“เข้ม - มุกดา” กลับมาเล่นคู่กันในรอบ 2 ปี จูนติดไวเพราะรู้จังหวะกันอยู่แล้ว บอกเรื่องนี้คงไม่ฟินจิกหมอน ออกแนวต้องเอาใจช่วยมากกว่า รู้แฟนๆ ตั้งตารอ แต่อยากให้สนุกและเอ็นจอยกับทุกผลงาน วอนเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ เก็บภาพเดิมไว้เป็นความทรงจำ ให้กำลังใจ “หนิง ปณิตา” หลังอาหารเสริมที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตรวจพบสารต้องห้าม
ใกล้จะได้ดูกันแล้ว สำหรับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ “ทวิญ ร่างฉัน วิญญาณเธอ (Decalcomania)” ที่ได้พระนางคู่จิ้นอดีตช่อง 7 อย่าง “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” และ “มุกดา นรินทร์รักษ์” มาประเดิมเล่นคู่กันในรอบ 2 ปี หลังย้ายสังกัดมาอยู่ช่องวันแบบแพ็กคู่ โดยในงานเปิดตัวซีรีส์เรื่องดังกล่าว ทั้งสองคนก็ได้ออกมาเปิดใจ ถึงการโคจรกลับมาคู่กันอีกครั้ง ในสังกัดใหม่ ว่าอยากให้ทุกคนรอติดตาม เพราะจะได้เห็นการเติบโตในอีกแบบหนึ่งแน่นอน
เข้ม : “2 ปีได้ครับ ที่เราไม่ได้ทำงานร่วมกันจริงจัง ในเรื่องของการถ่ายทำ แต่ก็จูนกันติดได้ไว เพราะด้วยจังหวะ ด้วยอะไร เราก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นยังไง”
มุกดา : “เราไม่ต้องรื้อฟื้นอะไรกันมาก เพราะเราเล่นกันหลายเรื่องแล้ว แต่ก็อาจจะปรับจูนในเรื่องคาแรกเตอร์ที่เราเล่นด้วยกันในเรื่องนี้ค่ะ ครั้งนี้เรากลับมาในแบบที่เรารู้จักกันอยู่แล้วตั้งแต่แรก ละครก่อนหน้านี้เราอาจจะรักกัน แต่อันนี้จะเป็นความเป็นห่วงซึ่งกันและกัน เชื่อว่าถ้าแฟนๆ ดูจะรู้สึกเป็นกำลังใจให้เราสองคน ว่าเมื่อไหร่เขาจะบอกความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ก็จะได้เห็นเชิงนี้ในเรื่องนี้”
เข้ม : “ความรักครั้งนี้มันยากครับ มันมีภาวะที่เราต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งบททำออกมาสนุกมาก ผมเชื่อว่าทุกคนจะชอบ มันคงเป็นอีกคาแรกเตอร์หนึ่งที่เราได้รับ อาจจะไม่ได้หวานมาก โรแมนติกมาก อยู่บนเตียงมาก เข้มว่ามันเป็นความรักที่ต้องเอาใจช่วย ตัวละครเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก ความใกล้ชิด การดูแลเอาใจใส่ มันเป็นการกระทำมากกว่าคำพูด”
มุกดา : “ที่บอกว่าต้องให้กำลังกับความรักของทั้งคู่ เพราะต่างคนต่างไม่พูดค่ะ แล้วก็มีอุปสรรคหลายๆ อย่างในเรื่องด้วย มีหลายๆ ปม ที่ทุกคนจะได้เจอ มันก็เป็นหนึ่งอุปสรรคเล็กๆ อาจจะเป็นเหตุผลที่เราไม่บอกความรู้สึกซึ่งกันและกัน ฉากโรแมนติกก็จะอยู่ในภาวะที่แย่มากๆ มันถึงสถานการณ์ที่ต้องพูดแล้ว ก็เลยพูดเลย”
เข้ม : “ง่ายๆ คือถ้าไม่มีเรื่องรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิต ก็คงไม่ได้บอกความรู้สึกต่อกัน ในพาร์ตความโรแมนติกมันจะเก็บงำตัวเองมา จนกระทั่งความอันตรายมาอยู่ใกล้คนที่เราเป็นห่วงมากๆ เลยรู้ว่าเราขาดเขาไม่ได้ เราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขากลับมาปลอดภัย และอยู่ในสายตาของเราเหมือนเดิม”
ปาหมอนทิ้งไปได้เลย เพราะไม่มีซีนจิกหมอน
เข้ม : “ต้องรอดู ช่วงที่ดูผมว่าต้องเปิดแอร์ให้เย็นๆ เลย เพราะความเร่าร้อนในเรื่องราว มันจะต้องเอาใจช่วย”
“มุกดา” ยอมรับทุกผลงานมีความกดดัน เพราะแฟนๆ ตั้งตารอ แต่อยากให้สนุกและเอ็นจอยไปกับมัน
มุกดา : “มุกว่าทุกผลงานมันมีความกดดันอยู่แล้วค่ะ แต่อย่างที่พูดเสมอทุกผลงาน ว่าเราอยากให้ทุกคนสนุกและเอ็นจอยกับมัน ถามว่าคาดหวังไหม พูดตรงๆ ว่าคาดหวังหมด แต่เราอยากให้ทุกคนสนุกกับการดูมากกว่า ดูอะไรที่มันใหม่ๆ ที่เราต้องการนำเสนอให้ได้เห็นหลายๆ มุมมองในการแสดง ก็อยากให้ทุกคนติดตามชมค่ะ”
“เข้ม” ไม่กดดัน เพราะอยากสร้างผลงาน หลังมาร่วมงานกันช่องวันครั้งแรก
เข้ม : “ไม่กดดันครับ เราเข้ามาด้วยความตั้งใจ ที่อยากจะสร้างผลงานให้กับตัวเอง ในเรื่องแรกที่เราได้มาอยู่ที่นี่ รู้สึกอยากจะพัฒนาเพิ่มเติม ในเรื่องของการทำงาน ความกดดันผมว่าผมมีน้อย เพราะไปโฟกัสที่การทำงานทั้งหมดแล้ว ผมอยากทำงานให้ทุกคนเข้าใจ ว่าสิ่งที่ผมมีอยู่มันสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ อยากให้ทุกคนได้ดู มันเป็นอะไรใหม่ๆ สำหรับเราสองคนด้วย”
ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเรตติ้ง ให้ความเครียดเป็นเรื่องของผู้บริหาร
มุกดา : “หนูไม่ได้ซีเรียสค่ะ อย่างที่บอกว่าอยากให้ทุกคนลองเปิดใจดู และสนุกไปกับมันก่อน”
เข้ม : “ให้ความเครียดเรื่องนี้ เป็นเรื่องของผู้บริหารดีกว่า (หัวเราะ) เรารับผิดชอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเรื่องการทำงานของตัวเอง เรื่องตัวเลขเรื่องอะไร ผู้ใหญ่อยากให้พวกผมทำอะไรเพิ่มเติมบอก”
ภาพจำที่ผ่านมายังเก็บเป็นความทรงจำ ตอนนี้อยากให้เปิดรับอะไรใหม่ๆ
เข้ม : “ก็ยังคงเก็บในความทรงจำแหละครับ ผมว่ามันไม่สามารถที่จะลืมได้อะไรได้หรอก แต่ก็ให้มันเป็นชุดความคิดใหม่ๆ ความรู้สึกใหม่ๆ ที่จะได้เจอเราสองคน ในอีกเวอร์ชั่น อีกรูปแบบหนึ่ง อาจจะโตมากกว่าปีที่แล้ว เรื่องที่แล้ว”
มุกดา : “เรื่องนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เห็นการแสดงใหม่ๆ ค่ะ เป็นเรื่องที่มีการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ ก็จะได้เห็นการเติบโตของเราทั้งคู่ในอีกแบบหนึ่ง”
เข้ม : “ก็จะได้เจอเข้มในเวอร์ชั่นช่องวันครับ ก็จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ พอได้มาอยู่ที่นี่ ในการต่อรอง ในการพูดคุยกับผู้ใหญ่ เราก็มีความเป็นตัวเอง ว่าผมอยากจะทำอะไรมากขึ้น อยากทำรูปแบบไหน ก็คงเห็นอะไรที่มันต่างจากเดิมบ้าง (เรื่องหน้าอยากเล่นอะไรกับช่องวัน?) ต้องดูคาแรกเตอร์เลยครับ ต้องดูว่าบทที่จะเข้ามาหาเราในเรื่องต่อไป เราอยากทำมันไหม ทุกๆ องค์กรมีงานของตัวเองที่ดีอยู่แล้ว ถ้ามันมีอะไรที่มันตรงกับจริตที่เราอยากทำ ก็จะลองพิจารณารับดูครับ”
มุกดา : “สำหรับมุกบทแบบไหนได้หมดค่ะ อยู่ที่เราเราอ่านแล้วรู้สึกว่ามันแปลกใหม่สำหรับเรา มุกไม่มีในหัวหรอกว่าอยากเล่นอันนี้ๆ ถ้าส่งบทมาแล้วเรารู้สึกอยากเป็นตัวละครนี้ นี่แหละคือตัวเลือกที่มุกใช้เลือกในการรับงาน อยากเล่นในสิ่งที่มันใหม่สำหรับเรา”
มองเป็นเรื่องปกติ ที่บางคนก็อยากให้เล่นคู่กัน แต่บางคนก็อยากให้ลองแยกกันดูบ้าง
มุกดา : “มุกว่ามันเป็นเรื่องปกติค่ะ เราอยู่ในวงการบันเทิง แล้วอยู่ด้วยกันด้วย การที่เราจะมาเจอกันมันไม่ใช่เรื่องแปลก และการที่เราจะเจอเคมีใหม่ๆ มันก็ไม่แปลก มันก็วนเวียนเป็นวงกลมเรื่อยๆ ค่ะ ที่สำคัญแค่อยากให้ทุกคนติดตามและซัปพอร์ตเราทั้งคู่”
เข้ม : “เสียงในหัวผมเยอะมากเลยตอนนี้ แบบเชี่xพูดได้เปล่าวะ (หัวเราะ) ตาลอยมากเลยตอนนี้ ไม่มีๆ เดี๋ยวมันเลยเถิดครับ เพราะพักหลังๆ ผมแพ้เสียงในหัวตัวเองบ่อยมาก จริงๆ ความเป็นเข้มมุกมันไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ มันก็ยังคงอยู่ ไม่ได้ต่างไปจากเดิม ในเรื่องผลงานถ้ามันมีอะไรที่ตรงกัน ก็คงได้เล่นร่วมกัน แต่ถ้าเกิดว่าเคมีบางอย่าง ที่เราต้องไปคู่กับคนอื่นในอนาคต เราก็อยากให้มันเกิดขึ้น เพราะเราอยากทำงานในรูปแบบที่เราอยากจะทำจริงๆ”
เป็นกำลังใจให้ “หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ” หลังอาหารเสริมที่เคยเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตรวจพบสารไซบูทรามีน
เข้ม : “ก็เป็นกำลังใจให้แม่จ๋านะครับ ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันมีเหตุและผลของมัน ไม่ต้องไปกังวล ถ้ามีอะไรเร่งด่วนที่เราสามารถช่วยได้ เราจะไปอยู่ตรงนั้นในทันที เพิ่งรู้เลยเพราะตอนที่เรากินข้าวกัน เราคุยแค่อนาคตณิรินอยากเป็นไอดอล K-Pop ไม่ได้คุยเรื่องอื่นเลย แต่ปัจจุบันความแรงของพี่หนิงเขาซอฟต์ลงเยอะเลยนะ เขาใจดีมาก ไม่ได้คิดอะไรกับใครแล้ว ความใจร้อน ความขี้วีนมันหายไปหมดแล้ว ผมเลยไม่รู้ว่าพอมันหายแล้ว ทำไมถึงมีคนที่จะมาทำร้ายเขา ไม่ดีเลย”


