“นาย ณภัทร” ในเวอร์ชั่นใหม่! เปิดใจ 2 ปีที่ผ่านมาล้างกระดานชีวิต จิตใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี จนมาเปลี่ยนชีวิตเพราะการวิ่ง ทำให้ได้รู้จักว่าการรักตัวเองมันเป็นอย่างไร ค่อยๆ ประกอบร่างตัวเองขึ้นใหม่ ลั่นจากนี้ตนวันตายให้ตัวเองเป็นที่ 1 ก่อนเสมอ รู้จักกอดตัวเอง ภูมิใจในตัวเองและปรบมือคนเดียวให้เป็น
ทำหลายคนถึงกับทึ่งและชื่นชมเพราะไม่เคยเห็น “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ในเวอร์ชั่นนี้มาก่อน โดยนายได้เปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองตลอด 2 ปีที่ผ่านมาผ่านรายการ soft stop podcast ทางยูทิวบ์ ถึงช่วงเวลาที่รู้สึกแหลกสลายที่สุดในชีวิต และลุกขึ้นมาประกอบร่างเป็น นาย ณภัทร ในเวอร์ชั่นใหม่ ที่แข็งแรงทั้งกายและจิตใจ ทิ้ง นาย ณภัทร คนเก่าที่เคยเป็นเพื่อให้คนอื่นมีความสุขจนหลงลืมความรู้สึกตัวเอง
“ณ วันนี้เวอร์ชั่นที่ผมอายุ 29 ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผมเรียกว่าช่วงล้างกระดานชีวิต เพิ่งเข้าใจคำว่ารักตัวเองมันเป็นยังไง เพิ่งรู้ว่ามันรู้สึกยังไง มันทำงานยังไง ผลของมันคืออะไร ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่จากวันนี้จนวันตายผมจะเลือกตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง การที่ผมจะเป็นคนแบบนี้แล้ว มันไม่ใช่ว่าเป็นการเห็นแก่ตัวนะ ผมเป็นคนโอบกอดคนและห่วงใยคนรอบข้าง เวลาเห็นใครเป็นทุกข์ด้วยเหตุผลว่ามันเป็นเพราะเรา ผมไม่เคยเอาตัวเองขึ้นมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเลย บางคนอาจจะมองว่าแบบนี้เห็นแก่ตัวนะ แต่เราไม่รู้ เรารู้แต่ว่าเราพยายามทำให้คุณอยู่นะ จนวันนึงเรามองข้ามตัวเองไป
ช่วงล้างกระดานชีวิต ตอนนั้นผมเหมือนเป็นคนที่ร่างแตกแหลกไม่เหลือชิ้นดีอะไรเลย เคยคิดว่าทุกอย่างคือจุดจบของชีวิตแล้ว…ผมหยุดงานแสดงไป 1 ปี เพื่อที่จะเวิร์กกับร่างกายกับอารมณ์ กับสภาพจิตใจของผม เพื่อต่อมันขึ้นมาใหม่โดยที่ไม่เหลือความรู้สึกลบกับตัวเองและผู้อื่น ผมค่อยๆ ต่อต่อมันใหม่ขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีกี่เรื่องราวผมทลายและต่อมันใหม่หมด มันเจ็บปวดมากเลยกระบวนการนั้นโคตรทรมาน จนวันนึงวิธีคิดค่อยๆ กลับมา ค่อยๆ ยอมรับ ใจดีกับตัวเอง ผมค่อยๆ ทำความรู้จักกับร่างกายตัวเอง การวิ่งมันทำให้ผมรู้สึกดีมีความสุขว่ะ ได้ตั้งโกลใหม่ๆ ให้กับชีวิต ผมค่อยๆ ประกอบตัวเองจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน”
จากวันที่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองบิดเบี้ยว วันนี้ “นาย ณภัทร” พร้อมแบ่งปันวิธีการกลับมารักตัวเองในฐานะที่เป็นคนนึงที่รู้สึกชีวิตแตกสลายมาก่อน
“อย่างแรกอยากให้กำลังใจทุกคน ปัญหาชีวิตของแต่ละคนความหนักมันไม่เท่ากัน เราไม่สามารถไปสัมผัสในจุดที่เขายืนได้เลยว่าเขาทรมานกับมันมากแค่ไหน ผมมั่นใจว่าคุณไม่ได้เจอเรื่องนี้คนเดียวบนโลกนี้แน่นอน บางครั้งการยอมรับว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับเราแล้ว การได้พูดคุยกับคนอื่นก็ทำให้เราสบายใจได้เหมือนกันนะครับ เป็นการแชร์ว่าคุณไม่ได้เจอเรื่องนี้อยู่คนเดียว
บางครั้งเราเปิดก่อนอีกคนเขาถึงจะเปิด และแชร์ให้กันฟัง มันเป็นเรื่องที่ดี สำหรับผมความล้มเหลวหรืออะไรที่เรามีปัญหามันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต แต่ถ้ามองให้ดีนี่คือสิ่งที่เราจะรับมือกับมัน และเกิดกระบวนการเรียนรู้ของมันนะ ไม่ว่ามันจะหนักแค่ไหน จะมองว่าโลกนี้มันจะถึงจุดจบสำหรับเราแล้ว เราลองค่อยๆใจดีกับตัวเองก่อน
อย่าลืมปลอบตัวเอง บางครั้งคนอาจจะลืมใจดีกับตัวเอง การใจดีกับตัวเองบางทีมันไม่ใช่แค่วิธีคิดนะ ถ้าคิดไม่ออกลองเอามือไขว้ที่อกตัวเอง ในวันที่ไม่มีใครกอดเรา ก็กอดตัวเองไปก่อน นี่เป็นเทคนิคของผม กอดและค่อยๆ สัมผัสตัวเอง บอกกับตัวเอง ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างมันจะโอเค ลูบท้ายทอย ลูกหัว ลูบหู สัมผัสและรับรู้อุณหภูมิในร่างกายเรา พวกนี้เป็นเซ้นส์ที่ดีมากๆต่อร่างกายเรา
ผมอยากช่วยคนนะ ถ้าผมเห็นใครผมจะช่วยเขาอย่างเต็มที่เพราะผมรู้แล้วว่าการที่ยืนอยู่ในจุดนั้นเราคิดอะไร เรามีความคิดอะไรในหัวบ้าง ผมว่าผมเจอส่วนที่เหี้xที่สุดในชีวิตมาแล้ว จุดที่ผมแตกสลายย่อยยับแบบที่ไม่เหลือเหี้xอะไรเลยทุกอย่าง ผมก็ใช้วิธีนี้ค่อยๆ ประกอบร่างกาย จิตใจของผมขึ้นมาใหม่ มันมีอารมณ์เยอะมากที่เกิดขึ้นในร่างกาย ผมเข้าใจว่ามันรู้สึกยังไง”
เลือกตัวเองเป็นอันดับ 1 รู้จักชื่นชม ภูมิใจ และปรบมือให้ตัวเองให้เป็น
“ผมจะบอกว่าไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ให้เลือกตัวเองขึ้นมาอันดับ 1 เริ่มง่ายๆ เริ่มเดินไปส่องกระจก หนวดยังไม่ได้โกนเลยก็ไปโกนหนวด เริ่มแต่งตัวให้ตัวเองดูดีเป็นผู้เป็นคน ทำอย่างนั้นเป็นทีละนิด แล้วทุกคนจะมาถึงจุดที่ทุกคนจะเก่งมากๆ ที่พาตัวเองออกมาจากมันได้ แล้วทุกคนก็จะค่อยๆ เจอวิธีการของตัวคุณเอง จะถูกบ้างผิดบ้างก็ไม่เป็นไร ทดลองไป มนุษย์ทุกคนทำผิดกันได้ เราผิดพลาดได้นะและทุกคนต่างเคยเจอกับความผิดพลาด อย่าไปกลัวกับความผิดพลาดที่มันเกิดขึ้น
ในมุมมองผม ถ้ามันไม่เดือดร้อนใครให้เลือกตัวเองก่อนเสมอ และผมเรียนรู้แล้วที่จะภูมิใจในตัวเองให้เป็น ปรบมือคนเดียวให้เป็นในเวลาที่เราทำอะไรประสบความสำเร็จ ไม่ต้องให้ใครยินดีกับความสำเร็จของเราหากเรายังยินดีกับตัวเองไม่เป็น ภูมิใจในตัวเองทุกวัน บอกตัวเองทุกวันเราเก่งมานะที่เราผ่านเรื่องราวพวกนั้นมาได้ แม้ข้างหน้ามันอาจจะมีเรื่องที่หนักหนากว่านี้แต่เราก็จะต้องผ่านมันไปให้ได้เหมือนที่ผ่านๆ มา
ทุกอย่างคือการเรียนรู้ มันจะประกอบให้คุณเป็นคุณในวันนี้เป็นคนที่ตัดสินใจได้เด็ดขาดขึ้น ทุกๆ ความผิดพลาด ล้มเหลว หรือเสียใจ ขอเพียงแค่อย่ายอมแพ้ ผมเชื่อคำนี้นะชีวิตไม่สู้ก็ตาย เหนื่อยก็พักแล้วค่อยลุกไปต่อ”


