xs
xsm
sm
md
lg

Engagement คืออะไร? เทคนิคสร้างธุรกิจเติบโตยั่งยืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Engagement คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญต่อกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ 

สินค้าและบริการทุกชนิดต่างมีตัวเลือกและคู่แข่งมากมายในปัจจุบัน การมีส่วนร่วมกับแบรนด์หรือ Engagement คือหัวใจสำคัญที่นักการตลาดทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพราะการสร้าง Engagement ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำคอนเทนต์ให้มียอดไลก์เยอะ ๆ เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับลูกค้า ทำให้แบรนด์สามารถสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเปลี่ยนผู้ติดตามให้กลายเป็นลูกค้าที่ภักดีได้ในที่สุด 

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจว่า Engagement คืออะไร และมีบทบาทสำคัญต่อการตลาดในยุคปัจจุบันอย่างไรบ้าง พร้อมกลยุทธ์สร้าง Engagement ที่นำไปใช้ได้จริง
 
Engagement คืออะไร? สำคัญต่อยุคดิจิทัลมากแค่ไหน

Engagement หมายถึง การมีส่วนร่วมหรือปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคบนช่องทางดิจิทัล เช่น โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Instagram TikTok หรือ YouTube ซึ่งการมีส่วนร่วมนี้ไม่จำกัดอยู่แค่การกดไลก์ แต่ยังรวมถึงการแสดงความคิดเห็น การแชร์ การบันทึกโพสต์ หรือแม้แต่การคลิกเข้าชมเว็บไซต์ การวัดผลยอด Engagement คือสิ่งที่ทำให้นักการตลาดสามารถประเมินประสิทธิภาพของคอนเทนต์และกลยุทธ์ที่ใช้ได้ชัดเจนขึ้น

ในยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากมาย การตลาดแบบยิงโฆษณาเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เอาชนะคู่แข่งได้อีกต่อไป การมีส่วนร่วมของลูกค้าจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ Engagement คือสิ่งที่ช่วยให้แบรนด์ได้เข้าถึงเสียงของผู้บริโภคอย่างแท้จริง การที่ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์อย่างต่อเนื่องย่อมแสดงให้เห็นว่าสนใจแบรนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและทำให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืน
 
Engagement มีกี่ประเภท? สิ่งที่นักการตลาดควรรู้
เมื่อพูดถึง Engagement หลายคนอาจนึกถึงแต่ยอดไลก์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว Engagement คือการนับรวมส่วนร่วมบนโลกดิจิทัลที่มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละประเภทก็สะท้อนถึงระดับความสนใจของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไป ดังนี้

Like / Reaction
นี่คือรูปแบบของ Engagement ที่พบได้บ่อยที่สุด เป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกหรือความเห็นด้วยแบบง่าย ๆ เช่น การกด Like, Love, Wow หรือ Angry เป็นต้น แม้จะเป็นการมีส่วนร่วมในระดับเบื้องต้น แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าคอนเทนต์ของสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้

Comments
การแสดงความคิดเห็นเป็น Engagement ที่มีคุณภาพสูงกว่าการกดไลก์ เพราะแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจในคอนเทนต์นั้น ๆ มากพอที่จะใช้เวลาพิมพ์ข้อความ และยังเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าได้โดยตรง

Shares
สิ่งที่เป็นที่ต้องการที่สุดของ Engagement คือการแชร์คอนเทนต์ เพราะนอกจากจะช่วยกระจายคอนเทนต์ออกไปในวงกว้างแล้ว ยังเป็นการยืนยันว่าผู้บริโภคชื่นชอบคอนเทนต์นั้น ๆ มากพอที่จะแนะนำให้กับผู้อื่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทั้ง Brand Awareness ทั้ง Reach และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

Click-Throughs
การคลิกเพื่อเข้าชมเว็บไซต์หรือลิงก์ต่าง ๆ ที่แนบมากับโพสต์ แสดงให้เห็นถึงความสนใจในระดับที่ลึกขึ้น ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการทำ Engagement Content เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปใน Customer Journey
 
สร้าง Engagement ให้ได้ผลด้วย 5 กลยุทธ์
 
หากอยากสร้าง Engagement ให้ประสบความสำเร็จไม่ควรพึ่งแค่โชค หวังว่า Content ที่สร้างจะเป็น Viral แต่ต้องอาศัยการวางแผนและกลยุทธ์ที่รอบด้าน ซึ่งนักการตลาดสามารถเริ่มต้นได้จาก 5 กลยุทธ์พื้นฐานในการสร้าง Engagement คือ

1. สร้าง Buyer Persona ให้ชัดเจน
ก่อนจะสร้างคอนเทนต์ใด ๆ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการทำความเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายว่าคือใคร พวกเขาสนใจเรื่องอะไร มีพฤติกรรมบนโซเชียลมีเดียอย่างไร การทำ Buyer Persona ที่ชัดเจนจะช่วยให้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจและกระตุ้น Engagement ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. กำหนด Brand Voice ให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
หนึ่งในสิ่งสำคัญเพื่อสร้าง Engagement คือ การมี Brand Voice หรือบุคลิกภาพของแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยสร้างความน่าจดจำและทำให้แบรนด์ดูเป็นมนุษย์มากขึ้น ควรกำหนดโทนและสไตล์การสื่อสารให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้นเคยและอยากมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้น

3. วางแผนคอนเทนต์ร่วมกับทีม
Engagement Marketing คือการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย ทั้งทีมการตลาด ทีมคอนเทนต์ และทีมกราฟิก การวางแผนร่วมกันจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจเป้าหมายเดียวกัน เข้าใจ Buyer Persona และสื่อสารด้วย Brand Voice ที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ มีคุณภาพและตามเทรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง

4. จัดทำ Content Calendar และเริ่ม Publish
การจัดทำ Content Calendar กำหนดช่วงที่ Content ต่าง ๆ ควรเสร็จสิ้น จะช่วยให้การผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์เป็นไปอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดช่วง นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถวางแผนแคมเปญต่าง ๆ เพื่อสร้าง Engagement ได้ล่วงหน้า ควรกำหนด Calendar เป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือน

5. วัดผลและปรับปรุงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง
เพื่อให้คอนเทนต์ตรงตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด สิ่งสำคัญสำหรับการสร้าง Engagement คือต้องมีการวัดผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อดูว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ได้ ยอด Engagement สูงสุด หรือโพสต์แบบใดที่ได้ Engagement Rate ดีที่สุด จากนั้นจึงนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงและพัฒนาคอนเทนต์ให้ดีขึ้นในอนาคต
 
เพิ่มพลังการตลาดด้วย Engagement และคอนเทนต์คุณภาพ
ในทุก ๆ วัน เกิดธุรกิจใหม่ ๆ ขึ้นเสมอพร้อมคู่แข่งอีกจำนวนนับไม่ถ้วน Engagement คือสิ่งสำคัญสำหรับแบรนด์ การสร้าง Engagement ให้เกิดขึ้นจึงไม่ใช่แค่ทางเลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้ แต่คือสิ่งจำเป็นที่ควรปฏิบัติ ยิ่งแบรนด์สามารถสร้าง Engagement ได้ดีเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสเติบโตและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นเท่านั้น การเข้าใจว่า Engagement Rate คืออะไรอย่างถี่ถ้วน จะช่วยให้สามารถวัดผลความสำเร็จได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

หากกำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มพลังในการสร้างคอนเทนต์ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้กับแบรนด์ Wisesight มีแพลตฟอร์มช่วยวิเคราะห์หรือเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

• Zocial Eye: แพลตฟอร์ม Social Listening ที่ช่วยให้วิเคราะห์ Engagement เชิงลึกบนโซเชียลมีเดียได้อย่างครอบคลุม ช่วยวิเคราะห์ Sentiment ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เข้าใจเสียงของผู้บริโภค วางกลยุทธ์ได้แม่นยำ และสร้าง Key Message ที่ทรงพลังและตรงใจมากยิ่งขึ้น
• Influencer Directory: แพลตฟอร์มที่ช่วยให้สามารถค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมฟีเจอร์สำหรับประเมินประสิทธิภาพและ Engagement ของคอนเทนต์แต่ละชิ้น
• Message Center: แอปพลิเคชันที่ช่วยมอนิเตอร์ข้อความและการ Mention บนโซเชียลแบบเรียลไทม์ ทำให้ไม่พลาดทุกโอกาสในการสื่อสารและสร้าง Engagement กับลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

การลงทุนในเครื่องมือที่ใช่ จะช่วยให้สามารถสร้าง Engagement และขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลได้อย่างแน่นอน







กำลังโหลดความคิดเห็น