"นก สินจัย" ใจหาย เสียใจ ภูมิใจที่สุดที่ชีวิตนี้ได้เคยรับใช้ถวายงานใกล้ชิด สมเด็จพระพันปีหลวง หลายครั้ง ทั้งในเรื่องของการเล่นการแสดงละครเวทีและไปเดินแบบผ้าไหมไทยต่อหน้าพระพักตร์ และสิ่งที่พระองค์เคยทำตอนนี้ก็มีผู้สืบสานต่อแล้ว
เป็นอีกคนหนึ่งที่เดินทางไปร่วมส่งเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยื สำหรับนักแสดงมากความสามารถอย่าง "นก สินจัย เปล่งพานิช" ซึ่งหลังจากที่ขบวนพระศพเคลื่อนผ่าน เจ้าตัวก็ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ และเผยว่าแม้จะทำใจกันมานานแล้ว แต่พอถึงวันนี้จริงๆ ก็ใจหายและเสียใจมาก
"นกว่าความเงียบทุกอย่างด้วยที่ทำให้เรารู้สึกว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะมาส่งเสด็จพระองค์ท่านนะคะ ก็รู้สึกใจหาย (น้ำตาซึม) ก็นึกถึงตอนเราเด็กๆ หรือตอนที่เราเคยได้ชื่นชมพระองค์ท่าน เราเคยมารับเสด็จท่าน วันนี้ได้มาส่งเสด็จ ก็คิดว่าทำหน้าที่ของคนไทยได้อย่างสมบูรณ์แล้ว (น้ำตาไหล) จำได้ว่าตอนเด็กๆ นกอยู่โรงเรียนพญาไท ก็จะอยู่ใกล้ๆ วัง จะเห็นท่านบ่อยๆ เวลาพ่อมารับแล้วขบวนเสด็จผ่าน ก็จะเห็นตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งเข้ามาทำงานในวงการก็มีโอกาสรับใช้ถวายงาน และเคยได้เล่นละครเวทีหน้าพระที่นั่งก็หลายครั้ง เรียกว่าเคยได้ถวายงานท่านหลายครั้งมาก ก็เลยรู้สึกว่าภาพตรงนั้นกลับมา ก็รู้สึกเอ่อล้น" (เสียงสั่น)
"รู้สึกเป็นบุญมาก ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสทำงานถวาย ได้เห็นพระองค์ท่านใกล้ชิดขนาดนี้ ทั้งทุกๆ พระองค์เลย มาถึงวันนี้ก็รู้สึกว่าท่านทรงงานมามากแล้ว ท่านก็คงได้พักผ่อน และคงได้ไปเจอกับรัชกาลที่9 ก็ให้ท่านพักผ่อนได้ดีแล้ว เรารู้สึกภูมิใจมากในชีวิตแล้ว นกเชื่อว่าหลายๆ คนรู้สึกอย่างนั้น อาจจะเพราะว่าเราเห็นท่านมานาน เห็นท่านทรงประชวรมานานแล้วด้วย ไม่ได้ออกงาน ทุกคนก็มีความเป็นห่วงตลอดเวลา แต่เมื่อถึงวันนึงเราก็มีความเข้าใจว่าสุดท้ายแล้วก็ต้องมีวันนี้ แต่สุดท้ายทุกคนก็คงมีความรู้สึกเหมือนกันว่าเสียใจ เสียดาย แต่ก็จะเก็บสิ่งที่ดีๆ เอาไว้เป็นกำลังใจ เป็นพลังให้คนที่ยังอยู่ยังเดินต่อไปได้โดยมีพลังใจจากท่าน พลังจากที่ท่านทำทุกอย่างมาตลอดเวลาค่ะ"
พระพันปีหลวงทรงยิ้มดีใจทุกครั้งที่ได้ชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย
"ตอนที่ได้ถวายงานท่านก็ไม่ได้ตรัสอะไรเป็นพิเศษ ส่วนมากก็จะทำงานถวายกันหลายๆ คน เวลาที่ไปงานของมูลนิธิศิลปาชีพที่พระตำหนักภูพาน ก็จะมีนักแสดง มีนางแบบหลายๆ คน ท่านก็จะเลี้ยงและรับสั่งชื่นชมทุกคน เพราะทุกคนจะไปเดินแบบผ้าไหม ผ้าไทยที่ท่านให้ชาวบ้านทอเข้ามาและประกวดกัน ท่านก็จะขอบใจทุกๆ คนที่มาช่วยทำให้ชาวบ้านมีความสุข นั่นก็จะเป็นพระราชเสาวนีย์ทุกครั้งที่เวลาไปถวายงานท่านค่ะ"
"วันที่ท่านได้ไปชมละครเวที จำได้ค่ะ ท่านจะทรงพระสรวลตลอด จะยิ้มตลอด จะชื่นชมมากเวลาทำงาน ท่านจะมีความสุขเวลาที่ได้เห็นศิลปะวัฒนธรรม ได้เห็นการแสดง จะเห็นรอยยิ้มท่านตลอดเวลา นี่คือกำลังใจของประชาชนที่ทำงานอยู่ตรงนั้นและอยู่ในสายพระเนตร นกก็จะแอบมองท่านนิดหน่อยตอนพระราชทานดอกไม้ จริงๆ นกก็ไม่ค่อยกล้ามอง แต่รู้สึกว่าครั้งเดียวในชีวิตนะ เราก็อยากเห็นพระองค์ท่าน เราก็แอบมองบ้าง"
พร้อมจะสืบสานประเพณีและศิลปะทุกอย่าง โดยเฉพาะผ้าไทยต่อไป
"สิ่งที่อยากจะสืบสานต่อจากพระองค์ท่าน สิ่งที่เห็นชัดๆ ก็คงเป็นเรื่องของโขนและเรื่องของผ้าไทยของมูลนิธิศิลปาชีพทุกอย่างที่พระองค์ท่านทรงดำเนินมาตลอด และตอนนี้ก็มีพระองค์หญิงที่สืบนานต่อ ตรงนี้ก็เป็นความภาคภูมิใจของเราด้วย ถ้ามีอะไรที่เราทำได้ก็อยากจะทำ รู้สึกว่ามันเป็นการสืบทอดที่ดีมาก มันเป็นการสืบสานทั้งประเพณี ศิลปะทุกอย่างในเรื่องของผ้าไทยค่ะ"
"สิ่งที่ยังยึดมั่นถึงพระองค์ก็คือการทรงงานของพระองค์ค่ะ และการที่อยู่เคียงข้างในหลวงรัชกาลที่9 ตลอด ไม่ว่าพระองค์ท่านจะเสด็จไปทรงงานที่ไหน จะลำบากหรือยุ่งยากแค่ไหนท่านจะอยู่ข้างๆ เสมอ นั่นคือสิ่งที่เราเห็นมาตลอดตั้งแต่เด็ก นั่นคือสิ่งที่อยู่ในความทรงจำของเรา เราไม่เคยเห็นท่านไปไหนเดี่ยวๆ หรือไปไหนคนเดียวเลย ท่านก็จะทำคู่กันไป นั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกว่าท่านทำเพื่อคนอื่นอยู่ตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่เราเก็บเป็นหลักธรรมไว้ในใจเราว่าท่านอยู่ในจุดที่สูงสุด แต่ท่านยังห่วงในคนที่อยู่รอบๆ ตัวท่านได้หมด"


