“โดม ปกรณ์ ลัม” เคลียร์ปมนางงามกัมพูชาหาว่าอ่อย จีบทางสายตา รับขนลุก ไม่รู้ตาเยิ้มตอนไหน แต่คาดเข้าใจผิดเพราะมุมกล้องและทิศทางการมอง ขอโทษเป็นคนสายตาหวานแต่กำเนิด การันตีบ้านไม่แตก “เมทัล” เชื่อใจไม่เคยเช็กโทรศัพท์
กลายเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ไม่น้อย หลังจาก ป๊อก กิม เทง โสตถิตา นางงามกัมพูชา กล่าวหา “โดม ปกรณ์ ลัม” อ่อย จีบทางสายตา ขณะไปทำงานที่ประเทศกัมพูชา ทำเอา “โดม” ต้องรีบหาพระมาใส่ห้อยคอ
ล่าสุดได้เจอตัวโดมในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ D9 Inno oils อิมัลชั่นพลูคาวผสานน้ำมันสกัดพรีเมี่ยม 9 ชนิด 9 คุณประโยชน์ ณ ห้อง Ballroom1, Royal Orchid Sheraton Riverside Hotel บูธ No. S12/S13 เจ้าตัวก็ขอเคลียร์ถึงประเด็นนี้
“ตาผมหวานไหมครับ ไม่รู้หวานหรือง่วง (หัวเราะ) วันนั้นขนลุกอยู่เหมือนกันนะครับ น่าจะแอร์เย็น พอมีข่าวนี้ ผมว่าอาจเป็นความเข้าใจผิดก็ได้ บางทีเหลี่ยม มุมกล้อง มุมนึงที่มองไป อาจเห็นภาพเป็นอีกแบบนึง มุมนึงที่คนมองมา กับมุมพี่มองก็อาจเป็นอีกแบบนึง
ช็อตตรงหน้าห้องน้ำในบาร์ ผมจำไม่ได้เลย ผมพยายามนึกว่าเอ๊ะ ผมไปบาร์ตอนไหน ไม่น่าจะได้ไปนะครับ งานวันนั้นผมจำได้คืองานสงกรานต์ เขาก็เชิญศิลปินไทย และมีดีเจระดับโลกมาด้วย มาเป็นเทศกาลเขา มีการเอาเครื่องบินใหญ่ๆ มาจอด มีแถลงข่าว มีน้องๆ ดาราจากไทยไปหลายคน มีเชิญทางนางงามทางโน้นมาเป็นเกียรติในงานเขา อาจเป็นต้นเหตุหรือเปล่าที่ทำให้เข้าใจผิด (ภาษากาย สายตา ไม่ได้ทำให้เขาเข้าใจผิด หรือคิดไปเอง?) ผมก็พยายามมอง ว่าผมไปตาเยิ้ม ตาหวานตอนไหน ก็ไม่นะครับ แต่งงานแล้วด้วย จะไปหวานอะไร ใช่ไหมครับ”
ไม่มีระเบิดลงกลางบ้าน “เมทัล สุขขาว” ไม่ซีเรียส ให้เกียรติตน ไม่เคยเช็กโทรศัพท์
“เขาก็มองเป็นเรื่องเข้าใจผิดอย่างนี้แหละครับ ไม่ได้มองเป็นเรื่องซีเรียสเลย สนุกสนานไป ตอนน้องทราบข่าวไม่มีบึ้มๆ ในบ้านครับ (หัวเราะ) น้องค่อนข้างให้เกียรติผมมากๆ โทรศัพท์ยังไม่เคยเช็กเลยครับ โชคดีไป”
บอกเป็นเพราะแรงเหวี่ยงของเรื่องอื่น จนทำให้ถูกจับโยง ขอโทษเป็นผู้ชายสายตาหวานแต่กำเนิด
“ผมว่าจริงๆ อาจเกิดจากกระแส แรงเหวี่ยงของเรื่องอื่นๆ มากกว่า เพราะตอนนั้นเอาตรงๆ ถ้ามีวาระอะไรบางอย่างแบบนี้อยู่ ทุกเรื่องก็สามารถจับ สามารถโยงได้หมด แต่จริงๆ แล้วผมอาจเป็นผู้ชายสายตาหวานโดยธรรมชาติแต่กำเนิด ก็ต้องขอโทษด้วย (เริ่มระแวง?) ตอนนี้ผมพยายามใส่แว่นดำครับ (หัวเราะ)”
ห้อยพระ 3-4 องค์ รู้สึกแปลกๆ เลยใส่คุ้มครอง พระกันอะไรก็ตามนั้น
“ตอนแรกลืมไปแล้ว ห้อยพระ 3-4 องค์ มีเขี้ยวหมูป่าด้วย ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่ให้มา วันนั้นรู้สึกแปลกๆ นิดนึง ก็เลยใส่คุ้มครอง (กันเฉพาะกิจ?) พระกันอะไรได้ก็ประมาณนั้นแหละครับ (หัวเราะ) จริงๆ ผมเดินทางบ่อย ไปต่างจังหวัดก็ต้องห้อยอะไรพวกนี้หน่อย มันเกี่ยวกับเรื่องคุ้มครอง นั่งเครื่องบิน นั่งอะไรแบบนี้ เลี่ยงไม่ได้หน้ามรสุม ก็ยังต้องบินไปร้องเพลง”
ย้ำเป็นเรื่องทิศทางการมองจริงๆ ผมชอบผู้หญิงไทย
“พี่เคยไปสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วได้ข้าวผัดไหมครับ มันมองกันคนละทิศ มันเป็นมุม ที่คนอาจคิดว่าเราอาจมองอันนี้อยู่ แต่จริงๆ เป็นเรื่องทิศทาง จริงๆ ผมว่าผมมองไปทางพิธีกรด้วยซ้ำนะ น่าจะมีอีกบุคคลอยู่อีกด้าน ที่ผมไปหัวเราะกับเขา จริงๆ ถ้าจะเป็นประเด็น น่าจะเป็นคนนี้มากกว่า ที่ผมหันไปแล้วยิ้มใช่ไหม
ผมชอบผู้หญิงไทยครับ ผมหลงเสน่ห์ผู้หญิงไทย (เราไม่ใช่สเปกเขาเหมือนกัน?) ครับ ก็ไม่ทราบครับ (เราสเปกหญิงไทย?) ครับพี่ (หัวเราะ) เคลี๊ยร์เคลียร์ครับ ไม่โกรธเลยครับ พี่เคยเห็นผมโกรธใครไหม โกรธน้อยมากเลยครับ ใจเย็น”
ลุยธุรกิจเต็มตัว มองยุคนี้ดาราควรมีมากกว่า 1 อาชีพ
“งานในวงการยังทำเหมือนเดิมครับ งานในวงการเป็นชีวิตผมเลยแหละ แหม เราอยู่มากี่ปีแล้ว จำความได้เนอะ นับไม่ได้แล้ว ยังมีเรี่ยวมีแรงอยู่ สุขภาพก็ยังดี ทำได้อยู่ ยังอยู่กันไปยาวๆ ถ้ายังรักกันอยู่ โปรดักส์นี้ผมก็ต้องทำอยู่แล้ว ผมมองว่าไม่ใช่ดารา คนรุ่นใหม่ก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ผมเองก็ไม่ได้ทำครั้งแรกนะ เคยเชิญพี่ๆ ไปงานโดมเปิดตัววิตามิน ตอนนั้นเปิดที่ห้างตรงสุขุมวิท แต่ช่วงโควิดเราก็สโลว์กันไป เพราะช่วงนั้นค่อนข้างหนัก เรากลับมาพร้อมโอกาสที่ดีจากหน่วยงาน เราไม่ทำไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ทุกคนควรมีมากกว่า 1 อาชีพ ไม่ใช่แค่คนในวงการอย่างเดียว ผมว่าเราอาจไม่ได้อยู่ในยุคที่ซื้อมาขายไปแล้ว ไม่ใช่ยุคที่ซื้อปลามาแล้วขายปลาไป เป็นยุคที่ต้องขุดบ่อเลี้ยงปลาเอง แล้วขายมัน น่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า”


