คึกคักตั้งแต่เริ่มต้นวันทีเดียว หลังจากที่ “อ.เบียร์ คนตื่นธรรม” โดดแจมเทศกาลเจนนี่ มาร่วมไลฟ์สดขายน้ำพริกกับ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” รัชนก สุวรรณเกตุ ถึงบ้าน ซึ่งเจ้าตัวออกปากเลยว่าวันนี้ไม่ได้มาเน้นยอดขาย แต่มาเอาฮา เพราะแค่ได้มาเจอเจนนี่ก็ตื่นเต้นมากแล้ว ขอมาด่าสักครั้งในชีวิต แต่สุดท้ายยอดขายก็ทะลุเป้า ได้ไปกว่า 2.1 ล้านบาท รวม 7,000 ออเดอร์ ซึ่งเจนนี่ลดค่าคอมมิชชั่นให้อ.เบียร์ 1 แสนบาท จากทั้งหมด 350,000 คิดแค่ 250,000 บาทเท่านั้น
แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว เจนนี่เลยถือโอกาสให้อ.เบียร์พูดให้กำลังใจหน่อย บอกตอนนี้เหนื่อยมาก มีดรามาทุกวัน เหนื่อยจนท้อ ซึ่งก็ตามสไตล์อ.เบียร์จะให้กำลังใจเฉยๆ คงไม่ได้ ต้องด่าให้ตั้งสติสักนิดนึง
“มึงจะเหนื่อยอะไร ดรามามึงมีทั้งชีวิต จะมาเหนื่อยอะไรเวลานี้ ทำไมไม่เหนื่อยตั้งแต่ตอนโน้น รีบเหนื่อยอะไรนักหนา ทำมาหาแดxไปก่อนจ้า เวลาดรามาแล้วมันขายได้ขายดีขายฉ่ำขนาดนี้ มันอยากจะดรามาอะไรก็ดรามาไปเลย โอ้ย จะมาอ่อนแออะไรเวลานี้ สู้อย่างเดียวจ๊ะ ปาไปกระโถนกูน่ะ เขวี้ยงเข้าไปเดี๋ยวมันก็ขายได้ ไปกลัวห่xอะไร สันขวาน เลิกดรามา ชีวิตอยู่กับดรามา ทุกวันนี้เราดรามากันเป็นเรื่องปกติ กูยังดรามาเลย ก็ยังรอดมาได้ทุกครั้ง นี่เส้นเสียงกูอักเสบกูยังสู้แทบตาย เวลาดรามาก็กิน เหนื่อยก็พักแค่นั้นแหละ ไม่ต้องคิดเยอะ ซีเรียสอะไร คนมันก็ดรามาไปเรื่อย
ชีวิตพวกมึงไม่เคยผิดพลาดกันเลย ไม่เคยดรามา ชีวิตไม่เคยทำคอนเทนต์แล้วที่มึงอัดคลิปคนอื่นไปทำเอนเกจฯ กันไม่เคยมีเลยในชีวิต โอ้ย ชีวิตอยู่กับความสุจริต แต่ดัดจริตมากกว่าสุจริต มีสตินิดนึงเนอะ แต่จริงๆ การอ่านคอมเมนต์เป็นเรื่องดี ถ้าวางใจได้ อันนี้เป็นพฤติกรรมที่ดี พอเรามีคนตำหนิติติงแล้วเรากลับมาแก้ไขสันดานตัวเองเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ก็ต้องเบรกบ้าง พวกมึงก็เบรกๆ ด่ามันบ้าง เบรกๆ หน่อย กูขอ ให้กูด่าคนเดียวพอ พวกมึงก็เบาๆ กันหน่อยไอ้สันดาน ถ้ามันทำอะไรผิดมาบอกกูนี่ เดี๋ยวกูมาด่ามันให้ ให้มันทำมาหาแดxช่วยเหลือคนอื่นบ้าง
แต่อย่างน้อยมันก็ทำบุญใช่ไหมล่ะ ก็อนุโมทนากับเขาหน่อย เขาได้รายได้มาเขาก็เอาไปทำบุญเอาไปทำประโยชน์ให้กับสังคมมูลนิธิ เราก็อนุโมทนากับเขา และทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่เขาสามารถจะทำได้ ด่าให้มันน้อยๆ หน่อย เวลาคนอื่นดีต้องยินดีกับเขา เวลาคนอื่นไม่ดีก็เฉยๆ ไว้ แต่เวลาดีหัดยินดีกันบ้าง”
นอกจากนั้น เจนนี่ ก็ขอให้ อ.เบียร์ พูดถึงเรื่องความกตัญญู ว่าคนเราต้องตอบแทนไปถึงแค่ไหนถึงจะพอดีกับสิ่งที่เราได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งอ.เบียร์ก็บอกว่าพ่อแม่เป็นผู้มีคุณูปการมาก ต้องตอบแทนไปจนกว่าพ่อแม่จะตาย แต่ก็ต้องรู้จักพอประมาณด้วย
“เราต้องเข้าใจว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คน เป็นผู้มีคุณูปการต่อลูกมาก พระพุทธเจ้าบอกว่าต่อให้พ่อแม่มานั่งอยู่บ่าขวาบ่าซ้ายของเราตลอด 100 ปี เราพาพ่อแม่เดินขี้เยี่ยวอยู่บนบ่าไหล่เรา ก็ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้อย่างสูงสุด เพราะเป็นผู้มีคุณูปการมาก แต่เราให้ข้าว ให้น้ำ ให้ยารักษาโรคแค่นี้ ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรเลย
ถ้าวันนึงสมมติเขาเป็นหนี้ สร้างหนี้สร้างสิน เรายังให้กันมาด้วย สมมติเฉยๆ นะ เจนนี่ให้เงินที่บ้าน ให้พ่อให้แม่ สมมติเดือนละแสน เราก็ถือว่าดูแลแล้ว ให้ข้าวให้น้ำดูแลพาไปเที่ยวปฏิบัติพัดวี นี่เรียกว่าดูแลแล้ว ส่วนที่เหลือเขาจะไปสร้างเหตุปัจจัยในการเป็นหนี้เป็นสิน อันนี้นอกเหนือจากที่เราดูแลแล้ว ถ้าเรามีกำลังดูแลได้ เราก็จะดูแลเขาได้ หรือไม่ดูแลก็ได้ เพราะเราดูแลพื้นฐานดี ที่เหลือเพราะเขาไปสร้างเหตุของตัวเขาเอง เขาต้องรับผลของการกระทำของตัวเขาเอง
ดังนั้นการที่ให้ตอบแทนบุญคุณแม่พ่อได้อย่างสูงสุดคืออะไร 1. พ่อแม่บางคนไม่มีศรัทธา ก็สอนให้พ่อแม่มีศรัทธา 2. พ่อแม่เป็นคนทุศีล ก็สอนให้พ่อแม่มีศีล หรืออย่างเล่นการพนันหรือการเป็นหนี้เป็นสิน ก็สอนเรื่องหนี้สินให้เขาเข้าใจ พ่อแม่เป็นคนขาดเขลาเบาปัญญา ก็ต้องสอนให้พ่อแม่มีปัญญา พ่อแม่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ไม่รู้จักให้ ก็สอนให้พ่อแม่รู้จักแบ่งปัน ศรัทธา ศีล ราคะ ปัญญา ปัญญาคือพ่อแม่ยังขาดปัญญา ยังไม่เข้าใจการใช้ชีวิตว่าสุดท้ายแล้วเราจะเอาเงินไปทำอะไรมันต้องมองเห็นโทษเห็นภัยก่อน ไม่ใช่ลงทุนไปแล้วหวังแต่ผลประโยชน์ แต่ไม่มองเห็นโทษที่จะเกิดขึ้น ถ้าเป็นแบบนี้สุดท้ายแล้วตัวเขาเองจะเดินสู่ความล่มจม
อภิชาตบุตรคือบุตรที่มีคุณธรรมเหนือพ่อแม่ เราก็ต้องเอาคุณธรรมเหล่านี้ไปบอกสอนต่อพ่อแม่ ไม่งั้นเราก็จะบกพร่องในการทำหน้าที่ของลูกด้วย พ่อแม่ก็ต้องมีคุณธรรมในการสั่งสอนลูก ไม่อย่างนั้นพ่อแม่ก็บกพร่องในการเป็นพ่อแม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นสุดท้ายแล้วความกตัญญูมันมีจุดสิ้นสุดไหม ไม่มีจุดสิ้นสุด เราต้องดูแลเขาจนตาย แต่รู้จักพอประมาณในการดูแล คนจะด่าเราอกตัญญู จะด่าเราว่าทำไมไม่ช่วยใช้หนี้ รวยก็รวย ไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง แต่เรายังดูแลเขาในบริบทที่เราสามารถดูแลได้ เราดูแลเขาอย่างดีไม่ลำบากลำบนจนกว่าจะตาย แม้เขาตายแล้ว เราก็ยังจะอุทิศบุญกุศลให้เขาด้วยซ้ำ สุดท้ายแล้วเราไม่ได้ทิ้งเขา เราต้องรู้จักพอประมาณ คนเราทุกคนต้องรู้จักพอประมาณ”
สุดท้ายอ.เบียร์ยังฝากถึงคนที่กดสั่งซื้อแล้ว แต่ยกเลิกสินค้า ทำให้เกิดความเสียหาย
“ไม่อยากให้ตัวเองเกิดผลแบบไหน อย่าไปทำแบบนั้นกับคนอื่นเขา วันนี้มึงอาจจะยังไม่ได้เป็นนักธุรกิจหรือไม่ได้เป็นพ่อค้าแม่ขาย มึงก็คิดว่ากดเล่นสนุกได้ แต่วันนึงมึงก้าวเข้าไปสู่วันนั้น ซึ่งมึงไม่รู้เลยว่าวันนึงมึงอาจจะไปสู่จุดนั้นก็ได้ ถ้าไปสู่จุดนั้นแล้วมึงจะต้องกลับมาเสียใจทีหลังว่ารู้งีักูไม่น่าทำอย่างนั้นเลย
เพราะฉะนั้นอย่ามารู้งี้ทีหลัง มีสติเยอะๆ เวลาเข้ามาดูมันสนุกก็จริง แต่อย่าสนุกบนพื้นฐานของความลำบากของคนอื่นเขา ทีนี้คราวหลังเวลาจะกด ถ้าเราไม่พร้อม ไม่มีเงินอย่ากด ถ้าใครพร้อมในการจ่ายเงิน กดจ่ายเงินเลย ใครไม่พร้อมอย่ากดสั่ง ขอเลยเรื่องนี้สำคัญมาก มันลำบากต่อคนอื่นเขา อย่าคิดว่าเขารวยแล้ว มันไม่ใช่ คนรวยค่าใช้จ่ายเยอะ สุดท้ายแล้วทุกอย่างมันเป็นต้นทุน มีค่าใช้จ่าย มีสติเยอะๆ รักชอบกันอย่าทำร้ายกัน มีสติเยอะๆ ฝากไว้ด้วย”
