัน?) มันเป็นออโต้ค่ะ เราต้องรีเช็กตัวเอง ภาพเราต้องออกมาดูดีที่สุด

เอาจริงๆ แต่ละคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง เบลอาจจะเป็นสไตล์ชอบรีเช็กตัวเองแล้วกัน เพื่อให้มันออกมาดีที่สุด อย่างวันนี้หลังเหนียวมากก็ต้องมีจับบ้างเพราะว่าผมติดหลัง เราก็ไม่กังวลเพราะมันเป็นสไตล์ของเรา (เวลาออกงานคนจับจ้อง เวลาปล่อยผมลงมาเราจะจับ?) เอาจริงๆ มันก็มีแว็บคิดแต่ว่าเรารู้ว่าเหตุผลที่เราทำคืออะไร เราอยากให้ภาพที่ลูกค้าที่ต้องไปใช้ หรือว่าแฟนๆ ที่เจอ เราก็อยากให้เขาเห็นแบบสวยงาม ที่ผ่านมาเราก็ทำตลอด”

เป็นคนเป๊ะเวลาออกงาน แต่ชีวิตจริงไม่เป๊ะ
“ก็ใช่นะ แต่ว่าถ้าวันที่ไม่ทำงานก็ไม่เป็นนะ วันที่ไม่ทำงานจะชิลมาก ถ้าทำงานเรารู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่เราสามารถรับผิดชอบได้ ไม่ใช่ว่าต้องเรียกช่างหน้าผมมาหาเราตลอดก่อนเข้างาน ฝากถึงดรามา ก็ขอบคุณด้วย แล้วก็เข้าใจด้วย แต่ก็อย่างที่ฝากเอาไว้ ไม่อยากให้เปรียบเทียบใครกับคนอื่นเพื่อให้อีกคนดูแย่



















กำลังโหลดความคิดเห็น