xs
xsm
sm
md
lg

“เม พรีมายา” ร่ำไห้ หากหลักฐานที่มีหักล้างไม่ได้ คนโกงเต็มเมือง! เซ็งและรำคาญขึ้นศาลอีกครั้งเดือน ธ.ค.ปีหน้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เม พรีมายา” เซ็งและรำคาญ คดียืดเยื้อยาวนาน ขึ้นศาลอีกครั้งเดือน ธ.ค.ปีหน้า ทั้งที่ตนเป็นจำเลย คู่กรณีเป็นโจทก์ เชื่อไปหาหลักฐานให้แน่น แต่ตนก็มีหลักฐานอีกเพียบที่ยังไม่ได้เปิด อัดหากหลักฐานที่มีพิสูจน์ความจริงไม่ได้ คงมีคนโกงเต็มบ้านเต็มเมือง พ้อกลัวเสียงแม่ค้าไม่ดังเท่าเสียงหมอ ก่อนปล่อยโฮเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วหลังมีลูกแฝด อยากกลับไปใช้ชีวิต ฟาดไม่อายเหรอ โกหกสังคม

กรณีดรามาระหว่าง “เม พรีมายา” แตกหักกับอดีตหุ้นส่วนคลินิกเสริมความงาม Dermatige Aesthetice นำไปสู่การฟ้องร้องกันทั้งสองฝ่าย โดยเมถูกฟ้องหมิ่นประมาท และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ขณะที่เมก็ฟ้องคู่กรณียักยอกผลประโยชน์ร่วม และไม่สามารถตรวจสอบบัญชีของบริษัทได้

คืบหน้าล่าสุด เม พรีมายา ได้เปิดใจอัปเดตเรื่องคดี พ้อขึ้นศาลอีกที พ.ย.-ธ.ค. ปีหน้า ยอมรับว่าเซ็งเพราะมันค่อนข้างยาวนาน ตนอยากจบเรื่องนี้เพื่อมูฟออนไปใช้ชีวิตกับลูกและสามีแล้ว

“วันที่ 27 ต.ค. ไปตามนัดของศาลค่ะ ศาลเพิ่งรับฟ้องเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เป็นเรื่องเป็นราวกันมา ช่วงเดือนต.ค.ต้นๆ จนถึงตอนนี้ ศาลถามว่าจะไกล่เกลี่ยไหม เราเลยบอกศาลว่าคงไม่ได้ไกล่เกลี่ยแล้ว เพราะช่วง ก.ย. ถึง ต้น ต.ค. เราไกล่เกลี่ยกันมาโดยตลอดว่าจะจบที่ตัวเลขที่เท่าไหร่ จะจ่ายเงินเมที่เท่าไหร่ จะชำระบัญชีไหม ศาลให้ทางออกมาตลอดตั้งแต่ ม.ค.ถึง ก.ย.

พอเดือนต.ค. เมก็ตอบไปว่าคงไม่ได้ไกล่เกลี่ยแล้วค่ะ เริ่มพิสูจน์ขั้นตอนของศาลเลย สิ่งนี้ก็อยากย้ำว่าถ้าสมมติว่าเป็นข้อเท็จจริงตามข้อมูลที่ฝั่งโน้นมาชี้แจง ตั้งแต่ม.ค.-ก.ย. เราจะมีการไกล่เกลี่ย หาทางออกให้หุ้นส่วนคนนี้ได้อย่างไร ตรงนี้ไม่ได้พูดปากเปล่านะคะ มีบันทึกจากศาลด้วยว่าเราพยายามไกล่เกลี่ยว่าจะให้ตัวเลขเมที่เท่าไหร่ หรือไปชำระบัญชีไหม หรือจะจ่ายเงินเมเท่าไหร่ ทุกนัดมีการบันทึกการประชุมที่ศาลเสมอ ซึ่งสิ่งนี้พอจะตอบคำถามได้บ้างว่าถ้าเมไม่ใช่หนึ่งในหุ้นส่วน เราจะไกล่เกลี่ยหาทางออกให้เมกันทำไม

หลังศาลประทับรับฟ้อง ก็ไปพบศาล ศาลเลยให้ทำการนัดว่าจะนัดอีกทีวันไหน ตามคิวของศาลจะได้อีกที พ.ย. ธ.ค. ปีหน้า ซึ่งตอนนี้เดือนต.ค.อยู่เลย อีกปีนึงกว่าเราจะได้เริ่มกระบวนการพิสูจน์ความจริงกัน คิวพิเศษศาลให้มาออปชั่นที่ 2 คือเดือนธ.ค.นี้กับต้นปี เราสามารถนัดพิเศษกันได้ ขนาดว่าเมคือจำเลย เขาคือโจทก์ เขามาฟ้องเม ต้องอยากพิสูจน์ความจริงสิ แต่ทำไมวันนี้เขาถึงไม่เลือกเดือนธ.ค. ไม่เลือกเดือนม.ค. เขาบอกไม่มีเวลามาทำตรงนี้ ตัวเราก็ตั้งคำถามว่าถ้าคุณอยากพิสูจน์ความจริงให้สังคมรู้ แสดงความโปร่งใสจริงๆ เมว่ามันคงไม่มีเรื่องอะไรสำคัญไปมากกว่าเรื่องนี้ที่กำลังเกิดขึ้นหรอก คิวหมอก็ยังไม่ออก คิวอินฟลูฯ คุณก็ยังมีเวลาว่างอยู่ ฉะนั้นตรงนี้คุณสามารถนัดศาลได้ แต่คุณกลับเลือกเดือนพ.ย.-ธ.ค. ปีหน้า ซึ่งมันปีกว่ากว่าจะได้พิสูจน์กัน

ตรงนี้เมไม่ได้มีคำตอบอะไรกับเรื่องนี้ เพราะจริงๆ เมคือจำเลยนะ เขามาฟ้องเม เขาต้องอยากพิสูจน์หลักฐาน เขาต้องมั่นใจสิ่งที่เขามีสิ เขาอยากได้ความโปร่งใสยังไงบ้าง ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าทำไมไม่รีบพิสูจน์ความจริง รีบพิสูจน์หาคำตอบของเรื่องนี้”

เชื่อคงไปหาหลักฐานเพิ่มให้แน่นที่สุด ส่วนตนหลักฐานเพียบ แค่ยังไม่ได้เปิด
“คิดว่าเขาคงไปหาหลักฐาน หรือทำอะไรเพิ่มเติมมั้งคะ ให้มันแน่นที่สุด เพราะจริงๆ เขาเองก็บอกว่าเขามีเอกสาร เขารอศาลตัดสิน ทำไมวันนี้ไม่รีบพิสูจน์ความจริงล่ะ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ถ้าเขามีเอกสาร เมก็มีหลักฐานมาหักล้างและพิสูจน์ได้อยู่แล้ว เมมั่นใจมากๆ ค่ะ

เขาฟ้องคดี พ.ร.บ.คอมบ์ฯ ที่บอกว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวคลินิก ซึ่งเมจะไม่เกี่ยวข้องยังไง ม.ค.-ก.ย.เราไกล่เกลี่ยกันว่าคุณจะจ่ายฉันกี่บาท จะหาทางออกให้ฉันยังไงบ้าง มีบันทึกจากศาลด้วย ถ้าศาลท่านไม่เห็นหลักฐาน เราจะไกล่เกลี่ยกันมาทำไมตั้งเกือบปี ถ้าไม่เกี่ยวข้อง แล้ววันนี้คุณชี้แจงอะไรให้กับสังคม มันขัดแย้งกันไปเยอะเหมือนกันค่ะ

เอกสารที่เขาพูดถึง เขามีเอกสารเดียวคือเอกสารที่เราฝากหุ้นไว้ หรือที่เราแจ้งว่าเราขายหุ้นไปแล้ว 3 แสนบาท เขามีเอกสารอันนั้นที่เขาจะต่อสู้คดีว่าเมไม่เกี่ยวข้อง ตัวเมเองมีหลักฐานอีกเยอะแยะมาก เมไม่ได้ออกมาพูดเรื่องนี่ด้วยความรู้สึกอย่างเดียวนะคะ แต่หลายๆ อย่างเมไม่ได้โชว์ออกไปให้ทุกคนได้เห็น เชื่อว่าถ้าเขามีเอกสารเมขายหุ้น 3 แสนกว่าบาท เมมีหลักฐานอีกเยอะมากๆ ที่จะเอามาหักล้างได้ พิสูจน์ได้ไม่ยากเลยสำหรับเม

แต่เมก็ไม่ได้เอามาให้สังคมเห็นว่านี่คือคลิปเสียงนะ คลิปคุณหมอต่อที่คุณหมอต่ออนุญาตให้เปิดเผยได้ ตัวเมก็ยังไม่ได้เปิดเผยสิ่งนั้น ตัวคุณหมอก็พูดเองว่า 12 เปอร์เซ็นต์ เธอรับไปก่อนไหม ทุกอย่างมีเรคคอร์ด วันที่ เสียงคุณหมอ เสียงพาร์ตเนอร์หลายๆ คนที่พูดมาทุกอย่างถ้าชาวบ้านฟังก็เข้าใจ นี่แค่คลิปเสียงนะ ไม่ว่าการที่เมเกี่ยวข้องธุรกิจทุกอย่า เมก็พิสูจน์ได้หมด หลักฐานที่เมโชว์ไปในโซเชียลมีเดียว แค่หลักฐานง่ายๆ ให้ทุกคนได้เห็นภาพกัน แต่อื่นๆ ที่เป็นการสู้ทางคดีเมก็ยังไม่ได้เปิดไปเหมือนกัน หลายอย่างค่ะ มีอีกเยอะ

ชี้หากสิ่งที่มีพิสูจน์ความจริงไม่ได้ คนโกงก็คงมีทั่วบ้านทั่วเมือง
“เมเข้าใจนะ ในทางศีลธรรม จริยธรรมเราพิสูจน์ได้หมดแหละ แต่เกณฑ์อัยการ ศาล เขาอาจพิสูจน์ตามหลักฐาน เมเข้าใจเป็นอย่างดีเลย ไม่ได้กังวล ถ้าสิ่งนี้เขาจะพูดอย่างนี้ แปลว่าวันนี้คนก็โกงได้ทั่วบ้านทั่วเมืองสิ ศาลเขาพิสูจน์ได้อยู่แล้วหลายๆ อย่าง ถ้าสิ่งที่เมมีทั้งหมดไม่สามารถหักล้างหรือพิสูจน์กันได้ เมว่าทุกวันนี้คนก็คงโกงกันทั่วบ้านทั่วเมืองค่ะทุกคน แชตเขาจะปลอมได้ยังไง วันนี้หนูยังกดโทร.หา เขายังใช้อันนี้เป็นหลักอยู่เลย ทุกอย่างมันไม่ได้เข้าใจยาก คนนั้นมันไม่ใช่บุคคลที่สาม มันคือฉันกับเธอ ที่ผ่านเหตุการณ์นี้มาด้วยกัน ถ้าศาลใช้เกณฑ์เอกสารก็จริง แต่สิ่งที่เรามี เมว่ามันสู้ได้ ไม่รู้จะบอกกังวลไหม แต่ถ้าสู้ไม่ได้อีก คนก็คงโกงกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว วันนี้จะมีศาล จะมีคนกลางทำไม”

ฟ้องกลับทั้งแพ่งและอาญา เพราะได้รับความเสียหาย
“แน่นอนค่ะ จริงๆ แล้วเรื่องนี้การที่เมออกมาพูด เมได้รับผลกระทบ เมได้รับความเสียหาย เมเลยออกมาเป็นข่าว เรียกร้องความยุติธรรม เมฟ้องกลับอยู่แล้วเพราะเมเสียหาย แต่ว่าทำไมเขาถึงฟ้องไปก่อน เพราะเราไกล่เกลี่ยว่าจะจบอย่างสวยงามยังไง ที่สังคมตั้งคำถามว่ามาทะเลาะกันหน้าบ้านทำไม ทำไมไม่ไปฟ้องกันให้มันเสร็จๆ ถ้าคุณเสียหาย จริงๆ เราจะฟ้องมาตั้งแต่ปีก่อนโน้น แต่เขาไกล่เกลี่ย และอยู่ในช่วงไกล่เกลี่ยกันมาตลอด มันเลยไม่ได้ฟ้อง

ท้ายสุดตอนนี้เราเริ่มฟ้องไป ใหญ่ๆ มีทั้งแพ่งและอาญา จริงๆ ในสิ่งที่จะฟ้องเขา คดีใหญ่ๆ เราก็เตรียมเล่นให้ถึงที่สุดแหละค่ะ แต่ว่ามันไม่ใช่ว่าการฟ้องร้องจะมีแต่คดีใหญ่ๆ มันมีคดีเล็กๆ ตามมาอีกเยอะ เราก็ต้องบอกว่าเราเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดเหมือนกัน ในส่วนของเรา ในเรื่องค่าเสียหาย ตัวเมก็ต้องอยากได้ผลประโยชน์อยู่แล้ว ให้มันจบ ถ้าเราไม่ได้ไปถึงธุรกิจตรงนั้นแล้ว คุณจะเอาไปก็ต้องแฟร์ เราทำธุรกิจไม่ได้มาเล่นขายของกัน มันต้องมีราคาที่ต้องจ่าย

แต่ว่าเขาก็ยืนยันว่าไม่ให้ หรือชำระบัญชีหรืออะไรกัน สุดท้ายแล้วเราก็อยากได้ความโปร่งใส จนถึงวันนี้ สเตทเมนต์ง่ายๆ เรายังไม่สามารถเข้าถึงได้ เราไม่ต้องการเห็นบัญชี เราต้องการสเตทเมนต์ซึ่งมันง่ายกว่านั้น ถ้าคุณโปร่งใสจริงคุณชัดเจนคุณสะอาดเหมือนที่คุณแจ้งจริง คุณต้องสามารถให้เราเห็นสเตทเมนต์ได้สิ มันจะมากจะน้อยคุณแค่ให้สเตทเมนต์เรา ถ้าคุณบอกว่าตัวเลขที่เราเรียกมันมากเกินไป คุณก็เอาสเตทเมนต์มาสิ เราจะได้วิเคราะห์ได้ ถึง ณ วันนี้ก็ยังไม่เห็นสเตทเมนต์เหมือนกัน”

เผยที่มายอดค่าเสียหาย 100 ล้าน
“100 ล้านค่ะ จริงๆ เมลดลงมาเยอะพอสมควรแล้วเหมือนกัน แต่เราก็คุยได้ มันอยู่ในการไกล่เกลี่ยมาโดยตลอด เราบอกศาลตลอดว่าคุยได้ แต่ฝั่งโน้นบาทเดียวเขาก็ไม่จ่าย อยากได้ก็ไปฟ้องเอา สุดท้ายเขาจะมาจ่ายหนูทำไม 30 ล้าน 50 ล้าน เขาไปทำอะไรนานๆ ให้เราต้องรอกัน ให้มันเสียเวลากันก็จริง แต่ได้เงิน ได้ธุรกิจไป ก็คงไม่มีใครอยากจ่ายหรอกค่ะ

ตัวเลข 100 ล้านเป็นการประเมินรายได้ย้อนหลัง ไม่ได้ประเมินรายได้ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นนะคะ ตัวเลข 100 ล้านเมมีเอฟเอมาประเมินในส่วนนี้ด้วย ซึ่งตัวเลขสูงกว่านี้มากๆ ตัวเมไม่ได้ยึดข้อมูลที่เอฟเอเข้ามาประเมินเลย นี่คือราคาอยากจบ ไม่อยากอยู่กับคนแบบนี้ ฉันขอเอาตัวเองออกมาดีกว่า ถ้าสมมติต้องทำธุรกิจอยู่ตรงนี้แบบนี้ เราขอจบที่เท่านี้ คุณก็เอาหุ้นไป”

ไม่ได้ทำเพื่อสะใจหรือใช้อารมณ์
“ตั้งแต่เราดำเนินธุรกิจกันมา เราไม่เคยแบ่งกำไรสะสมเลย มันมีกำไรสะสมอีกมหาศาลอยู่ในบัญชีบริษัท บวกกับกำไร รายได้ที่เกิดขึ้น ช่วงธุรกิจเติบโต แค่ 3 สาขาก็เยอะมากๆ แล้วนี่มีการขยายสาขาเพิ่มไปอีก ก็คิดว่าเป็นตัวเลขที่ถ้าคนอยู่ในวงการนี้ ก็จ่ายได้เพราะมันเป็นกำไรสะสม เมก็รวมทุกๆ อย่างอยู่ในนั้น

จริงๆ หนูก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำว่าจำเลย ต่อให้มีกระแสขึ้นมา หนูไม่ได้รู้สึกอะไร ปลายทางเป็นยังไงไม่รู้ แต่เราอยู่กับความจริง ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย เราพูดกี่ครั้งก็เหมือนเดิม หลายคนอาจใช้ชีวิตทำทุกอย่างให้ได้เพื่อเงิน แต่ตัวหนูถ้ามันไม่ใช่ของหนู ถ้าเงินนั้นมาด้วยความผิดหรือไม่โปร่งใส หนูคงไม่ได้จะไปวิ่งตามมัน ถ้าสมมติหนูต้องได้อะไรมาแล้วไม่ใช่ของหนู หรือมันไม่บริสุทธิ์จริงๆ เมก็คงไม่ได้มายืนกรานอยู่ตรงนี้

อันนี้เมพูดด้วยความจริง ต่อให้จะเป็นยังไง เมก็มีแต่ความจริง จะหลบซ้ายหลบขวาจะเตะกัน จะเล่นกันเหลี่ยมแค่ไหน สุดท้ายก็มีความจริง วันนี้เมได้หลักฐานเยอะแยะมากมายในสังคม เมมีพนักงานเก่าๆ เข้ามาบอกว่าสู้ๆ นะคะคุณเม เข้าใจดีว่าเมได้รับอะไรมาบ้าง เพราะทุกคนผ่านไทม์ไลน์จริงข้อมูลจริง อดีตไม่สามารถแก้ไขได้ เอกสารอาจทำย้อนหลัง ทำเพิ่มให้แน่น ให้รัดกุมขึ้น เราอาจมีเอกสารตัวฝากหุ้นหรือโอนขายหุ้นก็จริง เอกสารชิ้นนั้นเขาเอามาเล่นเป็นประเด็นว่าเมขายไปแล้ว และเขามาซื้อน้อง ที่เขาแจ้งมา แต่เอกสารชิ้นอื่นๆ ที่เขาได้ทำขึ้นมา มันก็มาทีหลังทั้งหมด มันก็พิสูจน์ได้ในแต่ละหน่วย”

หลังแถลง ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ เลยจุดนั้นมานานมากแล้ว
“ไม่มีการติดต่อมาค่ะ เมว่าเลยจุดที่จะติดต่อกันมามากแล้ว เพราะอยู่ในศาล 6 เดือนก็ไกล่เกลี่ยเข้มข้นเหมือนกันนะ ตั้งแต่ม.ค.-ก.ย. จนตอนนี้เข้มข้นนะ ไปเจอต่อหน้าศาล ศาลก็ให้เวลา เพราะเขาเข้าใจ ศาลก็เหมือนนักธุรกิจเหมือนกัน เขาก็ดูออกเลย ทุกแมตซ์ก่อนไปเจอที่ศาลมันปวดหัว ไม่มีคนกลางจริงๆ พอไปเจอที่ศาล มีคนกลาง อันนี้คือตาชั่ง คือศาล มันเข้มข้นแล้ว แต่สุดท้ายไกล่เกลี่ยไม่ลงตัว ด้วยความที่ในมุมของเม เขาไม่อยากเสียสักบาทหรอก เขาคงเลือกวิธีที่ไม่ต้องเสียสักบาท หรือเสียน้อยที่สุดโดยไม่ต้องนึกถึงความสัมพันธ์ ข้อเท็จจริง ความถูกต้อง การมีมนุษยธรรม เขาไม่ได้นึกถึงอะไรแล้วตรงนั้น

ซึ่งถ้าโอนมาก็จบ เมก็พูดคำนั้นมาตลอด ถ้าจะให้เงินก็ต้องให้มันมากพอ ที่มันแฟร์ ยุติธรรม ไม่ใช่เอาไป 30 ล้าน จะ 30 ล้านได้ยังไง ในเมื่อกำไรสะสมมันเท่านี้ๆ ทำไมคุณทำแบบนี้ คุณเอาสเตทเมนต์มาสิ ถ้าคุณจะจ่ายเรา 30 ล้าน นี่คือแมตซ์แรกที่คุยกัน ในมุมเพื่อนๆ ยังเคารพกันอยู่บ้าง กำไรสะสมยังไม่ได้แบ่งกันเลย”

โคตรงงและผิดหวัง ไม่สู้กันตรงไปตรงมา สองหมอแยกสัมภาษณ์ยังตอบไม่ตรงกัน
“เมว่าสิ่งที่เขาชี้แจงต่อสังคมว่าเมขายหุ้น 3 แสน คงเป็นแนวทางการต่อสู้ เป็นสตอรี่ใหม่ เรื่องใหม่นั่นแหละ ที่เมก็ได้ยินพร้อมสังคมเหมือนกัน ปีกว่าที่ไกล่เกลี่ยกับเขา ไม่ว่าจะไกล่เกลี่ยกันเองหรือไกล่เกลี่ยในศาล เมโคตรจะงง และผิดหวัง เรียกได้ว่าวันนี้ไม่ได้สู้กันแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้สู้กันแบบนักมวย ใครแพ้หมัดต่อหมัด วัดความสามารถ วันนี้สู้กันด้วยผลประโยชน์ สู้กันแบบไม่ได้สนใจแล้วว่าอะไรมันคืออะไร ก็ผิดหวังและไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่เราเคยเคารพ หรือในโลกของธุรกิจ มันไม่ได้ขาวสะอาด หรือใสสะอาด ในโลกธุรกิจมันอาจเป็นเกมๆ นึงที่ตัวเราเองก็ต้องเรียนรู้ไปกับบทเรียนนี้เหมือนกัน มันมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงอีกเยอะ

จริงๆ อยากให้คุณหมอออกมาพูดทั้งสองท่านแหละค่ะ สัมภาษณ์แยกกันได้ แค่สัมภาษณ์แยกกันในศาล เขาก็ตอบไม่เหมือนกัน คนนึงตอบความจริง คนนึงต้องตอบให้ตรงกับคดี ก็เป็นความโป๊ะๆ ตลกๆ หนูไม่ได้มั่นใจในตัวคุณหมอ แต่คิดว่าถ้าเป็นเขาสองคน คนเราตอบเรื่องโกหกให้เป็นธรรมชาติมันยากนะ มันคงจะยากสำหรับเขาสองคน ที่จะมาพูดเรื่องโกหก เรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้น ให้เป็นธรรมชาติ เขาเลยเลือกไม่ออกมา เมรู้จักนิสัยใจคอของสองหมอประมาณนึง เรื่องจริงก็คือเรื่องจริง มันน้อยมากนะที่คนจะมาพูดเรื่องไม่จริงอย่างเป็นธรรมชาติได้ คนฟังเขาไม่ได้โง่ ถ้าออกมานั่งพูดแบบนี้ปุ๊บเมว่าทุกคนจับได้ คำถามพลิกแพลงไปหน่อยเขาก็ตอบไม่ได้แล้ว

การแถลงของเขา เหมือนเขาต้องเอาตัวรอด หนูเข้าใจว่าเขาต้องเอาตัวรอด เขาต้องหาเส้นเรื่องที่เขาจะสู้ทางคดีแบบนั้น มุมเขาก็ต้องเป็นแบบนั้นแหละ เขามีใบเอกสารใบนั้นใบเดียว สิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยเมว่าน่าจะการเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ เขาไม่คาดคิดหรอกค่ะ หนูเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าสังคมจะให้ความสนใจรับฟังปัญหาของหนู เขาเองก็ไม่ได้คาดคิดหรอกว่าเขาจะต้องมาทำเรื่องให้เสร็จอย่างรวดเร็วและมาตอบว่ามันคืออะไร ทุกคนเกินคาดกันไปหมด ทำให้เขาไม่สามารถพูดอะไรในเวลารวดเร็ว สำหรับเมนะ ทุกอย่างบีบบังคับให้เขาออกมา ถ้าเขาเลือกได้เขาจะเลือกไม่ออกมา เพราะไม่ได้เป็นผลดีต่อสิ่งที่เขาออกมาชี้แจง วันนี้ถ้าเขาพลาดหรือทำอะไร สิ่งที่เขาพูดจะมัดตัวทุกคนที่พูดโกหกค่ะ”
 
รับกังวลโพสต์ครั้งแรก เสียงแม่ค้าไม่มีความหมาย สู้เสียงหมอไม่ได้“ภาพลักษณ์เมกับตัวเขาวันนี้ เมอาจสู้ไม่ได้ เพราะเมเป็นแค่แม่ค้า เมมีแผลมีอะไรมา ถามว่ากังวลไหม สิ่งที่กังวลที่สุดคือเสียงเมไม่มีความหมาย วันนั้นที่เมโพสต์ เมคาดหวังเพียงสิ่งเดียว เมอาจไม่ได้รับความยุติธรรมก็ได้ แต่ว่าวันนี้เมได้เอาปมในใจออกไป นั่นคือเป้าหมายการโพสต์นะ เมไม่ได้คิดเลยว่าคนจะเห็นใจ เข้าใจ คนจะรับฟังหรือสนใจหรือเปล่า

เมไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย แต่สิ่งที่เมจมอยู่คือขอให้ได้เอาเรื่องนี้ออกไปหน่อยแล้วกัน เพื่อเราจะได้มูฟออนไปข้างหน้าได้ เรารู้สึกว่าเราจมอยู่นานเหลือเกิน เรามีลูก มันเครียดจริงๆ พอทุกคนให้ความสนใจ พี่ๆ สื่อถามเรามากขึ้นว่าข้อเท็จจริงคืออะไร ทำให้เมมีกำลังจะพูดจะบอก ทุกสื่อถ้ามาจากเมขอให้มั่นใจได้ไหมว่ามันคือความจริง เมก็พยายามโชว์หลักฐานที่สุดเท่าที่จะโชว์ได้
 
ตอนนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ ไม่ได้คาดหวังว่าจะมาถึงตรงนี้ ขอแค่เราหลุดพ้นจากความเครียดนี้ ขอแค่ลูกเรา ครอบครัวเรามีความสุขขึ้น มันเหมือนต้นไม้เหี่ยวตายไปแล้ว เราขอแค่เรามีกำลังใจขึ้นมาทำงานได้ไหม เพราะคนที่แย่ที่สุดคือเม เราอยากระบาย ไม่ได้คิดไปไกลเลย เอาจริง จะมีเงินไปจ้างสื่อ ไปออกรายการ เราคงไม่ได้เอาเงินไปทำสิ่งนั้นแล้ว เรามีลูกมีอะไร

เมกังวล เมเชื่อว่าเมพูดกับเขาพูด เสียงเมคงไม่ดังหรอก ใครจะเชื่อเม เมไม่ได้คิดถึงตรงนั้น อยู่แล้ว เมโพสต์แค่ให้ตัวเมได้หลุดพ้นจากความทุกข์นี่ เป็นเป้าหมายเดียว ให้เป็นบทเรียนที่เมจะส่งต่อให้คนอื่นได้ว่ามันมีสิ่งนี้เกิดขึ้น คาดหวังแค่นั้นจริงๆ

จริงๆ เขาก็รู้นะว่าเมพูดเรื่องนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเมมีสิ่งเดียวในมือคือสื่อเมโพสต์ทำลายชื่อเสียงเขาได้ เขาอาจจะคิดแบบนั้น แต่ภาพลักษณ์ต่างกันมาก เขาอาจคิดว่ามันทำอะไรกูไม่ได้หรอก เรื่องนี้คงหายไปแบบเงียบๆ”

ร่ำไห้เป็นปมในใจ ชีวิตเริ่มต้นใหม่หมดแล้วตั้งแต่เป็นแม่ลูกแฝด
จริงๆ เป็นปมของเมเองแหละ คนเคยมีปัญหามา มันก็จะระวังตัว ระแวงไปเองไปหมด แต่ทุกอย่างก็เริ่มดีขึ้นหมด สภาพจิตใจทุกอย่างดีขึ้นหมด (ร้องไห้) เมคิดว่าเมเริ่มใหม่หมดแล้วตั้งแต่เมได้เป็นแม่ของแฝด ได้เริ่มใหม่หมดแล้ว (ร้องไห้)
ตอนนั้นเหมือนเมติดปมตัวเองไปด้วยแหละ หลายคนอาจลืมไป แต่เราได้รับบทเรียน เราก็ติดอยู่ตรงนั้น (ร้องไห้) แต่สิ่งที่เริ่มใหม่คือลูก เราอยากเติบโตอีกครั้งนึงในการอยู่กับครอบครัว เหมือนพาร์ตนั้นมันจบไปแล้ว เราไม่อยากไปแตะ เอาจริงๆ มันเด็ก มันวัยรุ่น ก็มั่นใจตัวเอง ความสุขวัยนั้นคือแบบนั้นจริงๆ ต่อให้กลับไปแก้ไขอดีต หนูก็คิดว่าหนูทำดีที่สุดที่หนูทำได้ตอนนั้นจริงๆ มันก็อาจถูกใจคนนั้นบ้าง ไม่ถูกใจคนนี้บ้าง เราเองก็ไม่รู้ จนเราได้รับผลกระทบตามมา แต่ ณ วันนี้หนูเองมีชีวิตใหม่ หนูอยากเริ่มต้นเป็นแม่ที่ดีของลูกทั้งสามคน อยากเป็นภรรยาที่ดี อยากเลี้ยงดูครอบครัวให้มีความสุขที่สุด แต่เหมือนพอเราจมไป ไม่ได้ปลดล็อก มันก็ติดอยู่

ตอนแถลง เขาพูดเสมอว่าเมเครดิตไม่ดี มีข่าวเสียหาย แต่ตอนเป็นเพื่อนกันเขาไม่ได้พูดตรงๆ เมเคยได้ยินในศาล ได้ยินตอนมีปัญหากันแล้ว รู้ว่าเขาจะเอาประเด็นนี้มาดิสเครดิตเม ตอนร่วมหุ้นกัน 4 คนไม่เคยได้ยินคำนี้ว่าเมอย่าออกหน้านะ เพราะเมมีข่าวไม่ดีมาก่อน ตอนเป็นหุ้นส่วนกัน 4 คน เรามีชื่อเสียงที่สุดในบรรดา 4 คน เขาเองยังไม่ได้ดังเลยในวันนั้น ก็ไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น เพิ่งมาได้ยินว่าฉันเครดิตไม่ดี ฉันเคยมีดรามา มีจุดด่างพร้อยมา ตอนมีปัญหา อยู่ในศาลแล้ว และจนตอนที่เขามาพูดในรายการ อันนี้ชัดมากๆ นี่คือมุมเมเองนะไม่รู้เมคิดมากไปหรือเปล่า มันคือการดิสเครดิตเมนั่นแหละกับแผลที่เมเคยมี
 
ถ้าเมเคยได้ยินประโยคแบบนี้หรือความคิดแบบนี้มาบ้าง เมว่าความสัมพันธ์มุมธุรกิจก็อาจอยู่กันได้เพื่อผลประโยชน์ แต่สัมพันธ์ที่ต่อยอดเป็นเพื่อนเป็นพี่เราเองคงไม่ได้จะไปเคารพไปรักเขามาก วันนี้ที่เจ็บปวดคือหนึ่งมันคือธุรกิจหลักของเราเหมือนกัน กับสองมันคือความสัมพันธ์ คือคนที่เราเคยเคารพเคยรัก ไม่ต่างจากแฟน มันคือเพื่อนพี่ เมยอมรับว่าเมเจ็บ”

ขอบคุณคลินิกต่างๆ ออกมาพูดซัปพอร์ตเสียงของตน
“ในมุมธุรกิจคลินิกหมอด้วยกันที่ออกมาพูด เมก็ไม่ได้ไปรับรู้หรือรู้ลึกซึ้งหรอกค่ะ แต่ตรงนี้ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ การที่ทุกคนออกมาพูดอะไรบ้าง มันก็ทำให้ตัวเมมีน้ำหนักขึ้นเหมือนกัน มันไม่ใช่ว่าเมเจอสิ่งนี้คนเดียว คนอื่นก็เจอกัน คนอื่นก็พอจะเดาได้ว่าสิ่งที่เขารับมามันไม่ตรงกับสิ่งที่เขาให้กับทางสังคม ตัวเมที่เคยไม่มั่นใจว่าเสียงอาจไม่ดัง ใครไม่ฟังเม ก็ทำให้เมใจชื้นขึ้นมา เพราะมีบุคคลที่น่าเชื่อถือในวงการธุรกิจออกมาพูดตรงนี้กันเยอะ จากคนมีประสบการณ์กับคนกลุ่มนี้

มันคือข้อเท็จจริงเดียวกัน มันคือความจริงเดียวกัน ไทม์ไลน์เดียวกัน มันคือคนผ่านช่วงเวลาเดียวกัน แต่วันนี้อาจไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียที่จะต้องออกมานั่งพูดตรงนี้ เขาเลยให้กำลังใจกันเท่าที่ทำได้ในพาร์ตนั้นๆ ค่ะ”

ยอมรับเซ็งและน่ารำคาญ คดีใช้เวลานานขนาดนี้ ลั่นเผชิญหน้าต้องเขินกันบ้าง
หนึ่งเลยรู้สึกเซ็งที่นานขนาดนี้ เซ็งที่เรามีเวลาให้เขาเตรียมตัวอีกแล้ว พูดกันตรงๆ เลย ถ้าเมเป็นโจทก์นะ เมคงรุกในการฟ้องๆ ทำให้เร็วที่สุด เอาคนผิดมา หรือพยายามบอกตัวเอง ถ้าเราไปฟ้องเขา แต่วันนี้กลายเป็นเรื้อรัง เป็นบาดแผลที่ไม่จบไม่สิ้น ที่เมโพสต์เพราะเมอยากจบ อยากไปใช้ชีวิตของเม แต่วันนี้ไกล่เกลี่ยธ.ค.ปีหน้าอีกปีกว่า เหมือนแผลนี้จะติดตัวเรา ต่อให้เรารอได้แต่มันก็ไม่จบ เหมือนชีวิตมีอะไรห้อยหลังอยู่ตลอดเวลา มันก็น่ารำคาญนะ

เราเป็นจำเลยที่พร้อมสู้ หนูไม่เคยเลื่อนนัด ที่ผ่านมาคนเลื่อนนัดคือเขาหมด หนูวันไหนวันนั้น ทุกอย่างหนูพิสูจน์ได้อยู่แล้ว แล้วหนูจะเลื่อนนัดทำไม เมไม่ได้กลัวอะไร หนูไม่กลัวการเผชิญหน้า หนูอยากเจอ การคุยกันจะรู้ดีที่สุดว่าความจริงคืออะไร มันต้องมีเขินกันบ้างแหละ เขินในการมองตากันบ้างแหละว่าพูดอะไรกันออกมา วันนี้ผ่านคนกลาง คนกลางคือทนาย ทนายเอามาคุยกันไม่ได้เลย ภาษากฎหมายมันดูถึงความจริงใจก็บอกกันได้ยากแล้ว”

ปลงได้แต่ก็เจ็บทุกครั้ง ขออยู่ให้ห่างไกลคนพวกนี้ ฝากทิ้งท้ายแซบ ไม่อายกันบ้างเหรอ?
หนูมองว่าถ้าวันนึงหนูมีความสุขมากๆ แล้วอยู่กับลูกกับผัว หนูก็คงไม่ไปติดใจอะไรเขาหรอก ชีวิตนี้จะอยู่ให้ห่างไกลคนพวกนี้ให้มากที่สุด มันไม่ใช่เรื่องแรกที่เราผิดหวังหรือเสียใจ เราอยู่ตรงนี้มาไม่มากก็น้อยเราเจ็บมาโดยตลอด วันนึงหนูเชื่อว่าเรื่องนี้มันจะดีขึ้น คนกลุ่มนี้ หรือบทเรียนครั้งนี้ ก็จะได้เป็นภูมิคุ้มกันของเราในการใช้ชีวิตข้างหน้า เพราะเราอายุเท่าไหร่เอง เรายังต้องเติบโตอีกมากในอนาคต ให้อภัยได้ไหม จนสุดท้ายไหม ไม่โกรธไม่เกลียด อันนี้ไม่รู้จริงๆ แต่ว่าก็คงปลงได้บ้างแหละ เพราะวันนี้ก็ดีขึ้นเยอะ ตอนทะเลาะกันแรกๆ ก็เป็นฟืนเป็นไฟเหมือนกัน เพราะมันเจ็บ แต่วันนี้พูดด้วยความเข้าใจว่าใครๆ ก็อยากมีผลประโยชน์ เงินใครก็อยากได้ ก็เข้าใจ

ฝากบอกว่าผิดหวัง คุณอาจชนะในศาลอย่างที่คุณมั่นใจ ซึ่งเราไม่รู้ แต่อย่าลืมว่าที่คุณแถลงว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และทองแท้ไม่แพ้ไฟ สุดท้ายคุณจะชนะศาลคนเดียวกับความจริง คุณรู้อยู่แก่ใจ ตายไปเงินเอาไปได้ไหมล่ะ เงินจำเป็นแหละ แต่ไม่อายกันหน่อยเหรอ มีหน้ามีตาทางสังคม มีความรู้ มีการศึกษา มาโกหกกันแบบนี้ได้เหรอ











กำลังโหลดความคิดเห็น