“เชน คเชนทร์” แจงสิ้นสุดสัญญา “ฟรีน-เบ็คกี้” ไม่ใช่เรื่องช็อก เพราะไม่ได้มีปัญหากัน แค่ศิลปินอยากที่จะคัดเลือกงานเองมากขึ้น หยุดโปรเจกต์คู่ปลายปี ดีใจเติบโตไปอีกขั้น ได้ออกไปใช้ชีวิต
ทำเอาแฟนๆ ของสองสาวคู่จิ้น “ฟรีน สโรชา จันทร์กิมฮะ” และ “เบ็คกี้ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง” แอบตกใจอยู่ไม่น้อย ที่อยู่ๆ ค่ายต้นสังกัดอย่าง ไอดอลแฟคทอรี (IDOLFACTORY) ออกประกาศว่าทั้งคู่ได้สิ้นสุดสัญญาแล้ว หลังจากนั้นเพียงแค่ชั่วโมงเดียวฟรีน-เบ็คก็ประกาศบนโซเชียลมีเดียส่วนตัวอย่างเป็นทางการ ต่างฝ่ายต่างออกไปตั้งบริษัทของตัวเองแล้วเรียบร้อย ล่าสุดทางด้าน “เชน คเชนทร์ สดโพธิ์” ประธานกรรมการของบริษัท ไอดอลแฟคทอรี (IDOLFACTORY) อดีตต้นสังกัดของทั้งคู่ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า เป็นการจบกันด้วยดี ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาใดๆ
“ก่อนหน้านี้ช่วงที่ใกล้จะหมดสัญญาก็มีการพูดคุยกันว่าจะมีการทำงานต่อไปยังไงดี ก็มีการคุยเรื่องการทำงานแบบลงตัวที่สุด น้องก็อยากจะมีสิทธิ์รับงานเอง เลือกคัดงานเองในทางที่น้องอยากที่จะทำ ทางเราก็เน้นผลิตซีรีส์เป็นหลัก เราก็อยากทุ่มเทให้กับการผลิตซีรีส์ ก็เลยได้ความกันว่าน้องจะไปตั้งบริษัทที่ดูแลตัวเอง และเรามีงานอะไรก็ติดต่อน้องผ่านบริษัทครับ ก็คือมีการพูดคุยกันแล้วว่าเราจะดูแลกันยังไง หรือจะรับงานกันยังไง ไม่ได้มีปัญหากันครับ เมื่อเช้ายังคุยกับน้องอยู่เลยว่ามีงานอีเวนต์ติดต่อเข้ามา รวมไปถึงงานโปรเจกต์ข้างหน้าในอนาคต น้องก็บอกว่าพี่เชนดูให้หนูหน่อย เราก็บอกว่าเดี๋ยวดูให้
เรื่องที่น้องลงว่าเปิดบริษัทใหม่แล้ว คือเรียกว่าเป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้อยู่แล้วครับ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้ว เพียงแค่เราประกาศเรื่องหมดสัญญา ฟรีนก็ประกาศตั้งบริษัทฟรีน และต่อมาก็เป็นบริษัทของเบ็คกี้ เป็นการพูดคุยกันไว้อยู่แล้วครับ ก็คุยกันมาสักพักนึงแล้วครับ จากนี้เราก็ยังทำงานร่วมกับน้องปกติ เพียงแค่ว่าน้องมีบริษัทของตัวเอง ซึ่งการทำงานของบริษัทเราก่อนหน้านี้เราจะดูแลศิลปินด้วยการที่มีผู้จัดการแต่ละกรุ๊ป เวลามีงานอะไรก็จะติดต่อผ่านผู้จัดการน้อง แต่ตอนนี้ก็จะคุยผ่านบริษัทที่น้องดูแลครับ ถามว่าที่น้องออกมาเป็นเพราะเราไม่สามารถให้งานอื่นๆ น้องได้หรือเปล่า มันไม่เกี่ยวกับการที่เราไม่สามารถให้ได้ครับ แต่น้องต้องการเลือกรับงานเองมากกว่า”
บอกไม่ได้ช็อกที่เกิดเรื่องแบบนี้ เพราะยังร่วมงานกันอยู่
“การทำงานจากนี้จะยากขึ้นไหม ผมคิดว่าเรามีมาตรฐานเดียวกันดีกว่า ในการรับงานบางอย่างที่เราคิดว่าไม่เหมาะกับน้อง เราก็จะแค่ยังไม่ตอบรับ และรีเช็กกับน้องว่าพี่คิดแบบนี้นะ หนูคิดเหมือนกันไหม ถ้าคิดเหมือนกันเราก็ปฏิเสธในการรับงาน แต่ถ้ามันใช่และเราคิดว่าสิ่งนี้น้องน่าจะรับได้ ก็แค่เช็กคิวกับทางน้อง ซึ่งปกติแล้วการที่น้องยังอยู่ในค่าย ก็มีการเช็กคิวกับน้องเป็นประจำอยู่แล้ว คือมันก็ไม่ใช่เรื่องช็อก เพราะเรายังทำงานด้วยกันอยู่ ถ้าจบแล้วแยกย้ายกันไม่ได้ทำงานร่วมกันแล้ว อันนี้น่ากังวลและน่าตกใจ
ตอนนี้ก็ถ่ายทำ 4 Elements อยู่นะครับ ซึ่งดินน้ำลมไฟก็เปิดกองพร้อมกัน ก็จะมีการสลับสับเปลี่ยนคิวกันตามคิวนักแสดงต่างๆ ช่วงนี้ฟรีน-เบ็คไปฝรั่งเศส ก็ขอคิวอิงฟ้า-ชาล็อตมาถ่ายเรื่องน้ำก่อน เดี๋ยวถ้าเรื่องใดเรื่องหนึ่งปิดกล้องหรือคิวน้อยลง ก็จะถ่ายเรื่องไฟเป็นเรื่องสุดท้าย ทุกอย่างยังดำเนินไปปกติ แค่เดี๋ยวรอจบโปรเจกต์นี้ เพราะว่าโปรเจกต์นี้น้องค่อนข้างที่จะเหนื่อยมาก อย่างพี่ฟรีนก็ต้องระเบิดภูเขาเผากระท่อม ยิงปืน ออกทะเล ก็เลยอยากให้น้องโฟกัสแค่ตรงนี้ก่อน แล้วพอจบโปรเจกต์นี้ก็จะมีการพูดคุยกันถึงโปรเจกต์ต่อๆ ไปว่าเราจะยังไงกัน
ส่วนโปรเจกต์คู่ของน้องที่วางไว้ปลายปี มันเป็นการหยุดไว้ก่อน คือมันไม่เกี่ยวกับการยุติสัญญา แต่มันคือตั้งแต่แรกว่าถ้ากำหนดการเดิมต้องเปิดกล้องไปตั้งนานแล้ว เพียงแต่เราอยากโฟกัสกับ 4 Elements ก่อนครับ ยืนยันว่ากับค่ายไม่ได้มีปัญหากันครับ
ไม่ใช้คำว่าใจหาย ใช้คำว่าดีใจกับน้องดีกว่าครับ ที่น้องได้เติบโตไปอีกขั้นนึงแล้ว น้องจะได้ออกไปเติบโต ไปหาประสบการณ์ ได้ใช้ชีวิตในอีกแง่มุมนึงครับ การรับงานคู่ของทั้งคู่ ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น เพราะปกติแล้วการทำงานร่วมกับฟรีน-เบ็คเป็นอะไรที่เราเข้าใจน้องว่าสิ่งไหนที่โอเค สิ่งไหนที่น้องชอบ ไม่ชอบครับ”
