“แฉะ องอาจ” ไม่เถียง “ณเดชน์” คือเดอะแบกหนัง “ธี่หยด” เป็นคนที่ทรงพลังทำให้หนังมีความเจ๋งขึ้น เชื่อธี่หยดไม่มีณเดชน์ อาจจะมาไม่ถึงวันนี้ รู้สึกตกหลุมรักและโชคดี เป็นเกียรติประวัติกับชีวิตที่ได้ร่วมงานกับณเดชน์
รายได้ทะยานเข้าสู่ 200 ล้านแล้วสำหรับภาพยนตร์ “ธี่หยด 3” ที่ภาคนี้โซเชียลต่างร่วมอาลัยจ่าปพันธ์ ผู้ที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับยักษ์ตั้งแต่ภาคแรกมาตลอด “แฉะ องอาจ เจียมเจริญพรกุล” ผู้รับบท จ่าปพันธ์ ได้เล่าเรื่องราวความผูกพันกับ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ผู้รับบทเป็นยักษ์ คู่ซี้ต่างวัยช่วยกันบู๊กับผี
“ธี่หยดภาค 3 เจอผีทั้งกองทัพ จ่าปพันธ์เขามีคำพูดที่ว่าผีชุมกว่ายุงอีกนะเว้ย การเดินทางไปบ่องสะโหนดเบียง มันเป็นการผจญภัยที่สนุก ต้องข้ามน้ำ ต้องไปเจอผีทุกชนิด เพื่อไปช่วยยี่ จะไม่ใช่แค่ยักษ์กับจ่าปพันธ์ที่มาปราบผี ภาคนี้มีทัพเสริมมาด้วย นอกจากความสยองแล้วสิ่งหนึ่งที่เป็นแกนของธี่หยด และเป็นสาเหตุของทุกๆ เหตุการณ์คือครอบครัว พลังความรักที่มีให้กันในครอบครัว ภาค 3 ก็ยังมีตรงนั้น คนดูจะสัมผัสได้เลยว่าพลังงานความรักของคนในครอบครัวที่มีให้แก่กันมันดี มันฟูลฟีลและอิ่มเอม ผมจะร้องตั้งแต่อ่านบทแล้ว หลายคนมีน้ำตาแน่นอน
ในส่วนของจ่าปพันธ์ เป็นคนที่ร่วมเดินทางไปกับยักษ์ ค่อนข้างสนิทกับครอบครัวยักษ์มาก สำหรับจ่าปพันธ์เขารักยักษ์เหมือนลูกชาย เหมือนเพื่อน เหมือนน้อง เพราะทั้งคู่เชื่อมโยงกันมาจากการเป็นทหารมาเหมือนกัน จ่าร่วมอยู่ในเหตุการณ์สำคัญของครอบครัวนี้มาตลอดและไม่เคยทอดทิ้งครอบครัวนี้ หน้าที่ของจ่าปพันธ์ในเรื่องเหมือน มอร์แกน ฟรีแมน เป็นตัวละครที่ตัดย่อหนังให้คนดูรู้ว่าตรงนี้อย่าไปนะ เปิดหน้าดินต้องทำอย่างนี้ เข้าป่าอย่าส่งเสียงเหมือนคนที่คุมกฎ รอบรู้ เล่าให้คนดูเข้าใจง่ายมากขึ้น จ่าปพันธ์ไม่ใช่หมอผี เกิดความพลาดได้ ถูกยิงได้”
“ณเดชน์” คือยักษ์สำหรับตนทั้งในจอและนอกจอ เป็นเดอะแบกของ “ธี่หยด”
“ผมทำการบ้านเยอะ พยายามคลุกคลีกับณเดชน์ จนทุกวันนี้ผมแสดงข้างณเดชน์ผมยังเชื่ออยู่เลยว่าเขาคือยักษ์จริงๆ นอกกองผมก็เรียกเขาไอ้ยักษ์ ตัวณเดชน์เขาทำให้ผมเชื่อว่าเขาคือยักษ์จริงๆ เขาเก่งจริงๆ รวมถึง Behind the Scene บางซีนเรายังชื่นชมว่าเขาเก่งจริงๆ เก่งกว่ายักษ์ในหนังอีก บางคนเรียกเขาว่าเดอะแบก ผมไม่เถียงเลย เพราะเขาทำแบบนั้นจริงๆ ด้วยความเก่งของเขา เขาทำให้หนังน่าดูขึ้น ถ้าเขาคือออปชั่น มันก็เป็นออปชั่นที่ทรงพลังมาก เขาทำให้หนังเจ๋ง ผมนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นพระเอกคนอื่น ธี่หยดอาจจะมาไม่ถึงวันนี้ มันเป็นเพราะณเดชน์จริงๆนะ”
ครูพักลักจำการทำงานของ “ณเดชน์” มาปรับใช้กับตน ชื่นชมเป็นนักแสดงที่ดีมาก
“เขาเองก็เล่นหนังมาหลายเรื่อง แต่ผมมองว่าเรื่องนี้มันตรงจริตเขามากๆ เขาได้ปล่อยพลังเต็มเหนี่ยว เขาทำการบ้านหนังมาในบทของเขา เขาทำการบ้านเกี่ยวกับตัวละคร ทำช็อตโน้ต เขียนเหมือนหนังสือติวเลย ไดนามิก ภาคที่แล้วเขาเล่นไว้ยังไง ต้องมาต่ออารมณ์กับบทตรงนี้ยังไง ซึ่งเขาทำแบบนี้ในทุกๆ ภาค ผมพูดอย่างไม่อายผมเรียนรู้จากเขา ครูพักลักจำณเดชน์มา
รวมถึงเรื่องของการมีวินัยการทำงาน การกินอยู่ของเขา เขามีวินัยสูงมาก และการมีวินัยของเขามันทำเพื่อเอาไปใช้กับการทำงานจริงๆได้ ถ้ามีคนบอกว่าที่เขาทำเพราะอยากหุ่นดีไง ก็ใช่สิเพราะมันคืออาชีพเขา มันคือการทำงานของเขา เขาอินกับตัวละครไหนเขาก็จะทำการบ้านกับร่างกายของเขาในแบบนั้น มันคือคุณสมบัติของนักแสดงที่ดี มันสร้างความเชื่อให้หนังว่าคุณคือตัวละครนั้นจริงๆ มันคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเขามาก หากวันนึงผมกลับไปกำกับ ผมควรจะเลือกนักแสดงยังไง นักแสดงที่ดีคือเป็นยังไง”
ตกหลุมรัก “ณเดชน์” ในใส่ใจทุกคนที่พบเจอ โชคดีและเป็นเกียรติประวัติกับชีวิตที่ได้ร่วมงานกับพระเอกหนุ่ม
“เขาไม่ใช่คนบ้าพลังนะ แต่เขาเป็นคนที่รู้สัดส่วนในการใช้ชีวิตมากๆ ณเดชน์มีความรู้ความเชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์การกีฬาที่เป๊ะมาก บางวันผมเหนื่อยมาก บางวันผมเป็นตะคริว เขาก็เขามาดูแล มาแนะนำ พี่ต้องกินแมกนีเซียม พวกกล้วยหอม เขาแนะนำมาหลายอย่างมาก ผ่านไป 2 อาทิตย์เจอกัน เขาหอบวิตามินมาให้ แนะนำพี่กินตัวนั้นตัวนี้นะ ถ้าพี่วิ่งพี่ต้องกินตัวนี้นะ เราก็ถามเท่าไหร่แบร์ ผมจะจ่ายให้เขา เขารีบส่ายหัวไม่เป็นไรพี่ผมมีเยอะ ผมเอามาให้พี่
บางทีผมก็ปรึกษาเขาเรื่องพวกนี้แหละ เราอายุเยอะแล้ว แล้วเรามาบู๊มันก็มีปวดเมื่อย มีอาการต่างๆ นานา ถ้าได้เจอกันอีกเขาก็จะขนอาหารเสริมมาให้อีก ที่เขาให้เราไม่ใช่ว่าเราเป็นจ่าปพันธ์ ผมเห็นเขาเอาของมาให้คนนั้นคนนี้ตลอดเวลาที่ได้เจอกัน เขาใส่ใจทุกคนในกองถ่าย และเขาจำรายละเอียดที่คุยกันได้ เขาไม่เคยลืมสักครั้งเลยนะ ผมยังคิดจะมาสนใจคนอะไรมากมายขนาดนั้น แค่คุยกันผ่านๆ ทั่วไปกับผู้คนที่พบเจอ แต่ไม่ใช่เขา เขาใส่ใจทุกคน แล้วเขาไม่ได้เอามาให้ส่งๆ เรารับรู้ได้ว่าเขาตั้งใจเอามาให้เราจริงๆ
เป็นเรื่องที่ทำให้ผมหลงรักณเดชน์มากๆ ผมกลายเป็นแฟนคลับเขาไปเลย รักเขาแล้วไม่ผิดหวังเลย เขาทำให้ทุกคนเห็นว่าเขาครบเครื่องมาก และนิสัยดี มันทำให้ผมอยากจะร่วมงานกับเขาทุกครั้งถ้ามีโอกาส อยากจะพุ่งไปกับเขาทุกครั้งก็คือณเดชน์ มันเป็นเกียรติประวัติที่ดีมากๆเลยสำหรับผม ความดีมีอัธยาศัยของเขามันทำให้ผมรู้สึกมีความสุข รู้สึกว่าชีวิตเราไม่ผิดพลาดกับการที่ได้มาร่วมงานกับเขา ผมได้รับสิ่งดีๆ จากณเดชน์เยอะมาก เป็นโชคดีในชีวิตของผมที่ได้มาร่วมงานกับณเดชน์ เขาทำให้ผมรู้ว่าการเป็นนักแสดงที่ดีเขาเป็นกันยังไง”
