“ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” เข็ดงานไลฟ์สด แต่จ้างได้คิดแพงมาก เบื่อดรามาหลังโดนถล่มหนักทำไลฟ์ "เจนนี่" ปลิว โอดเหมือนไปฆ่าคนตาย เผยซื้อบ้านร่วมกับ "ไมค์ ภัทรเดช" 100 ล้าน
เกิดอาการน้อยใจชาวเน็ตถึงขั้นออกมาตัดพ้อว่าจากนี้จะไม่ไลฟ์สดอีกต่อไปแล้ว จากกรณีที่ “ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล” และ “ไมค์ ภัทรเดช สงวนความดี” ไปไลฟ์สดขายของในติ๊กต๊อก "เทศกาลเจนนี่" แล้วจู่ๆ ก็หยิบสินค้าอื่นที่ไม่ได้ปักตะกร้ามาพูด ทำให้ไลฟ์ปลิว ซ้ำปุ๊กลุกยังโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตะโกนพูดเสียงดังหนวกหู เรียกว่าดรามาสนั่น ที่งาน “EveryONE Thailand : ข่าวดีเพื่อทุกคน” ปุ๊กลุก-ไมค์ ได้ออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในมุมของตนเองว่า…
ปุ๊กลุ๊ก : “ความรู้สึกตอนแรกพูดตรงๆ เรามีความรู้สึกสนุก เราชอบเอ็นเตอร์เทนคนในช่องเรามันเป็นเรื่องปกติเลย แต่บางทีเราก็ลืมนึกไปว่าแฟนๆ ของแต่ละช่องมีความชอบแตกต่างกัน ก็เป็นจุดที่ทำให้เรียนรู้และเติบโตขึ้น เราอาจจะเป็นคนที่ไม่คิดอะไรซับซ้อน เราอยากจะสนุกกับการไลฟ์ เราลืมคิดถึงความพอดีของแต่ละช่องไป ก็ต้องเรียนรู้ในเรื่องนี้ จุดแรกมันเป็นความรู้สึกเสียใจ เจตนาของเราค่อนข้างจะบริสุทธิ์มากๆ ฟิตแบกหลังจากนั้นมันทำให้เรารู้สึกว่าเหมือนเราไปฆ่าคนตาย มันดูเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น"
"สิ่งที่แย่ที่สุดคือเรารู้สึกว่ามันจะมีคอมเมนต์ว่าเราไปทำให้ เจนนี่- ยิว ไม่โอเครึเปล่า ก็เลยมาคุยกันว่ามันจริงไหม เหมือนเราไปรบกวนเจ้าของพื้นที่ หลังจากที่ได้คุยกันก็สบายใจมากๆ รู้เลยว่าจริงๆ แล้วท่ามกลางปัญหาที่คิดว่ามีหลายคนไม่เข้าใจ ยังมีคนอีกมากๆ ที่รักเรา คือจากนี้จะไม่พูดเสียงดังอีกแล้ว คือเสียเซลฟ์ไปเลย แต่พอมีคนเข้ามาชื่นชมในสิ่งที่เราเป็น เราไม่ได้ไปทำร้ายใคร ก็รู้สึกว่าอยากจะกลับมาสร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้คนอื่นอีกครั้ง แต่อาจจะอยู่ในพื้นที่ของตัวเองการได้ไปพื้นที่ของคนอื่นเราก็ได้เรียนรู้และเติบโตขึ้นจริงๆ ขอบคุณมากๆ สำหรับแฟนคลับทุกคน"
"เวลาเราทุกข์เราทุกข์แรงมาก เพราะเราเห็นเสียงเยอะมากแต่วันที่เรามีความสุข เราต้องการกำลังใจเราก็ได้รับมาเยอะเช่นเดียวกัน ขอบคุณมากๆ ที่รักและสนับสนุนในทุกๆ อย่าง แม้บางครั้งเราอาจจะไม่ได้น่ารักตลอด 24 ชั่วโมง มีบางมุมทึ่เราไม่เพอร์เฟคสำหรับใครแต่ก็ยังมีคนที่รักและพร้อมสนับสนุนเรา เราไม่ค่อยมีเรื่องดรามาเพราะเป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก แต่ครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่รักและสนับสนุนเรา"
"เราไม่เคยรู้เลยว่ามีคนรักในการไลฟ์สดของเราจนวันนี้ บางทีก็มีคนชอบเสียงหัวเราะของเรานะ ชอบให้เราเอ็นเตอร์เทน ขอบคุณมากๆ ก็จะพัฒนาในทุกๆ งานตลอดไป สิ่งไหนเป็นสิ่งที่เราต้องพัฒนา เติบโตขึ้นและปรับปรุงตัวเองยินดีน้อมรับ จากนี้ก็จะพัฒนาต่อไป จะระวังให้มากขึ้นไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตามแต่ ก็จะมีความสุขในสิ่งที่เราทำแบบนี้ตลอดไปตราบที่ยังมีคนสนับสนุนและซัพพอร์ตอยู่”
ตอนนี้กำลังใจกลับมา 90% ที่เหลืออยู่ระหว่างการตกผลึก
ปุ๊กลุก : “เราไม่ได้ได้เงินเยอะจากการไลฟ์สด แต่เราได้เงินจากการรีวิวสินค้าเยอะ เราไม่มีปัญหาด้านการเงินหากไม่ได้ไลฟ์สด แต่การไลฟ์มันทำให้เราได้เจอแฟนคลับ เลยบอกไมค์มันสนุกดีนะ”
ไมค์ : “การไลฟ์มันทำให้เขามีความสุข ก็เลยพยายามเอ็นเตอร์เทน”
ปุ๊กลุก : “เราเห็นคนดู 3 แสนเรา เราก็เอาเต็มที่เลย เราคิดแค่ว่าเราอยากให้เขามีความสุข ตอนนี้กลับมาประมาณ90 สัก 10 เป็นช่วงตกผลึกว่าจริงๆ แล้วสิ่งไหนทึ่เราต้องปรับจริงๆ หรือบางอย่างก็ต้องชั่งน้ำหนัก ก็น้อมรับทุกความเห็น คนที่เป็นลูกค้าเราเขาไม่ได้นึกถึงประเด็นนี้เลย มันมีหลายคนที่ไลฟ์สดแล้วอาจจะไม่ได้รู้เรื่องของคน 100% เราเองก็เพิ่งมาไลฟ์สดไม่เกิน 30 วัน อาจจะมีบางอันที่เรารู้เรื่องกฎและไม่รู้ มันก็ทำให้เราเรียนรู้ขึ้นมาก”
เคลียร์แผลใจตัวเอง “เจนนี่” ไม่ได้ติดใจอะไรกัน จากนี้จ้างไลฟ์สดได้แต่คิดแพง ต้องเผื่อใจไว้กับดรามา
ไมค์ : “บรรยากาศวันนั้นเราสนุกกันมาก”
ปุ๊กลุก : “เจนนี่มืออาชีพและน่ารักมาก เราได้มาจอยกัน รู้จักกัน ได้เปิดแผงด้วยกันมันเป็นเรื่องดีมากๆ ในปัญหาที่เกิดขึ้นเราก็เรียนรู้และเติบโตไป ตอนแรกรู้สึกแย่มาก หลังจากไลฟ์ก็รู้สึกว่าเรามีแฟนคลับที่รักเรามากเลย เราก็แค่เรียนรู้ว่าบางเรื่องเราต้องเติบโตนะ ต้องรอบคอบกว่านี้นะ ก็จบไปที่เหลือคิดว่าเราควรกลับมาสนุกและมีความสุข"
"การไลฟ์สดเราต้องขายของให้ลูกค้า เพราะลูกค้าจ่ายเงินให้เรา เราต้องเต็มที่ทำให้ลูกค้ามีความสุข และอีกด้านเราก็ต้องให้ความสำคัญแฟนๆ เราต้องรอบคอบในพื้นที่ของคนอื่น ในพื้นที่ของเราเองมันเป็นสิทธิ์ของเราที่เราอยากมีความสุขแบบอันลิมิตยังไงก็ได้ เพราะแฟนคลับปุ๊กกับไมค์เข้าใจในสิ่งที่เราเป็น จากนี้ลูกค้าจ้างได้แต่คิดแพงมาก คิดแพงจริงๆ ขี้เกียจเจ็บหัวใจมันไม่คุ้มถ้าเราโดนดรามา"
"คนอาจจะมองว่าปุ๊กหิวแสง แต่บอกเลยไม่เคยมีความสุขกับดรามา ไม่เอาค่ะ มันไม่ได้สร้างความสุขและเงินทอง ถ้าเราไปแล้วมีแฟนคลับที่รักเรา แม้จะไม่ใช่เรื่องของเงิน แต่อยากกลับไปมีความสุขเราจะไป แต่ถ้าให้ไปแล้วไปเจออะไรที่ดรามา คิดว่าเราอาจจะคิดรอบคอบไม่เพียงพอ ถ้าให้รับคงอาจจะยัง”
บ้านใหม่ที่ช่วยกันสร้างร่วมกันมูลค่า 100 ล้านออกกันคนละครึ่ง
ปุ๊กลุก : “เป็นบ้านเราแหละ เหมือนเป็นน้ำพักน้ำแรง เราน่าจะซื้อบ้านก่อนหน้านี้ก็น่าจะ 10 กว่าปีแล้วค่ะ ก็เป็นซื้อร่วมกัน ตอนแรกวางแผนว่าจะเป็นที่ของไมค์ในการสร้างบ้าน แต่เหมือนเราไปเจอที่นี่แล้วเราชอบ น่าจะอยู่ประมาณหกเดือนในการตัดสินใจ”
ไมค์ : “6-8 เดือนประมาณนี้ คนละครึ่ง”
ปุ๊กลุก : “ตอนนี้อยู่ในการตรวจ”
ไมค์ : “ตอนนี้บ้านมีแล้วแต่กำลังตรวจบ้านอยู่”
ปุ๊กลุก : “ 70 ล้านยังไม่ได้ตกแต่ง สปอนเซอร์เข้าได้นะคะ ขาดทุกอย่างเลยนะคะ คือเราจะทำคลิปให้ดีมากเลย ขาดตั้งแต่ผ้าม่าน เครื่องครัว ที่มีแล้วอย่างเดียวคือคนข้างๆ ที่เหลือไม่มีเลย ถ้าสปอนเซอร์เข้าก็จะไม่ถึง 100 ล้านค่ะ แต่ก็วางๆ ไว้ คิดว่าน่าจะเข้าไปอยู่ได้อีก 8 เดือนถึง 1 ปี แต่ยังไม่มีฤกษ์ค่ะ อยากเข้าไปอยู่แล้วเพราะเริ่มผ่อนแล้ว”
“ปุ๊กลุก” ลั่นทะเลาะ “ไมค์” บ่อยเรื่องตด
ไมค์ : “ลมมันตี มันไม่มีทางออก มันมีแค่รูเดียวที่ออกได้ ไม่ไหว”
ปุ๊กลุก : “เขาตดทุกวัน ตดทั้งวัน มันดังมาก ใครที่เป็นทีมงานทุกคนจะรู้ว่าไมค์เป็นคนที่ตดตลอดเวลา ขออย่างเดียวอย่ามีกลิ่น ถ้ามีกลิ่นต้องเอาตัวเองไปยืนอยู่แถวๆ เครื่องฟอกอากาศ นี่ซื้อเครื่องฟอกอากาศสองชั้นนะ บางทีครั้งสองครั้งมันได้ แต่วันละห้าหกครั้งมันไม่ได้ไง (เขาบอกยิ่งดมยิ่งความจำดีนะ?) เคยเห็นข่าวว่าดมแล้วเสียชีวิตได้ด้วย เราทะเลาะกันมาหลายรอบแล้วเรื่องนี้”
ไมค์ : “ เคยได้ยินไหมกลิ่นปากเป็นเรื่องตลกแต่ถ้ากลิ่นตดเป็นเรื่องธรรมชาติ”
ไม่คิดมีลูก ไม่อยากหาเงินให้คนอื่นใช้
ปุ๊กลุก : “ไม่มีห้องลูกค่ะ มีห้องนึงเป็นห้องคุณพ่อ แล้วก็มีห้องนึงเป็นห้องคุณแม่ แล้วก็เป็นห้องที่ให้ญาติมาอยู่นอนได้ประมาณ 4-5 คน เราไม่อยากมีลูก นึกภาพตัวเองเป็นแม่ไม่ออก จะไม่ให้ใครใช้เงินเรา”
ไมค์ : “ส่วนผมเฉยๆ ทุกวันนี้ก็เลี้ยงลูกหมาอยู่แล้ว คือตอนนี้ก็ดูแลหลานอยู่สองสามคน กว่าเด็กจะโตได้มันเหนื่อยมาก กว่าจะส่งเรียน ขนาดหลานเรายังร้องไห้เลย แล้วถ้าเป็นลูกตัวเองเราคิดแล้วเราก็แบบค่อยคิดอีกทีนึง ส่งหลานให้จบก่อน”
