xs
xsm
sm
md
lg

“ทราย สก๊อต” เคลียร์เลือกร่วมม็อบคว่ำบาตรอิสราเอล แต่ไม่เคยเป็นกระบอกเสียงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทั่วโลกต่างออกมาเดินขบวนประท้วงแสดงจุดยืนร่วมขบวนประท้วงเพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซ่า ซึ่งในวันเสาร์ (4 ต.ค.68) ที่ผ่านมาประเทศไทยก็ได้มีการนัดรวมตัวกันชุมนุมบุกไปหน้าหน้าสถานทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลคว่ำบาตรอิสราเอล ในขบวนประท้วงมีนักอนุรักษ์ธรรมชาติชื่อดัง “ทราย สก๊อต” หรือ “สิรณัฐ สก็อต” มาร่วมเดินขบวนและปราศรัยด้วย

อีกทั้ง ทราย สก๊อต ยังได้โพสต์ร่ายยาวถึงเรื่องกาซ่า มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงอะไรกับประเทศไทยเราจึงต้องคว่ำบาตรอิสราเอล

“Protect our children! เรื่องที่กาซ่าเกี่ยวกับไทยอย่างไร?

ประเทศของเรามีความโชคดีที่ไม่เคยถูกยึดเพื่อเป็นอณานิคมของประเทศฝั่งตะวันตกเหมือนประเทศเพื่อนบ้านเรา..แม้ว่าทรัพยากรเราที่ (เคย) สมบูรณ์แบบเป็นสมบัติที่หลายๆ ประเทศต้องการ ประเทศฝั่งตะวันตกและตะวันออกมักจะตั้งที่ภูมิศาสตร์ที่ไม่มีความหลากหลายทางชีวภาพพอที่อำนวยต่อ ธุรกิจ ท่องเที่ยว - หรือการ ผลิตผลเกษตรนั้นคือเหตุผลที่เขาต้องการทรัพยากรประเทศอื่น ..(swiss chocolate ไม่ใช่ของประเทศ สวิสจริงๆเพราะตัวช็อกโกแลตมาจาก africaหรือตัวอย่างทุเรียนไทยที่ไม่สามารถนำไปปลูกที่อื่นได้)...
ณ วันนี้ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวของเราเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะภูเก็ต ปายที จ.แม่ฮ่องสอน มักจะมีข่าวเรื่องชาวต่างชาติที่อยู่ยาวเกิน visa กับเปิดธุรกิจส่วนตัวแม้ว่าตนเองไม่พูดภาษาไทย (ซึ่งผิดกฎหมาย)และมีพฤติกรรมเบียดเบียงต่อชาวไทยในพื้นที่...ธุรกิจและการอยู่อย่างผิดกฎหมายของชาวต่างชาติส่งผลให้ราคาเช่าบ้านกับข้าวของในพื้นที่แพงขึ้นจนทำให้คนไทยไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้

นักธุรกิจไทยในพื้นที่เองมักจะรีบขายและจับมือทำธุรกิจกับบุคคลต่างชาติทำอย่างผิดกฎหมายและไม่จ่ายภาษี.... เจ้าหน้าที่เราเองที่มีหน้าที่ตรวจสอบ VISA กับเอกสารทำธุรกิจต่างชาติปล่อยผ่านเพราะไม่เข้าใจว่าเงินที่ได้จากชาวต่างชาติจริงๆแล้วเป็นเพียงแค่เศษเม็ดเงินถ้าเทียบกับมูลค่าแท้จริงของทรัพากรของเรา.. นี้คือวิธีการตั้งอาณานิคมแบบสมัยใหม่โดยไม่ใช้ความรุนแรงแต่อาศัยสังคมในประเทศชาติที่แตกแยกและไม่รักษากันและกัน...

ทาง UN และ ICC ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่อิสราเอลทำ ปาเลสไตน์ คือการฆ่าล้างคนในพื้นที่... แต่คุณรู้มั้ยว่าทางสหรัฐและอิสราเอลมีแพลนธุรกิจเจาะน้ำมันในพื้นที่ทะเลไม่ไกลจากกาซ่า? รู้มั้ยว่าธุรกิจหลักของอิสราเอลคือการขายอาวุธสงคราม (ซึ่งประเทศไทยเองเป็นหนึ่งในลูกค่าของเขา) ประเทศอย่างอิสราเอลที่ขายอาวุธสงครามต้องมีการทดลองการใช้งานอาวุธและพื้นที่เหล่านี้มักจะเป็นพื้นที่สงครามเสมอ

สิ่งที่ทรายและชาวโลกมองเห็นกับโศกนาฏกรรมในพื้นที่ ปาเลสไตน์ คือนี้ไม่ใช่แค่สงครามทางศาสนาแต่มันคือการตั้งอาณานิคม..... กลับมาที่ไทย- เมื่อทหารของอิสราเอลมีเวลาพักผ่อนเขามาที่ไทยเขามา ปาย พะงัน ภูเก็ต เขาไม่ได้มาเที่ยวแต่มาอยู่ยาว..เขามาสร้างชุมชนและเปิดธุรกิจในพื้นที่ประเทศไทยที่คนไทยเราเองไม่มีส่วนรวมหรือเป็นเจ้าของ เรากลายเป็นที่ปลอดภัยสำหรับผู้ก่อการร้าย...ทหารที่สามารถยิงเด็กได้ด้วยข้อแก้ตัวว่าเด็กคนนั้นเป็นผู้ก่อการร้าย

ประเทศไทยของเรามีวัฒนธรรมและพี่น้องชาวอิสลามเช่นกันถ้าชาวอิสราเอลหรือทหารของเขารู้สึกว่าเขามีอำนาจและอภิสิทธิ์ที่จะทำร้ายคนอื่นๆเพราะสิ่งที่เขาทำใน กาซ่า ไม่ถูกประณามหรือต่อต้านจากคนทั่วโลก-เขาก็จะสามารถทำกับประเทศไทยและประเทศอื่นๆได้เช่นกัน สิ่งที่เขากำลังทำไม่ใช่สงครามแต่สร้างอำนาจและพลักขอบเขตของมนุษยชาติของพวกเราชาวโลก

เราไม่สามารถเปลี่ยนโลกได้แต่เรามีอำนาจที่จะเปลี่ยนบทบาทและความสัมพันธ์ที่ประเทศไทยเรามีกับอิสราเอลได้ เราต้องหยุดทำธุรกิจในทุกๆมิติกับพวกเขา...ในพื้นที่ ภูเก็ต พะงัน ปาย สมุย หน่วยงานเกี่ยวข้องของเราช่วยตรวจสอบ visa และ ธุรกิจแอบแฝงในพื้นและกล้าบังคับใช้อำนาจกฎหมายประเทศเราให้ชาวต่างชาติเข้าใจขอบเขตของวัฒนธรรมและประเทศของเรา

การที่เราออกมาใช้เสียงและมีจุดยืนเป็นสิ่งที่ดีเพราะมันคือการรักษาเสียง ความหวังและตัวตนของเรา.. ดีกว่านั้งที่บ้านและคิดว่ามันเป็นปัญหาของคนอื่นที่จะแก้ไข..เพราะเรื่องตางชาติกับประเทศเราคือเรื่องของเราคนไทยที่จะต้องแก้ไขครับ

เกิดมาครั้งเดียวเราต้องทำให้มีอนาคตที่ดีขึ้นครับ”

โพสต์ของ ทราย สก๊อต มีชาวเน็ตเข้ามาเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก และขอบคุณทรายที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และทำร้ายกันโดยเฉพาะกับเด็กๆ แต่ก็มีผู้คนบางส่วนเห็นต่าง มองว่าทำไมทรายไม่ช่วยเป็นกระบอกเสียงในความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา น่าจะเหมาะสมกว่า ซึ่งทรายได้ออกมาตอบคำถามในประเด็นนี้ว่า….

“การที่ผมมาเดินออกเสียงเรื่อง ปาเลสไตน์ ไม่ได้หมายความว่าผมไม่ได้มองว่าเรื่องชายแดนเขมรไม่ได้สำคัญ เราสามารถที่จะแคร์และใส่ใจทุกๆ เรื่องที่เกิดขึ้นกับบ้านเราพร้อมๆ กันอยู่แล้วซึ่งถ้าติดตามทรายจะเห็นทรายใช้สิทธิเสียงพูดเรื่องราวในประเทศไทยเราเสมอ....แต่หากว่าไม่พอใจในวิธีการหรืออยากให้ทรายมาเป็นเสียงให้กับอีกหลายเรื่องทรายต้องบอกว่าไม่ต้องรอทราย คุณสามารถเป็นเสียงให้กับเรื่องราวที่คุณไม่สบายใจได้เลยครับ

ทรายเชียร์ให้เราใช้เสียงสำหรับเรื่องที่ใจเราอยากพูด แต่ต้องคิดวิเคราะห์จากหัวใจที่ไม่ได้มีพื้นฐานที่อคติต่อชาติพันธุ์หรือด้อยค่าศาสนาและประเทศคนอื่นๆนะครับ... เราเกิดมาเป็นมนุษย์ชีวิตเราเป็น gift เกิดมาครั้งเดียวใช้ใจเราและจุดยืนของเราให้คุ้มค่าครับ 💙🇹🇭

อย่าลืมเลิกใช้หลอดด้วยครับ”



























กำลังโหลดความคิดเห็น