“โอปอล สุชาตา” เผยมีพระพันปีหลวงเป็นแรงบันดาลใจในการประกวดมิสเวิลด์ ที่ผ่านมาศึกษาเรื่องราวพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านย้อนหลัง จากนี้พร้อมสานต่อทุกอย่างในเรื่องของมะเร็งเต้านม ในเรื่องของผ้าไทย ชุดไทย ในความเป็นผู้หญิงไทยที่พระองค์ท่านทรงอุทิศชีวิตสร้างมา
ถึงจะทำภารกิจนางงามอยู่ต่างแดนแต่ก็ขอคิวกลับมาก่อนล่วงหน้า เพื่อมาถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง สำหรับ “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” มิสเวิลด์ 2025 โดย โอปอล ได้เผยว่าตนนั้นมีพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจในการประกวดเวทีโลก รวมถึงทำโครงการช่วยเหลือผู้หญิงด้วยกัน อย่าง opal for her
“วันนี้ตั้งใจมาค่ะ ก่อนหน้านี้โอปอลอยู่ที่อังกฤษในวันที่มีข่าวว่าพระองค์ท่านเสด็จสวรรคต เราอยู่บนเครื่องบินพอดี ก็เลยกลับมาก่อนกำหนดนิดนึง เพื่อที่จะมาทำตรงนี้ จากที่ตอนแรกตั้งใจจะกลับมาวันลอยกระทง ก็ขอทางกองว่าขอรีบกลับมาก่อนได้ไหม หลังจากทราบข่าวโอปอลกำลังจะบินพอดี โชคดีมากที่เครื่องยังไม่เทคออฟ มีอินเตอร์เน็ตบนเครื่องอยู่ช่วงนึงเลยมีเวลาได้โพสต์ภาพเขียนถวายคำอาลัย
ต้องบอกก่อนว่าโอปอลอายุ 22 ปี เห็นพระองค์ท่านมาตั้งแต่เราเด็ก ลืมตาดูโลกก็เห็นพระองค์ท่านมาตลอดเหมือนอะไรที่คู่บ้านคู่เมือง พอเริ่มโตได้มาประกวดนางงามก็มีโอกาสได้ใส่ผ้าไทย ทำโครงการมะเร็งเต้านมด้วย เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมือนเราได้รับแรงบันดาลใจจากพระองค์ท่านเยอะมากขึ้น รู้สึกว่าได้มีความใกล้ชิดท่านมากกว่าแค่โตมาและเห็นพระองค์ท่าน”
ศึกษาเรื่องราวพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันปีหลวงย้อนหลัง
“เราเด็กก็อาจจะไม่ได้ทันท่านมาก แต่เราก็มาศึกษาย้อนหลัง ด้วยความที่เราจะไปประกวดเวทีนานาชาติเราก็ตั้งใจโจทย์ไว้ว่าทำยังไงที่เราจะสามารถแสดงความเป็นไทยได้ดีที่สุด วันนั้นโชคดีที่โอปอลไปหนองคาย ไปเยี่ยมห้องสมุดที่กรมสมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงรับสั่งให้สร้างให้คนที่นั้น ก็เลยได้ไปสะดุดตากับหนังสือเล่มนึง เป็นหนังสือรวมเล่มฉลองพระองค์ของสมเด็จพระพันปีหลวง เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นนึงของเราที่มีท่านเป็นแรงบันดาลใจมากๆ
หลายๆ คนน่าจะเห็นจากชุดที่โอปอลประกวด ทั้งชุด และผ้าไทยต่างๆ จะมีแรงบันดาลใจมาจากพระองค์ท่านเยอะมากๆ เป็นจุดที่เรารู้สึกว่าได้ใกล้กับพระองค์ท่าน ก็ภูมิใจ ไม่รู้เป็นเพราะได้เสียงตอบรับที่ดีด้วยหรือเปล่า แต่เรารู้สึกว่าใส่แล้วมีความเป็นตัวเอง พอมีคนชมเรายิ่งอยากจะใส่ โดยเฉพาะเด็กรุ่นโอปอลอาจจะมีความคิดว่าผ้าไทยใส่แค่ผู้ใหญ่ หรือผ้าไทยใส่แล้วมีอายุ พอโอปอลได้ใส่แล้วรู้สึกมั่นใจ ก็ยิ่งอยากจะใส่ให้คนเห็นว่าผ้าไทยสามารถเป็นอะไรได้มากกว่านั้น”
มีชุดฉลองพระองค์เป็นแรงบันดาลใจในการเข้ากองประกวดเวทีโลก และยังได้เผยแพร่เรื่องราวของผ้าไทยให้เพื่อนนางงามต่างชาติที่สนใจได้รับรู้
“หลายชุดมากๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉลองพระองค์ของท่าน ด้วยสิ่งที่มันควรจะเป็นเราก็ได้ปรับอะไรหลายๆ อย่างให้ไม่ถอดแบบมากจนเกินไป เรารู้สึกว่าสิ่งที่พระองค์ท่านรับสั่งให้ตัดเป็นฉลองพระองค์ของพระองค์ท่านในคอลเลกชั่นต่างๆ มันคลาสสิก จะใส่ในยุคไหนก็สวย ก็เลยเอามาปรับ จะมีความคล้ายคลึงกันในผ้าที่ใช้ การตัดเย็บ สี เป็นแรงบันดาลใจแรกในหลากหลายมุมมาผสมผสานกัน
เราต้องการอะไรที่มีความเป็นไทยในเวทีนานาชาติ เราเห็นภาพฉลองพระองค์ท่านแล้วรู้สึกว่านี่คือความเป็นไทย เราเห็นแล้วเรายังชอบเลย ต่างชาติก็คงจะชอบเหมือนกัน เราได้สนับสนุนผ้าไทย สนับสนุนพี่ป้าน้าอาที่เขาทอผ้า เป็นหนึ่งในสิ่งที่พระองค์ท่านอุทิศมาตลอดทั้งชีวิต ก็รู้สึกภูมิใจในตรงนั้นด้วย เป็นเรื่องง่ายๆ เหมือนที่เราใส่ชุดเข้ากองประกวดแล้วเพื่อนทักว่าเขาอยากได้บ้าง หรืออีกเหตุผลที่โอปอลชอบเอาผ้าไทยมาตัดใส่เพราะเทียบกับผ้าธรรมดา
ผ้าไทยเราโดดเด่นเวลาใส่ เห็นแล้วรู้เลยว่าไม่ใช่ผ้าธรรมดา มันเป็นสิ่งทอที่พิเศษไม่เหมือนเสื้อผ้าปกติทั่วไป คนจะเดินเข้ามาทักว่าผ้านี้คือผ้าอะไร ยูไปได้มาจากไหนก็จะเป็นโอกาสที่เราได้พูดได้บอกว่าฉันได้มาจากประเทศไทย จากจังหวัดนี้นะถ้ายูต้องการที่จะได้ผ้าแบบฉันยูจะต้องไปซัปพอร์ตใคร ที่ไหน แล้วยูจะสามารถช่วยประชากรในพื้นที่ยังไงได้บ้าง ก็ถือเป็นโอกาสที่เราได้ผลักดันผ้าไทย เป็นโอกาสที่ดีที่เราได้ช่วยส่งเสริมตรงนี้”
กล่าวสุนทรพจน์ถึงพระองค์ท่านบนเวทีโลกเพราะอยากให้เกียรติพระองค์ท่านในฐานะที่ทรงอุทิศตนทั้งชีวิตเพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้กับผู้หญิง พร้อมสานต่องานที่พระองค์ท่านอุทิศชีวิตและความเป็นผู้หญิงไทย
“งานนั้นเป็นงานเกี่ยวกับโครงการมะเร็งเต้านม โอปอลก็อยากจะให้เกียรติพระองค์ท่านในฐานะที่ท่านก็อุทิศตนทั้งชีวิตเพื่อผู้ป่วยมะเร็งเต้านมให้กับผู้หญิงทุกคนเช่นกัน เพื่อนๆ ต่างชาติก็รู้สึกสูญเสียไปกับเรา ทุกคนรู้จักพระองค์ท่านอยู่แล้ว แต่เราก็อยากจะบอกเขาไว้ สิ่งที่พระองค์ท่านทิ้งไว้พระองค์ไม่ได้มีแค่ควีนออฟไทยแลนด์ แต่ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ทุกคนสามารถเอาไปปรับใช้และสานต่อได้
แทนที่จะให้เป็นความโศกเศร้าเราก็อยากให้ทุกนึกไปพร้อมๆ กันว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทำมีอะไรบ้าง แล้วเราจะช่วยสานต่อได้ยังไงบ้าง ภูมิใจค่ะ พระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจมาตลอดทั้งในเรื่องแฟชั่น การใส่เสื้อผ้า การปฏิบัติตนให้ดูคลาสสิก เป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟกต์วูแมนคนนึง หลายๆ มุมท่านให้แรงบันดาลใจกับเรา และในเรื่องของมะเร็งเต้านมด้วยที่เราก็อยากจะส่งต่อ (พร้อมสานต่อ?) โอปอลก็จะสานต่อทุกอย่างในเรื่องของมะเร็งเต้านม ในเรื่องของผ้าไทย ชุดไทย ในความเป็นผู้หญิงไทย”
                                                                            
                    

