xs
xsm
sm
md
lg

“พลอยชมพู” น้ำตาคลอ ช็อกศาลมาเลเซียตัดสินให้แพ้คดีอดีตต้นสังกัด ยื่นอุทธรณ์สู้ต่อเพื่ออิสรภาพ​ (คลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พลอยชมพู” น้ำตาคลอ ขอสู้ไม่ถอย แม้ศาลมาเลเซียตัดสินให้แพ้คดีอดีตต้นสังกัด ประกาศยื่นอุทธรณ์สู้ต่อทันที​ เสริมทัพทนายมือดีทีมใหม่ ลั่นขอสู้ให้ถึงที่สุดเพื่อทวงคืนอิสรภาพในการทำงาน



ยืดเยื้อมาหลายปีกับกรณีที่นักร้องสาว "พลอยชมพู ญานนีน ภารวี ไวเกล" ยื่นฟ้องต่ออดีตตันสังกัด RedRecords ประเทศมาเลเชีย​ ฐานผิดสัญญา โดยเซ็นสัญญา 2 ปี​ แต่มีผลงานออกมาแค่เพลงเดียว แต่ล่าวันนี้ (3 พ.ย.) พลอย​ชมพู ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมทนายความ "นางสาวรัชดาวรรณ กีฬา" และ​ "นายธีรพัฒน์ อุไพพานิช" จาก​ R.W.T. International Law Office ณ​ WorkWize Co-Working space ห้อง 50 ศูนย์การค้าเดอะสตรีท รัชดา เผยว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.​ ที่ผ่านมา​ ศาลชั้นต้นให้ตัดสินให้คู่กรณีชนะคดี ตอนนี้ทางนักร้องสาวและทีมทนายทางไทยและมาเลเซียเลยเตรียมจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดย​ พลอย​ชมพู​ เปิดใจทั้งน้ำเสียงสั่นเครือว่า

"ก่อนอื่นหนูอยากขอบคุณพี่ๆ​ สื่อทุกคนที่สละเวลามาวันนี้นะคะ​ หลายคนคงพอทราบหรือเคยติดตามข่าวเกี่ยวกับคดีที่หนูยื่นฟ้องค่ายเพลงเก่าเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งต้นเหตุของเรื่องนี้ถ้าเล่าแบบสั้นๆ​ ก็คือเกิดจากความเห็นที่ไม่ตรงกันเกี่ยวกับสถานะของสัญญาค่ะ​ ในมุมของหนูและทีมกฎหมาย เราเข้าใจว่าสัญญานั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ในทางคู่กรณีเขาเชื่อว่าสัญญายังมีผลอยู่ ด้วยเหตุนี้หนูจึงจำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยค่ะ​ ระหว่างทางหนูได้ยื่นขอคำคุ้มครองและได้รับอนุญาตจากศาลให้สามารถปล่อยเพลงได้ตามปกติในระหว่างที่คดียังอยู่ระหว่างพิจารณา ทำให้หลายคนเข้าใจว่าหนูชนะคดีแล้ว แต่จริงๆ​ แล้วคดีเพิ่งมีคำพิพากษาในรอบแรกออกมาไม่นานนี้เองค่ะ

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ศาลได้มีคำตัดสินว่าหนูแพ้คดี หลังจากที่หนูได้รับทราบผล หนูรู้สึกว่ายังมีหลายประเด็นที่อยากให้ศาลพิจารณาเพิ่มเติม ดังนั้นหนูกับทีมทนายจึงตัดสินใจใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้กระบวนการนี้ได้ดำเนินต่อไปอย่างเป็นธรรมค่ะ​ สิ่งที่หนูพูดออกมาวันนี้ รวมถึงสิ่งที่เคยชี้แจงในอดีตไม่ใช่เพื่อทำให้ใครเสียหาย แต่เพื่อปกป้องสิทธิ์ในการทำงานของตัวเอง และยืนยันว่าหนูตั้งใจทำในสิ่งที่รักด้วยความสุจริตใจค่ะ

หนูยอมรับว่าการต่อสู้คดีแบบนี้ใช้เวลานาน​ และต้องใช้ทุนจำนวนมหาศาลเพื่อให้ได้อิสรภาพในการทำงานของหนูกลับคืนมา ทั้งค่าทนายความหลายล้านบาท ค่าดำเนินการและค่าเดินทาง รวมถึงค่าเสียโอกาสในงานต่างๆ ที่หนูต้องปฏิเสธหรือเลื่อนออกไป เพื่อให้สามารถจัดสรรเวลาและวางแผนร่วมกับทีมกฎหมายในการดำเนินคดีอย่างรอบคอบที่สุดค่ะ​ที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่ยาก และหลายอย่างที่เกิดขึ้นมันรู้สึกไม่ยุติธรรมกับหนู แต่หนูก็เลือกที่จะรับมือด้วยความเคารพต่อกระบวนการของศาล และเชื่อมั่นว่าความจริงจะปรากฏในที่สุดค่ะ

เหตุผลที่หนูมาแถลงข่าววันนี้ ก็เพื่อต้องการอัปเดตข้อเท็จจริงให้ตรงกันและยืนยันกับทุกคนว่า แม้คดียังอยู่ในขั้นตอนของการอุทธรณ์หนูก็ยังสามารถทำงาน รับงาน และสร้างผลงานได้ตามปกติค่ะ​ หนูยังรักในการร้องเพลง รักการแสดง และยังอยากสร้างผลงานใหม่ๆ​ ออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะสำหรับหนูดนตรีและการทำงานในวงการนี้ไม่ใช่แค่อาชีพ แต่มันคือสิ่งที่หนูทำมาทั้งชีวิต และเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าชีวิตยังมีความหมายอยู่ค่ะ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา หนูได้เผชิญกับสถานการณ์ทางกฎหมายที่ส่งผลกระทบต่อทั้งการทำงานและสภาวะจิตใจเป็นอย่างมาก แม้กระบวนการที่เกิดขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบยุติธรรมที่ทุกคนเคารพ แต่ผลลัพธ์ของคดีครั้งนี้ก็ได้นำมาซึ่งความกดดัน ความเครียด และความเหนื่อยล้าในระดับที่ลึกซึ้งสำหรับหนูตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา​ ในวัยของหนูการต้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย บางช่วงเวลาที่ผ่านมา หนูยอมรับว่ามันหนักมากในแง่ของจิตใจ แต่หนูก็ยังคงพยายามยืนหยัด และเลือกที่จะต่อสู้ตามกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อให้ได้อิสรภาพในฐานะศิลปินกลับคืนมาอย่างถูกต้องและเป็นธรรม​

ถึงวันนี้สิ่งที่หนูต้องการที่สุดไม่ใช่ความสงสาร แต่คือกำลังใจจากทุกคน หนูอยากผลิตผลงานดีๆ ให้แฟนๆ ได้สนับสนุนและภูมิใจไปด้วยกันในแบบที่หนูตั้งใจและฝันไว้เสมอ​ ขอให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ​ สุดท้ายหนูก็อยากจะขอขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาส ให้ความเข้าใจ และยังเชื่อในตัวหนู ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ​ สื่อ คนในวงการ หรือแฟนๆ ที่คอยอยู่ข้างหนูมาตลอดหนูสัญญาว่าจะทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจและความซื่อสัตย์เหมือนเดิมค่ะ"

ทนาย​ : "ในรายละเอียดของคดีอาจจะยังชี้แจงไม่ได้มากนะคะ เพราะเดี๋ยวเราใช้สิทธิในการอุทธรณ์ และคดีนี้เราต่อสู้เพื่ออิสรภาพของพลอยชมพูที่ศาลประเทศมาเลเซีย ซึ่งในการตัดสินคดีเบื้องต้นก็มีคำวินิจฉัยว่าเราแพ้ ตัวสัญญายังมีผลผูกพันอยู่ แต่ศาลท่านก็เมตตาให้ทุเลาการบังคับคดี น้องก็ยังสามารถที่จะทำผลงานที่เมืองไทยได้ ถามว่าจะมีผลกับเพลงระหว่างที่ปล่อยนี้ไหม จริงๆ ตรงนี้ยังเป็นข้อต่อสู้ของเราอยู่ เรายังไม่สามารถฟันธงได้ ในคำตัดสินของศาลชั้นต้นยังมีหลายประเด็นที่เราไม่เห็นด้วย และทางทีมกฎหมายที่ประเทศมาเลเซียกำลังยื่นอุทธรณ์อยู่​ ตอนนี้เราก็สู้เรื่องของสัญญาเรื่องเดียวค่ะ"

พลอย​ชมพู : "ในส่วนของเพลงที่ปล่อยสตรีมมิ่งไปแล้วมีอยู่น่าจะประมาณ 3-4 เพลงในช่วง 2-3 ปีทื่ผ่านมาที่ได้ปล่อย และยังอยู่บนสตรีมมิ่ง ยังสามารถฟังได้อยู่ค่ะ"

เผยที่ฟ้องไม่ได้ต้องการเรื่องเงิน แต่ต้องการอิสระเท่านั้น
ทนาย : "ไม่มีการเรียกร้องเรื่องเงินจากทางค่ายนะคะ ประเด็นการต่อสู้ของเราไม่ใช่ประเด็นเรื่องเงิน แต่เป็นประเด็นเรื่องสัญญาไม่เป็นธรรมกับศิลปิน หลักๆ เป็นการสู้เพื่ออิสรภาพของน้องค่ะ"

พลอย​ชมพู​ : "ทางเขาก็ไม่มีเรียกเงินมาค่ะ จริงๆ คดีนี้เริ่มต้นจากหนูฟ้องเขาก่อนค่ะ"

ทนาย : "ในระหว่าง​การทำคดีเราพยายามที่จะไกล่เกลี่ยอยู่ตลอดค่ะ จริงๆ น้องเดินทางไปมาเลเซียหลายครั้ง มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เราพยายามที่จะไกล่เกลี่ยในประเด็นหลักคือให้อิสรภาพคืนกับเรา เพราะ 2 ปีที่ค้างไว้ทางค่ายก็ไม่ได้ปล่อยผลงานอะไรหรือดูแลศิลปินตามสัญญาที่เขาระบุไว้พอการไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ เราก็ต่อสู้ในศาลของมาเลเซีย ในหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศจริงๆ หลักก็คล้ายๆ กัน แต่เราก็ไม่ก้าวล่วงในคำตัดสินของศาลประเทศมาเลเซีย เราทำได้เต็มที่ก็คือใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อ ก็ไม่ได้มีการคุยกับคู่กรณีตั้งแต่นั้นค่ะ"

พลอย​ชมพู : "เพลงที่ปล่อยไปแล้วก็เป็นลิขสิทธิ์ของหนูหมดเลยค่ะ ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับทางค่ายเก่าค่ะ"

ทนาย : "เรื่องระยะเวลาในการอุทธรณ์ตอนนี้ทีมกฎหมายที่ประเทศมาเลเซียกำลังเตรียมยื่นศาลอุทธรณ์ค่ะ คำตัดสินของศาลชั้นต้นเพิ่งออกมาเมื่อวันที่ 10 ต.ค. เราสามารถใช้สิทธิได้ภายในระยะเวลาปีนี้แหละค่ะเราต้องยื่นแล้ว ซึ่งไม่แน่ใจว่าทางศาลอุทธรณ์ของมาเลเซียจะใช้เวลานานแค่ไหน​ แต่เรามองว่ามีหลายประเด็นในคำตัดสินของศาลช้้นต้นที่เราไม่เห็นด้วย และเราก็สู้ในทุกประเด็นที่เราไม่เห็นด้วยในชั้นอุทธรณ์ค่ะ และเราก็จะสู้จนถึงที่สุดจนถึงศาลสูงค่ะ"

ยอมรับสภาพจิตใจยังย่ำแย่จากคำตัดสินของศาล
พลอยชมพู : "หลังจากช่วงที่หนูยื่นขอคำคุ้มครองจากศาลและได้รับอนุมัติ หนูก็รู้สึกว่าสภาพจิตใจเริ่มดีขึ้น เพราะได้ปล่อยผลงาน ทำงานได้ปกติ เราสามารถเอาเพลงขึ้นสตรีมมิ่งต่างๆ ได้ แต่ถ้าให้พูดตรงๆตอนนี้ก็ค่อนข้างจะแย่เหมือนกันค่ะ มันมีหลายประเด็นที่เราไม่เห็นด้วย และค่อนข้างจะเซอร์ไพรส์ในบางประเด็นเหมือนกัน จริงๆ หนูก็เตรียมใจมาเผื่อว่ามันจะไม่ได้ออกมาเป็นตามที่เราคิด พอผลอกมาจริงๆ ก็ช็อกเหมือนกันค่ะ"

ทนาย : "เราค่อนข้างผิดหวังในคำตัดสินของศาลชั้นต้นค่ะ"

พลอย​ชมพู : "ตอนนี้ได้คนที่โอเคและมีการปรับอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น ตอนนี้หนูก็มั่นใจมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้หนูยังไม่มีทีมทางไทยมาช่วยดูให้ แต่ในขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์ก็จะมีทางส่วนของไทยมาช่วยดูให้ด้วยค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ใช้ทีมทนายของมาเลเซียอย่างเดียวค่ะ เพราะหนูก็ไม่เคยมีการฟ้องร้องอะไรในชีวิตมาก่อนตอนที่เริ่มหนูเพิ่งอายุ 20 กว่าๆ เอง ก็อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์มาก เราก็เข้าใจว่าสัญญามันอยู่ในประเทศมาเลเซีย เราก็จำเป็นต้องใช้ทีมในมาเลเซีย แต่ตอนนี้เรามีทีมที่ไทยเป็นที่ปรึกษาแล้วด้วยค่ะ"

ทนาย : "จริงๆ ก็อาจจะคล้ายๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับศิลปินที่เป็นผู้เยาว์ทั่วโลก คือศิลปินที่มีความฝันและอยากที่จะเข้าไปอยู่ในค่าย และทางค่ายก็มีข้อสัญญาหลายอย่างให้กับทางศิลปิน แต่สุดท้ายเราต้องมาพ่ายแพ้ด้วยข้อสัญญา ซึ่งตรงนี้เรามองว่าไม่เป็นธรรม จริงๆ เคสของน้องก็ไม่ได้ต่างจากเคสคนดังในหลายๆ เคสระดับโลก และที่ต้องสู้ถึงแม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะ ก็เพราะสู้เพื่อความฝันและอิสรภาพของตัวศิลปินเอง"

พลอย​ชมพู : "จริงๆ มันมีอีกหลายอย่างที่หนูฝันและโอกาสหลายๆ อย่างที่เข้ามาแล้วหนูคว้ามันไว้ไม่ได้ เหมือนมันอยู่แค่ปลายนิ้วมือเอง แต่เราไม่สามารถที่จะเอื้อมถึงมันได้ เพราะว่าสิ่งนี้ (เสียงสั่น) ก็ต้องสู้ต่อไป จริงๆ ใจหนูมีหลายช่วงที่อยากจะยอมแพ้ ไม่ใช่ว่ายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ว่าเรารู้สึกเหนื่อย หนูทำงานคนเดียว ไม่มีค่าย รับงานเอง เวลาเราสร้างสรรผลงานทุกอย่างมันมาจากน้ำพักน้ำแรง เรื่องการลงแรง การหาทุน ครีเอทีฟ มันคือมันสมองของเรา ทำเองหมดเลย ประสานงานก็ทำ บางทีก็ท้อว่าเราทำอะไรเยอะแยะมากมายเพื่อหาเงินสู้กับคดีความนี้ บางทีมันรู้สึกโดดเดี่ยว”

ทนาย : “เรื่องระยะเวลาคือระบบกฎหมายไทยกับมาเลเซียหรือหลายๆ ประเทศ มีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และก็ศาลฎีกา เราจะสู้จนกว่าเราจะได้อิสรภาพของเรา มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสัญญาไหนที่จะขังศิลปินไว้ตลอดไปมันเป็นไปไม่ได้ อย่างที่น้องเรียนว่าก่อนหน้านี้เขาก็สู้คนเดียวกับทีมทนายที่มาเลเซีย แต่ครั้งนี้เรานักกฏหมายที่เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธิ์ทางปัญญา เราจะเข้าไปช่วยน้องดู ก็มั่นใจว่าศาลที่ประเทศมาเลเซียก็น่าจะเหมือนศาลไทยที่ให้ความเป็นธรรมกับศิลปิน สุดท้ายแล้วมันน่าจะมีทางลงได้ เพียงแต่ระหว่างทางน้องอาจจะเหนื่อยหน่อย บางเรื่องไม่ได้เกิดบ้านเรา หลายๆ อย่างอาจจะตอบไม่ได้ ถ้าเป็นบ้านเราใช้เวลาอุทธรณ์ก็เกือบปี กว่าผลอุทธรณ์จะออก คล้ายๆ กันกับประเทศไทยถ้าเราต้องฎีกา ซึ่งเราก็จะขออนุญาตฎีกา ก็ไม่รู้ว่ากระบวนการฎีกาจะเป็นยังไง

จริงๆ ถ้ามีความจริงใจต่อกันระหว่างค่ายกับศิลปินมันจะเร็วมาก มันควรจะอยู่ในกระบวนการไกล่เกลี่ย ทุกวันนี้ทางค่ายก็มีน้องเป็นศิลปินคนเดียว การที่ค่ายรีครูสศิลปินเข้าไปคือการช่วยน้องสร้างสรรค์ผลงาน แต่การที่ไม่ช่วยศิลปินสร้างผลงาน แล้วยังไม่ให้อิสระอันนี้มันเป็นความไม่แฟร์ ถ้าถามว่าส่วนใหญ่ไกล่เกลียกันได้ไหม ในต่างประเทศหลายๆ คดี ถ้าถามเราในฐานะนักกฎหมายศิลปินต้องได้อิสรภาพ มันเป็นไปไม่ได้ที่ศิลปินไม่มีอิสระเลย มันขัดต่อกฎหมายความสงบเรียบร้อย”

พลอยชมพู : ”ตอนนี้ก็มีทนายความที่มาเลเซียอยู่ เพราะทนายความไทยว่าความที่นู่นไม่ได้ แต่มีทนายไทยดูแลให้“

ทนาย : ”เราเปลี่ยนเป็นทนายมือดีที่นู่น ซึ่งมือดีคือมีชื่อเสียงที่นู่น ทีมทนายไทยก็ไปช่วยขันน็อตให้แน่นขึ้นไปอีก อย่างที่บอกถ้าเราจะสู้ให้สุด เราไม่ได้มองแค่ศาลอุทธรณ์ เราพร้อมไกล่เกลี่ยทุกเมื่อ ถ้าค่ายเห็นใจศิลปิน ฝากถึงทางค่ายคือพร้อมคุยเลย มันคือการคืนอิสรภาพให้กับศิลปิน แต่ตอนนี้มันไม่มีดีกับทั้งสองฝ่ายเลย”

พลอยชมพู : “ฝากถึงแฟนๆ ที่ติดตามแล้วกัน อยากจะขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นเรื่องมาจนถึงตอนนี้ รวมถึงพี่ๆ ในวงการด้วยที่คอยซัปพอร์ตและช่วยติดต่อมาจ้างงานตลอด รู้สึกขอบคุณทุกๆ โอกาส ถ้าไม่มีแฟนๆ พี่ในวงการ แม้แต่พี่ๆ สื่อมวลชนที่มาช่วยซัพพอร์ตจริงๆ อยากขอบคุณมากๆ และถ้าหากมีโอกาสว่าใครสนใจจะร่วมงานด้วยติดตามมาได้เช่นกันค่ะ หนูมีทีมนักกฎหมายถ้าใครที่อยากจะคุยติดต่อเรื่องงานสามารถมาคุยกันได้ค่ะ

หนูอยากได้อิสรภาพ จริงๆ อยากจะสร้างผลงานที่มาจากใจของเรา หนูเริ่มต้นมาไม่ได้อยากเป็นนักร้องเพราะว่าอยากหาเงินได้หลายๆ ล้าน แต่มันเป็นแค่ผลพลอยได้ที่เราทำเพลงออกมาแล้วประสบความสำเร็จ แต่ในเนื้อแท้ของหนูคืออยากสร้างสรรผลงานที่มันเป็นตัวหนู จากใจหนูจริงๆ แล้วก็หนูมีความสุขที่สุดก็คือเวลาได้ร้องเพลง ได้เห็นแฟนๆ มีความสุขด้วยกันค่ะ”









กำลังโหลดความคิดเห็น