xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนดูโพสต์ "อังคณา" กลัวเด็กกัมพูชาไม่ได้เรียน คนป่วยไม่ได้รักษา แถมเข้าใจ "มาลี" เฟกนิวส์เพราะนายสั่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถูกตั้งคำถามดังๆ ถึงการทำงานอยู่ในช่วงนี้สำหรับหนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาอย่างนางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและประธานกรรมการในคณะอนุกรรมการด้านสิทธิสตรีกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ/รองประธานในคณะอนุกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างชายแดนไทยกัมพูชา

ทั้งนี้เมื่อย้อนกลับไปดูการโพสต์เฟซบุ๊กของเจ้าตัวที่ Angkhana Neelapaijit นับตั้งแต่สถานการณ์ระหว่างไทยกัมพูชาเริ่มตึงเครียดจนเกิดเหตุปะทะกันในช่วงเดือนกรกฏาคมก็จะพบว่าเจ้าตัวมีการแสดงความเห็นถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ

แต่ที่น่าสนใจก็คือเธอประณาม/ติติงฝั่งกัมพูชาน้อยมาก แต่มุ่งวิจารณ์ฝั่งไทยเสียเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญไม่เคยมีการพูดถึงการเสียชีวิตความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยที่ถูกทหารกัมพูชายิงระเบิดเข้าใส่เลย

เริ่มกันตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. เธอโพสต์ประณามการวางกับระเบิดในพื้นที่ช่องอานม้า/เรียกร้องให้กัมพูชาเคารพหลักมนุษยธรรมและยึดแนวทางสันติวิธีในการแก้ปัญหา แต่อีกกว่าครึ่งพูดเรื่องประวัติที่มาของประติมากรรม "เก้าอี้ขาหัก" (Broken Chair)


วันที่ 24 ก.ค. วันที่เขมรยิงระเบิดถล่มใส่โรงพยาบาล บ้านเรือน ร้านค้า ได้รับความเสียหายมีคนตายเป็นสิบ แต่สิ่งที่เธอโพสต์ก็คือความกังวลจากข่าวที่เพจกองทัพบกขอความร่วมมืองดเผยแพร่ข้อมูลการปฏิบัติการของทหารโดยระบุว่า "เป็นการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน"


28 ก.ค. เธอโพสต์ขอความร่วมมือทุกฝ่ายเคารพข้อตกลงหยุดยิง ต้องอดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ และให้ผู้เสียหายเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการเยียวยาชดใช้เยียวยา


31 ก.ค. เธอแชร์ข่าวโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์เรื่องงดรับผู้ป่วยกัมพูชา พร้อมบอกถ้าเป็นเรื่องจริง "ถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก เป็นการเลือกปฏิบัติ และขัดกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ"


1 สิงหาคม เธอแสดงความเห็นถึงโฆษกหญิงของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาและต่อว่าชาวเน็ตไทยทำนองว่าที่โฆษกฯ แถลงข้อมูลไม่ถูกต้อง บิดเบือน ก็เพราะทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา กรณีนี้ไทยสามารถต่อต้านคำแถลง และชี้แจงข้อเท็จจริงได้ แต่ไม่ควรไปด้อยค่า ล่วงละเมิด หรือใช้ AI สร้างภาพโดยใช้เพศและความเป็นหญิงเพื่อแก้แค้นหรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์


3 สิงหาคม เธอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่ออกแถลงการณ์โต้ข้อกล่าวหาของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ที่กล่าวหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ของไทยว่านิ่งเฉยไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อการควบคุมตัวทหารกัมพูชา 20 นาย พร้อมบอกว่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชาไม่เป็นสากลเท่ากับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย


8 สิงหาคม เธอแสดงความเป็นห่วงเรื่องที่กองทัพตั้ง "บุ๋ม ปนัดดา" เป็นโฆษกจิตอาสาของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ตอบโต้ข่าวลวงว่าอาจจะทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้นพร้อมบอกว่าฝั่งไทยก็เฟกนิวส์เพียบบุ๋มจะกล้าแถลงมั้ย?


11 สิงหาคม แชร์บทความจาก "สุณัย ผาสุข" ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทยที่ระบุว่าการที่ไทยประกาศปิดปราสาทตาเมือนธมและยึดปราสาทตาควายนั้นเป็นการยั่วยุ เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมบอกว่าเสียเปรียบแน่หากไปขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ


13 สิงหาคม โพสต์แสดงความเป็นห่วงจากที่มีข่าว "กมธ." เสนอตัดงบประมาณการศึกษาเด็กกัมพูชา ว่าเป็นการ "ละเมิดสิทธิเด็ก"


28 สิงหาคม แชร์พาดหัวข่าว "ครูสะอื้น นักเรียนวัย 13 ถูกจับเข้าห้องขัง เตรียมสังกลับชายแดน" พร้อมบอกว่า... "เหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทยที่ถือเป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านสิทธิมนุษยชนมากที่สุดประเทศหนึ่งในภูมิภาค โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเด็ก #การนำเด็กเข้าคุกถือเป็นความผิดพลาดและน่าอับอายอย่างยิ่งของประเทศไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ..."


29 สิงหาคม โพสต์จวกเละเทอะกรณีผู้เกี่ยวข้องปล่อยประชาชนไปวุ่นวายที่ชายแดน รวมถึง "กันต์ จอมพลัง" ที่จะเอารถดูดส้วมไปขู่


เช่นเดียวกับล่าสุดเมื่อ 4 วันที่แล้วที่กลายเป็นประเด็นกรณีออกมาระบุว่าได้รับข้อมูลจากฝั่งกัมพูชาว่าอีกฝ่ายจะร้องเรียนว่าไทยละเมิดสร้างความเดือดร้อนในการนอนหลับก่อให้เกิดความวิตกกังวลและสร้างความไม่สบายทางร่างกายในหมู่ชาวบ้าน รวมถึงสตรี เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนพิการ การกระทำที่เป็นปฏิปักษ์และยั่วยุในลักษณะเช่นนี้ไม่เพียงเป็นอันตรายต่อสุขภาพกายและใจของพลเรือนกัมพูชาเท่านั้น แต่ยังอาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน การกระทำดังกล่าวไม่มีในสังคมอารยะใด ๆ และขัดแย้งโดยตรงกับหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ...





กำลังโหลดความคิดเห็น