“เบสท์ รักษ์วนีย์” ยัน “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” แค่เพื่อน จิ้นแค่คอนเทนต์ อยากเห็นโมเมนต์หวานๆ เงินต้องมากพอ ตอนนี้โสด มูมา 2 ปีแล้วก็ยังโสด
ไปไหนมาไหน ทำคอนเทนต์ด้วยกันตลอดจนแฟนจับจิ้นกันไปแล้ว เมื่อถาม “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ว่าถึงความสัมพันธ์กับ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” ตกลงสถานะความสัมพันธ์อยู่ในฐานะอะไร เจ้าตัวก็บอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ซึ่งในงานบวงสรวงละคร “ตามหารักที่เธอลืม” บิ๊ก ก็ได้ส่งดอกไม้มาร่วมแสดงความยินดีกับ เบสท์ ด้วย
“บิ๊กเบสท์ ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ ชุดนั้นไม่ใช่ชุดนอน มันเป็นเสื้อคู่ ทางทีมผู้ใหญ่บ้านจัดให้ใส่ มันเลยดูแมตช์กันเหมือนเสื้อคู่ทุกชุด ก็เป็นเพื่อนกันมา 2 ปีแล้วค่ะ รู้จักกันปีที่แล้ว ปีนี้มาทำโปรเจ็กต์ด้วยกันมากขึ้น ตั้งแต่ถ่ายยาดม ก่อนหน้านี้รับงานไลฟ์คู่ แล้วมาตอนนี้ทำตลาดเขาเรียกว่าเทศกาล"
"เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกคนเชียร์ เพราะว่าสนิทกันมานานแล้ว รู้จักกันปีที่แล้ว ก็งงเหมือนกันว่าทำไมคนถึงมาเชียร์ตอนนี้ เคมีเหมือนเดิม ด่าไม่ได้เหมือนเดิมด้วย คนว่า ปีที่แล้วเราจะเสียงดังหยุมหัวกัน แต่พอมาตอนนี้ ทำปุ๊บแล้วคนที่จิ้นก็กลายเป็นมาว่า ไม่น่ารักเลย ทำไมไม่พูดกันดีๆ คอมเมนต์ที่เขาว่าเป็นเรื่องโวยวาย เราจะชอบแกล้งกัน แล้วพอบิ๊กเขาทำไม่ได้ เราก็แบบโอ้ยอะไรเบิ๊ก ซึ่งเราเป็นแบบนี้กับเพื่อนอยู่แล้ว เราเคยไลฟ์ตั้งแต่ปีที่แล้วก็เป็นแบบนี้ แต่พอมีคนจิ้นเยอะ ก็จะมีคอมเมนต์ขึ้นมารัวๆ ว่าพูดดีๆ เราโดนด่าแต่ผู้ชายไม่ค่อยโดนหรอกค่ะ สังคมไทยเราเกิดเป็นชะนี รับจบตลอดเวลา”
อยากเห็นโมเมนต์หวานๆ เงินต้องมากพอ พอเป็นคู่จิ้นแล้วต้องเซฟตัวเองป้องกันคนด่า
“ก็คงอยากจะได้แต่โมเมนต์หวานๆ เงินมากพอทำได้ ก็ทำให้ตลอด รู้อยู่ พอเราเสิร์ฟไป เขาก็รับไง จะโทษเราไม่ได้นะ รับส่งทั้งคู่ เขาเสียอาการไหมอันนี้ไม่รู้เลย ต้องไปถามเขา เราก็ดูไม่ออกเหมือนกันว่าจริงหรือแกล้ง อันนี้เรื่องจริง ดูไม่ออก"
"เดี๋ยวนี้คอมเมนต์มันค่อนข้างเซ้นสิทีฟมากเพราะคนมันจิ้นเยอะ ตัวบิ๊กเองก็เซฟ เราก็เซฟ โมเมนต์หวานๆ แต่ก่อนก็ไม่ได้ขนาดนี้ ก็ด้วยความเป็นเพื่อนมันก็ไม่ต้องเสิร์ฟอะไรเยอะ แต่พอมาเป็นคู่จิ้น คนก็จะคอมเมนต์ ป้อนกันหน่อย แต่ก่อนยังไม่เคยไปกินกุ้งด้วยกัน ถ้าเคยก็คงได้แกะเมื่อก่อนหวานไม่มีเลย แต่ว่าหลังกล้องปกติมาก คุยกันปกติ”
"อันนี้ตอบตรงๆ ว่าไม่รู้สึกว่าไม่ได้จีบอะไร ไม่รู้ จีบคือมันต้องคุยทุกวันใช่ไหม แต่เราก็ไม่ได้คุยทุกวันขนาดนั้น ก็เลยไม่รู้ มันก็ต้องถามทำอะไรอยู่ กินอะไรยัง แต่ก็ไม่มี ไม่มีใครส่งหาเลย เรื่องจริง”
คนเข้าใจว่าเป็นแฟนกับ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฯ” เลยไม่มีคนกล้าเข้ามาจีบ?
“พ่อก็พูดแบบนี้ พ่อบอกว่าคนจิ้นกันเยอะจัง ใครจะกล้าจีบ ถามว่ามีผลไหม ถ้าผู้ชายที่ดูอยู่อาจจะคิด แต่ว่าตัวเรามองว่าไม่เกี่ยว ถ้าเขามาคุยมาจีบมันคือตัวเรา หน้ากล้องก็คือหน้ากล้อง ตัวเราก็คือตัวเรา เขาต้องกล้าทักมา คนที่จะเข้ามาถ้าไม่เข้าใจตั้งแต่เริ่มต้นมันก็คงคุยต่อไม่ได้ มันต้องเข้าใจก่อนว่างานก็คืองาน คอนเทนต์ก็คือคอนเทนต์ (แต่บิ๊กตรงสเป๊กเราเลยนะ ขาว ตี๋ สะอาด ตัวเล็ก?) เซ้นสิทีฟอีกให้ตอบแบบไหน ถ้าตอบว่าใช่ คนก็จะเฮ ตอบว่าไม่คนก็ฮือ ให้ตอบยังไง จริงๆ ก็คือ ขาว ตี๋ ดำ คมเข้ม ไทบ้าน อินเตอร์อะไรอย่างนี้ ไม่ติดเลยนะ หล่อก็โอเค มีความผู้นำ รุ่นพี่ โอเคเลย ตอบโจทย์”
บอกครอบครัวจากนี้ขอเลือกคู่ตามใจตัวเอง เพราะหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว สเป็กขอสูง ตี๋ เลิกมูแล้ว ทำทุกวิถีทางก็ยังโสด
“ก็ต้องเงียบแหละ บางทีก็เล่นกับบิ๊ก บางทีพี่แจม(รชตะ)ก็เป็นเหยื่อ เรื่องหน้าเล่นละครกับใครอีก ใครเป็นเหยื่ออีก ให้รู้ไว้ถ้ามีเหยื่อเมื่อไหร่ ตอนนั้นโสดอยู่ มีเพื่อนเล่นติ๊กต็อก ถ้าจะมีแฟนก็รู้สึกว่าเอาที่เราชอบ ไม่ได้มีสเป็กอะไรมากมายหรอก ซึ่งเราก็ชอบคนหล่อ ก็คุยกับแม่อยู่ถ้ามีก็ขอตามที่เราชอบเลย เพราะว่าเราก็หาเงินให้ที่บ้านค่อนข้างเยอะแล้ว เราก็ขอความสุขของเราบ้าง"
"ไม่มูแล้ว เพราะมูมาตลอดมันก็ไม่ได้สักที นี่โสดมาสองปี มูตั้งแต่วันแรกที่โสดแล้ว หนูยังโสดอยู่เลย ก็ทำทุกอย่าง เขาบอกว่าให้ยืนกลางแจ้งให้แสงมันตกปั้ง แล้วก็สวดเยอะๆ แบบอโหสิกรรมใดๆ แล้วก็ขอคนใหม่เข้ามา แต่ต้องกลางแจ้งตอนเช้า ทำมาหมดแล้ว โสดอยู่ค่ะ เราไม่ได้พูดชื่อหรือระบุตัวด้วยนะ เราบอกว่าใครก็ได้ขอแบบหล่อ สูง เคยเปิดให้ดูว่าขอแบบนี้แต่ก็ไม่ได้ เคยถึงขั้นพูดชื่อก็ยังไม่ได้ เปิดรูปให้ดูก็ยังไม่ได้”
เผยถึงพ่อ “สมรักษ์ คำสิงห์” ตอนนี้สบายใจขึ้น พ่อไม่ได้สร้างเรื่องอะไรให้ ตอนนี้แยกแยะตัวเองกับโซเชียลเป็นแล้ว
“คุณพ่อดีค่ะ คุณพ่อร่างกายแข็งแรงแล้ว ก็อยู่บ้าน เดี๋ยวนี้เขาสอนมวย ไม่รู้สิพูดไปเดี๋ยวสร้างเรื่องอีก กำลังจะบอกว่าไม่ได้สร้างเรื่องอะไร แต่ว่าพูดปุ๊บเดี๋ยวจะสร้างหรือเปล่าไม่รู้ ตอนนี้สบายใจแฮปปี้จริงๆ เรื่องพ่อก็คือส่วนพ่อ เรื่องคอนเทนต์ก็ส่วนคอนเทนต์ เรื่องงานแสดงก็ส่วนการแสดง พอเราโตขึ้นเราก็แยกแยะเป็นส่วนๆ ได้แล้ว แฮปปี้มาก"
"ถ้าอยู่ในติ๊กต็อกก็จะเป็นอีกร่างนึงที่คนเห็น ตอนไลฟ์ก็เป็นอีกร่างหนึ่ง ละครก็เป็นอีกร่างหนึ่ง ออกอีเว้นต์ก็เป็นอีกร่างหนึ่ง ไอจีก็สวยแกลมสิคะลงไอจีต้องแกลมไว้ก่อน แต่ติ๊กต็อก ต้องตลกก็จะมีหลายๆ ร่าง ตัวตนเราจริงๆ ก็คือคนที่อยู่บ้าน เราก็เริ่มมีเซฟโซนตัวเองบ้าง อันนี้คือตัวตนเรานะที่เราให้แค่ตัวเองเห็นพอโตขึ้นก็ทำได้”


